รู้จัก vbeam laser เลเซอร์รักษารอยสิวและรอยแดงต่างๆ

สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาสิวอักเสบ รอยสิว รอยแดง ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยแผลเป็นนูน หรือปัญหาเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า ฯลฯ จนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ แต่ไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหาเหล่านั้นอย่างไรดี  เราขอแนะนำให้รู้จักกับ เลเซอร์วีบีม Vbeam laser นวัตกรรมใหม่ของเลเซอร์รักษารอยสิวและรอยแดงต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง สามารถให้ผลการรักษาครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิว มาดูกันเลยว่าจุดเด่นและหลักการทำงานของ Vbeam laser มีความโดดเด่น น่าสนใจ และสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างไร

เลเซอร์วีบีม (Vbeam Laser) คืออะไร?

เลเซอร์วีบีม (Vbeam laser) คือเครื่องเลเซอร์นวัตกรรมใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ถูกนำมาใช้ในการรักษาปัญหาผิวที่เกี่ยวกับรอยแดงต่างๆ ไม่ว่าจะสิว รอยแดง ปานแดง เส้นเลือดฝอยเส้นเล็กๆ ฯลฯ รวมถึงยังสามารถรักษารอยแตกและแผลเป็นนูนได้อีกด้วย โดยเลเซอร์ v beam จะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้เกิดการเรียงตัวใหม่ของเส้นเลือดใต้ผิวหนัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ รูขุมขนกระชับ และลบเลือนริ้วรอย จึงทำให้ผิวค่อยๆ เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

รายละเอียดของปัญหาผิวที่สามารถใช้ laser vbeam ช่วยในการรักษา ได้แก่ 

• ใช้ vbeam laser ในการรักษาสิว เช่น รอยสิว สิวอักเสบ สิวสเตียรอยด์ ฯลฯ 
• ใช้ในการรักษาปัญหาผิวเกี่ยวกับรอยแดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รอยแดงจากสิว ปานแดง รอยแดงบนใบหน้าและลำตัว ความผิดปกติของเม็ดสี เนื้องอกหลอดเลือด ผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) รวมถึงปานแดงแต่กำเนิด (port-wine stains) เป็นต้น
• รักษาเส้นเลือดฝอยเส้นเล็กๆ ที่แตกบริเวณหน้า ลำตัว และขา เส้นเลือดขอด เส้นเลือดขยายบนใบหน้า ฯลฯ
• รักษารอยแผลเป็น เช่น รอยแผลเป็นนูนแดง คีลอยด์ แผลเป็นนูนจากสิว แผลเป็นนูนจากการผ่าตัดขนาดเล็ก โดยสามารถใช้เลเซอร์ v beam เพื่อป้องกันการนูนของแผลระยะแรกเริ่มได้
• เลเซอร์วีบีม หรือเลเซอร์หน้าใส จะช่วยในเรื่องการฟื้นฟูผิว เช่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดจุดด่างดำชนิดตื้น รักษาริ้วรอยเล็กๆ กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ฯลฯ 

ทั้งนี้ เลเซอร์วีบีม (Vbeam laser) เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการอนุมัติ และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย และ U.S. FDA ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น v beam จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง สามารถให้ผลการรักษาครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิว โดยไม่มีผลข้างเคียง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เข้ารับการรักษา 

อย่างไรก็ตาม ควรเข้ารับการทำ vbeam laser โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ผ่านการอบรมด้านการใช้เครื่องเลเซอร์ Vbeam ตามมาตรฐานสากล เนื่องจากปัจจัยด้านการปรับค่าพลังงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และก่อให้เกิดผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของคุณ

จุดเด่นของ Vbeam laser

จุดเด่นของ vbeam laser นอกจากสามารถช่วยรักษาปัญหาผิวหรือรอยแดงต่างๆ เช่น สิว หลุมสิว รอยสิว  รอยแดง ปานแดง แผลเป็น โรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเส้นเลือด ภาวะหลอดเลือด ความผิดปกติของสีผิว ฯลฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังให้ผลการรักษาครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิวแล้ว นอกจากนี้ vbeam laser ยังมีจุดเด่นด้านอื่นๆ อีก ได้แก่

• เลเซอร์วีบีมเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการอนุมัติ และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย และ U.S. FDA ของสหรัฐอเมริกา จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย ไม่เกิดการบวม หรือส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง 
• ไม่รู้สึกเจ็บ หรือเจ็บเพียงเล็กน้อยขณะทำ vbeam laser เนื่องจากระหว่างการรักษา laser vbeam จะมีระบบพ่นความเย็นด้วยเทคโนโลยี Dynamic Cooling (DCD) และ EverCool เพื่อป้องกันผิวชั้นบนก่อนการยิงเลเซอร์แต่ละช็อต ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ไม่แสบร้อนผิวขณะทำ
• หลังเลเซอร์ v beam เสร็จ จะไม่มีการตกสะเก็ดของแผล หรือต้องเสียเวลาพักฟื้นระยะยาว สามารถกลับไปทำงานหรือดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติได้เลย
• laser vbeam สามารถปรับแต่งค่าพลังงานได้ โดยแพทย์จะทำการปรับค่าพลังงานตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ปัญหาได้ตรงตามความต้องการของผู้ป่วย

