ลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยการฉีดโบลดริ้วรอย
อายุที่มากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นมีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่ออายุมากขึ้นและสามารถเห็นได้ชัดที่สุด คงหนีไม่พ้นริ้วรอยบนใบหน้า และริ้วรอยเหล่านี้ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่ายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ดังนั้นการหาวิธีลดริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นเป้าหมายของหลาย ๆ คน
สำหรับคนที่รักสวยรักงามย่อมทนต่อการดำเนินชีวิตประจำวันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยไม่ไหวแน่ ๆ จึงต้องหาวิธีที่จะช่วยตอบโจทย์ หนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ก็คือ การฉีดโบลดริ้วรอยที่ให้ผลไว และไม่ต้องพักฟื้น ทั้งช่วยให้รูปลักษณ์ดูดี สร้างความมั่นใจให้ตนเองมากขึ้น
โดยในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับbotoxริ้วรอยว่าคืออะไร มีวิธีการทำงานอย่างไร ใครที่เหมาะจะทำ วิธีปฏิบัติตนก่อนและหลังฉีดโบท็อกลดริ้วรอย และสุดท้ายควรตัดสินใจทำที่ไหนดี
รู้จัก ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร
ฉีดโบลดริ้วรอย คือหัตถการทางการแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าให้กลับมาเรียบเนียน ตึงกระชับ พร้อมทั้งได้ผลลัพธ์ที่เร็ว ไม่ต้องการเวลาในการพักฟื้น
ส่วนโบ ที่ชื่อเต็มคือ โบท็อก (Botox) เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัด โดยใช้เป็นแบบโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งสกัดจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) ที่ออกฤทธิ์เต็มที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ที่จะยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยทั้งหลายบนใบหน้าค่อย ๆ ลบเลือน
กลไกการทำงานของ Botox ลดริ้วรอย
ก่อนจะไปดูข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบลอดริ้วรอย เราควรทราบที่มาของริ้วรอยบนใบหน้าก่อน ทุก ๆ ริ้วรอยซึ่งเป็นปัญหาผิวบนใบหน้าได้พัฒนามาจากริ้วรอยตื้น ๆ จนกลายเป็นร่องลึกในที่สุด และสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหล่านี้มาจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น
- กรรมพันธุ์
- อายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวขาดคอลลาเจน จนผิวแห้งและหย่อนคล้อย
- แสงแดด มลภาวะ ที่คอยทำร้ายผิวจากภายนอก
- ผิวแห้ง ทำให้เกิดรอยพับและริ้วรอยได้ง่าย
- สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ทำลายคอลลาเจนในผิว
- พักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ผิวอ่อนแอ และฟื้นตัวช้า
- การรับประทานอาหารบางประเภท เช่น อาหารที่หวานจัด มันจัด เค็มจัด เครื่องดื่มมีคาเฟอีน น้ำอัดลม เป็นต้น
- ความเครียด
เมื่อรู้ถึงสาเหตุแล้ว เราควรจำแนกแบบริ้วรอยเพื่อจะหาวิธีแก้ไข โดยประเภทของริ้วรอยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ดังนี้
- แบบตื้น : ที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น สิ่งแวดล้อมรอบตัว และสไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม การขมวดคิ้ว เหมาะที่จะฉีดโบลดริ้วรอย
- แบบลึก : มีทั้งแบบ static line & dynamic line ที่เกิดจากพฤติกรรมซ้ำ ๆ จนกล้ามเนื้อหดตัว จนเป็นร่องลึก ไม่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยเพียงอย่างเดียว
การทำงานของการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย นั้นสามารถเข้าได้ง่าย เพียงแค่ฉีดโบลดริ้วรอย Botulinum toxin A ไปยังบริเวณที่มีริ้วรอย ตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทเพื่อทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงลงชั่วคราว ริ้วรอยทั้งหลายจะคลายออก และยังสามารถแสดงสีหน้าต่าง ๆ ได้ตามปกติ ปกติเวลาที่ใช้ในการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยเพียงแค่ 15-20 นาทีเท่านั้น
ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยเหมาะกับใครบ้าง?
