ไขข้อสงสัย กู้ซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่อนหมดไว ลดต้นลดดอกงบไม่บานปลาย

หลายคนต้องเจอกับปัญหาผ่อนบ้านนาน ระยะยาว 30 ปี ยอดการผ่อนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี แม้ว่าจะมีการส่งค่างวดบ้านอย่างสม่ำเสมอ ไม่ได้ขาดการส่งเลยแม้แต่งวดเดียว พอสิ้นปีไปเช็กดูยอดเงินต้นที่เหลืออยู่ก็ดูจะไม่ลดลงไปเยอะสักเท่าใด เห็นแล้วเป็นท้อ ... สาเหตุที่ยอดกู้ยังเหลือเยอะนั่นก็เป็นเพราะว่าจำนวนเงินที่เราผ่อนในแต่ละเดือนนั้นถูกนำไปจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ไม่ใช่ไปตัดแค่เพียงเงินต้นอย่างเดียว ดังนั้นในวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการ กู้ซื้อบ้าน ว่าจะต้องทำอย่างไรให้สามารถผ่อนหมดไว งบประมาณในการผ่อนบ้านไม่บานปลาย จะมีข้อมูลอะไรบ้างนั้นตามไปดูกัน 

เปิดวิธีผ่อนบ้านให้หมดไว ลดต้นลดดอกงบไม่บานปลาย

• มองหาเงื่อนไขของทางธนาคาร ที่เราต้องมองหาก็คือสามารถที่จะโปะปิดยอดได้ตั้งแต่การผ่อนในปีแรกหรือการผ่อนในช่วง 3 ปีแรก หรือเมื่อมีการจ่ายค่างวดปกติกับทางธนาคารแล้วก็สามารถที่จะจ่ายโปะเพิ่มได้ตามจำนวนที่เราต้องการ ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้เราสามารถที่จะเข้าไปผ่อนเพิ่มเพื่อลดทั้งต้นได้แบบเห็นเนื้อกว่า นั่นคือยอดกู้ลดลงได้เยอะอย่างชัดเจน วิธีนี้ก็จะช่วยให้เราสามารถผ่อนบ้านหมดได้ไวขึ้น ในส่วนนี้เราก็ควรที่จะทำการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนว่าธนาคารแต่ละแห่งมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอย่างไรบ้างเกี่ยวกับการผ่อนบ้านแบบลดต้น ลดดอกเบี้ยกู้บ้าน เพื่อให้สามารถ กู้สร้างบ้าน เป็นไปในแบบที่เราพึงพอใจ

• ในกรณีที่วางแผนจะผ่อนบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ให้หมดก่อนระยะเวลา 30 ปี แต่มากกว่า 3 ปี ควรเลือก คำนวณสินเชื่อกู้บ้าน จากธนาคารที่มีดอกเบี้ย 3 ปีแรกต่ำ และดอกเบี้ยลอยตัว MRR ไม่สูง เพื่อให้สามารถผ่อนได้อย่างสบาย เรามีโอกาสในการเก็บเงินไว้สำหรับการปิดยอดบ้านในช่วงหลังจากช่วงระยะเวลา 3 ปี  ช่วยลดต้นลดดอกงบให้ไม่บานปลาย ซึ่งเราสามารถคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หรือที่เรียกว่า Effective Rate ได้เพื่อนำไปคิดสัดส่วนของการลดเงินต้นและดอกเบี้ยธนาคารสำหรับการผ่อนแต่ละงวดได้อีกด้วย 

สำหรับใครที่อยากมีบ้าน กู้เงินทำบ้าน มีอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย หรือเพื่อการลงทุนในระยะยาว และมีข้อสงสัยว่าเราจะสามารถ ผ่อนบ้าน ให้หมดไวได้อย่างไร โดยที่ยอดกู้นั้นเราสามารถผ่อนจ่ายได้แบบลดดอกเบี้ยและเงินต้น คงได้คำตอบกันไปในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งถ้าหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือต้องการหาข้อเสนอพิเศษจากทางธนาคารก็สามารถที่จะสอบถามได้กับทางเจ้าหน้าที่โครงการและทางธนาคารที่เราได้ทำการยื่นขอสินเชื่อได้เลย