Vbeam laser ทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของเลเซอร์วีบีมคือการใช้แสงเลเซอร์ชนิด Pulsed-dye laser (PDL) ส่งพลังงานแสงที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 595 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นที่สามารถดูดซับเข้าไปในเม็ดเลือด ลงไปยังผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) เมื่อเม็ดเลือดดูดซับเข้าไปก็จะเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเส้นเลือด และเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้รอยแดงที่เกิดจากการขยายตัวของเส้นเลือดค่อยๆ จางลง เกิดการเรียงตัวใหม่ของเส้นเลือดใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ vbeam laser ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างความกระชับให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียนกระจ่างใสมากขึ้น  

โดยเลเซอร์ v beam เป็นเครื่องเลเซอร์จากบริษัท Candela Corporation ซึ่งในปัจจุบันถูกผลิตออกมาทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Vbeam Perfecta และ Vbeam Prima ซึ่งมีรายละเอียดแต่ละรุ่น ดังนี้

• Vbeam Perfecta

Vbeam Perfecta ถือได้ว่าเป็น Gold Standard laser ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์และวงการเสริมความงาม โดยเป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed-dye laser (PDL) ที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 595 นาโนเมตร สามารถใช้รักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย ทั้งสิวอักเสบ ปานแดง ริ้วรอย เส้นเลือดขอด ฯลฯ โดยหลักการทำงานคือ เครื่องจะส่งผ่านแสงเข้าไปทำลายเส้นเลือดบริเวณฐานของสิวจึงช่วยลดรอยแดง รวมทั้งแสงยังผ่านไปบริเวณผิวหนังชั้นในเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย

• Vbeam Prima

Vbeam Prima เป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed-dye laser (PDL) ที่มี 2 ความยาวคลื่น คือ 595 นาโนเมตร และ 1064 นาโนเมตร โดย Vbeam Prima เป็นเครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการผสาน 2 เทคโนโลยีระบบพ่นความเย็นเข้าไว้ด้วยกัน ทั้ง Dynamic Cooling (DCD) และ EverCool เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวชั้นบนเกิดการสะสมความร้อนจากเลเซอร์จนเกิดการไหม้หรือแสบร้อน ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ 

นอกจากนี้ เครื่อง Vbeam Prima ยังมาพร้อมจอแสดงผลที่ช่วยทำให้แพทย์สามารถปรับค่าพลังงานต่างๆ ได้อย่างละเอียด และสามารถระบุจุดการรักษาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดย Vbeam Prima มีประสิทธิภาพสูงในการรักษารอยโรคผิวหนังต่างๆ ทั้งใบหน้าและลำตัว เช่น รอยแดงบนใบหน้า รอยดำรอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอย เส้นเลือดขอด ความผิดปกติของเม็ดสี ผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ฯลฯ

ผลลัพธ์หลังการทำ vbeam laser อาจเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการรักษา ว่าสิวมีการอักเสบน้อยลงและแห้งเร็วขึ้น รอยแดงเริ่มจางลง สำหรับปัญหาเส้นเลือดฝอย รอยแตก รอยแผลเป็นนูน อาจเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นหลังการรักษา 4-5 ครั้ง ทั้งนี้ การทำ vbeam laser แต่ละครั้งควรมีระยะห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ โดยจำนวนครั้งในการทำจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาในแต่ละบุคคล

การเตรียมตัวก่อนทำ Vbeam laser

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนการทำ vbeam laserสามารถทำได้โดย

• เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจประเมินปัญหาเบื้องต้นและวางแผนการรักษาด้วย laser vbeam 
• 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการทำเลเซอร์วีบีม ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดด หรืองดไม่ให้ผิวโดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวคล้ำจากการออกแดด ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อผิวไหม้หรือพุพองได้

การดูแลตัวเองหลังทำ Vbeam laser

การดูแลตัวเองหลังทำ vbeam laser เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง สามารถปฏิบัติตัวได้ง่ายๆ ดังนี้

• ทาครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และสกินแคร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ เพื่อช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ (เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นตัวทำลายคอลลาเจน)
• หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือโดนแสงแดดโดยตรง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้บริเวณที่เพิ่งผ่านการเลเซอร์มาเกิดรอยดำขึ้นได้ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่จะทำลายผิว

สรุป

ด้วยประสิทธิภาพและจุดเด่นทั้งหมดนี้ ทำให้ vbeam laser เป็นนวัตกรรมเลเซอร์รักษารอยสิวและรอยแดง ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สามารถให้ผลการรักษาครอบคลุมเกือบทุกปัญหาผิว ซึ่งหากท่านใดมีความสนใจ และกำลังตัดสินใจเลือกว่าจะทำ vbeam laser ที่ไหนดี ควรพิจารณาจากคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และต้องเป็นคลินิกที่ใช้เครื่อง vbeam laser ของแท้ได้มาตรฐาน ดำเนินการเลเซอร์ vbeam โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่น่าพึงพอใจ