ฉีดโบลดริ้วรอยเหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- คนที่เพิ่งจะมีริ้วรอยบนใบหน้า และต้องการจะลดริ้วรอยเหล่านั้น
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้า กระชับผิวหนัง
ฉีดโบลดริ้วรอยจุดไหนได้บ้าง
การที่จะลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า เราต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังก่อนเพื่อที่จะได้รับรู้ว่าจุดไหนที่สามารถฉีดโบลดริ้วยรอยได้บ้าง
โบท็อกหน้าผาก
เวลาคนเราแสดงอารมณ์ หน้าผากจะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ดูแก่ลง ดังนั้นการแก้ปัญหาด้วยการฉีดโบหน้าผากควรทำกับแพทย์มากประสบการณ์ เพราะเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับดวงตาจึงก่อให้เกิดอันตรายได้ ปริมาณฉีด 12-20 ยูนิต
โบท็อกหางตา/ตีนกา
ถึงแม้จะมีอายุที่มากขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องมีใบหน้าที่โทรม หมองคล้ำ พร้อมถุงใต้ตา วิธีชะลอริ้วรอยรอบดวงตาและรอยตีนกา คือการฉีดโบท็อกตีนกา ฉีดโบท็อกหางตา เพื่อให้ริ้วรอยคลายตัวชั่วคราว ปริมาณฉีด 15-20 ยูนิต
โบท็อกระหว่างคิ้ว
การฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่เหมาะกับการฉีดโบลดริ้วรอย เพราะริ้วรอยบริเวณนี้จะถูกสังเกตเห็นได้ง่าย ทั้งยังทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ไม่สดใส การฉีดโบท็อกจะยับยั้งการหดตัวเพื่อทำให้ผิวหนังด้านบนเรียบขึ้น แต่แนะนำให้ทำกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นเพราะเป็นจุดที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก จึงทั้งอันตรายและเสี่ยงสูง ปริมาณฉีด 6-15 ยูนิต
โบท็อกลิฟกรอบหน้า
เพื่อให้ใบหน้าคมขึ้น สวยขึ้น มีมิติเพิ่มขึ้น ก็อาจใช้การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า แพทย์จะให้คำแนะนำว่าควรใช้เทคนิคแบบไหนในการฉีดโบลดริ้วรอย ซึ่งมีแบบ Dermo Lift ฉีดโบตามแนวกรอบหน้าด้านบน และแบบ Nerfertiti Lift ฉีดโบตรงกล้ามเนื้อบริเวณคอ ปริมาณฉีด 25-30 ยูนิต
โบท็อกร่องแก้ม
นอกจากอายุที่มากขึ้นทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยแล้ว การยิ้มบ่อยก็เป็นตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มชัดเจนขึ้นเช่นกัน การฉีดโบลดริ้วรอยสามารถแก้ปัญหาได้แต่กับร่องแก้มตื้น ๆ แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติก็ควรทำพร้อมเติมฟิลเลอร์อีกด้วย ปริมาณฉีด 15-20 ยูนิต
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอย
เมื่อตัดสินใจที่จะฉีดโบลดริ้วรอย ก็ควรปรึกษาแพทย์ที่จะทำ ว่าควรต้องเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างไรบ้าง เพื่อให้การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
- งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan เป็นต้น
- งดวิตามินและยาแก้อักเสบก่อนฉีดโบ botox ริ้วรอย 1 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยงรอยช้ำ
- งดแอลกอฮอล์
- ไม่ควรนวดหรือสครับใบหน้าบริเวณที่จะฉีดอย่างหน้อย 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ
- ควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง ถ้ามีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องกินเป็นประจำ
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย
การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยควรทำในคลินิกมาตรฐาน น่าเชื่อถือ โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง ขั้นตอนการฉีดโบลดริ้วรอย จะดำเนินไปตามนี้
- ก่อนอื่นให้พบแพทย์เพื่อประเมินใบหน้า สภาพผิว และปัญหาที่เป็นกังวล
- เลือกใช้ยี่ห้อโบท็อกที่จะเหมาะกับจุดที่เป็นปัญหาบนใบหน้า
- ทำความสะอาดให้ทั่วใบหน้า
- หากกลัวเจ็บให้ทายาชาก่อนทำการรักษาประมาณครึ่งชม.
- แพทย์จะทำการฉีดโบลดริ้วรอยในปริมาณที่เหมาะสม
- หลังรักษาแพทย์จะพิจารณาเห็นสมควรประคบเย็นก็ได้
วิธีการปฏิบัติตัวหลังฉีดโบลดริ้วรอย
การฉีดโบลดริ้วรอยนั้น เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นในสถานพยาบาลหรือคลินิก แต่แพทย์ผู้ฉีดจะเป็นคนให้คำแนะนำแก่คนไข้ว่าควรปฏิบัติตนเช่นไรเพื่อที่จะได้เห็นผลลัพธ์ไว ๆ
- ให้ขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทันที 1-2 ครั้ง
- ประคบเย็นในช่วงแรก ๆ เพื่อลดการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้
- ห้ามนวดหน้า 1 เดือน
- อาหารที่กินควรมีแร่ธาตุสังกะสี
- ไม่ควรนอนราบ นอนคว่ำ และหลีกเลี่ยงการก้มหัวให้ต่ำ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร้อน เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- งดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผลข้างเคียงจากการฉีดโบลดริ้วรอย
หลังจากฉีดโบลดริ้วรอย คนไข้บางคนอาจเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดโบลดริ้วรอยได้ เช่น
- ปวดศีรษะ หรือปวดในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เองในเวลาไม่นาน
- รอยแดงหรือจุดจ้ำเลือดจากรอยเข็ม ซึ่งจะค่อย ๆ เลือนหายใน 5-7 วัน
- อาจมีอาการแพ้ มีผื่นแดงและคันในบางคน
- หากใช้ปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม หน้าอาจจะแข็งตึง หนังตาตก ปากเบี้ยว หรือยิ้มไม่สุด
แนะนำคลินิกฉีดโบลดริ้วรอยและวิธีเลือก ?
คำถามที่ว่า “ฉีดโบลดริ้วรอยที่ไหนดี” นั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ใช้ในการเลือกคลินิกเสริมความงาม ปัจจัยที่ว่าก็คือ
- คลินิกได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข มีใบอนุญาต เลขที่ชัดเจน
- แพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีประสบการณ์ สามารถให้คำแนะนำ ในการประเมิน ปรับรูปหน้า และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และเป็นแพทย์ที่มีใบอนุญาตถูกต้องจากแพทยสภา
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริงที่น่าเชื่อถือ
- ให้คำแนะนำปฏิบัติตนหลังฉีดโบลดริ้วรอย และคอยติดตามผลหลังทำการรักษา
สำหรับผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้ 100% ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก อย. มีทั้งที่นำเข้าจากประเทศยุโรป อเมริกา และเกาหลี ทั้งหมดเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย แต่ระยะเวลาของผลลัพธ์และราคาจะแตกต่างกันไป เช่น
- โบท็อก Allergan ของอเมริกาจะแพง 18,000 บาท/100 ยูนิต ผลอยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- โบท็อก Nabota ของเกาหลี ราคาถูกกว่า 9,000 บาท/100 ยูนิต มีผลอยู่ได้นาน 3-4 เดือน
โดยการตัดสินใจว่าจะเลือกยี่ห้อไหน ขึ้นกับงบประมาณ และความต้องการของแต่ละบุคคล
คำถามที่พบบ่อย
1.ผู้ชายฉีดโบท็อกได้ไหม ?
แน่นอนว่าผู้ชายเราก็ต้องการความมั่นใจในรูปลักษณ์ แลดูอ่อนเยาว์เช่นกัน เพราะริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำให้ดูแก่กว่าอายุจริงได้ วิธีแก้ไขปัญหาก็คือ ฉีดโบท็อกริ้วรอยที่ช่วยลบสัญญาณแห่งความสูงวัยได้ จุดที่มักฉีดโบในผู้ชาย คือ ฉีดโบท็อกระหว่างคิ้ว, โบท็อกหน้าผาก, โบท็อกหางตา เป็นต้น
2.ลดริ้วรอยด้วยการฉีดโบปลอดภัยที่สุดไหม?
การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยจัดว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะใช้โบท็อกแท้ 100% และฉีดโดยแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์ ดังนั้นโอกาสเกิดผลข้างเคียงจึงน้อยมาก อีกทั้งสารโบท็อกที่ฉีดเข้าไปนั้นจะสลายไปเองตามธรรมชาติเพื่อครบระยะเวลาให้ผลลัพธ์
3.ฉีดโบลดมีแผลไหม ?
ฉีดโบลดริ้วรอยไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น เพราะไม่ใช่การผ่าตัด แต่เป็นเพียงการใช้เข็มฉีดโบท็อกเท่านั้นเอง
4.ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาในการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยขึ้นกับยี่ห้อที่เลือกและจำนวนยูนิตที่ใช้ในการฉีดโบตรงจุดปัญหา โบท็อกที่ผ่านอย. และมีใช้ภายในประเทศจะมาจากอเมริกา ยุโรป และเกาหลี ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ และมีจุดเด่นที่ควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะเลือกใช้
ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยกับ Romrawin Clinic
ฉีดโบลดริ้วรอยเป็นวิธีเสริมความงามที่นิยมใช้ก้นมาก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ได้เร็วภายใน 3-7 วัน
แต่จะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการนั้น ต้องถึงพร้อมทุกปัจจัย เช่น คลินิกที่ได้มาตรฐาน, แพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์, ตัวผลิตภัณฑ์โบท็อกของแท้ 100% เป็นต้น
คลินิกที่จะแนะนำต่อไปนี้ มีครบทุกปัจจัย - มาตรฐาน เครื่องมือทันสมัยสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองจาก อย. ของสหรัฐอเมริกา (USFDA) พร้อมทีมแพทย์มากประสบการณ์ด้านผิวพรรณ ซึ่งก็คือ “รมย์รวินท์ คลินิก” (ROMRAWIN CLINIC) มีทั้งหมด 26 สาขาทั่วประเทศ ได้รับการรับรองระดับประเทศ และนานาชาติ
ผู้ที่สนใจทุกท่านสามารถติดต่อขอคำปรึกษา คำแนะนำได้ที่ info@romrawinclinic.com หรือโทร 080-153-9000
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้