เทคนิค 6 jars วิธีเก็บเงินอย่างเป็นระบบ เริ่มต้นออมเองได้ทันที!

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (548)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:986
เมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2566 22.10 น.

6 jars

6 jars วิธีเก็บเงินอย่างมีประสิทธิภาพที่ไม่ว่าใครก็ทำได้! ด้วยการเก็บเงินอย่างเป็นระบบ ทำให้ 6 jars ช่วยให้คุณเก็บเงินอยู่ และยังมีเงินเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แต่วิธี 6 jars ที่ว่านี้คืออะไรกันแน่ การจะเก็บเงินแบบ 6 jars ต้องรู้อะไรบ้าง เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีเก็บเงินแบบ 6 jars กันแบบเข้าใจง่าย อ่านจบแล้วสามารถเก็บเงินด้วยวิธี 6 jars ได้ทันทีภายในบทความนี้


 

ทำความรู้จักเทคนิค 6 Jars

 

ที่มาของชื่อ 6 jars มาจากวิธีการเก็บเงินของ 6 jars เองที่ใช้วิธีการแบ่งเงินอย่างเป็นระบบ โดยเปรียบการแบ่งเงินออกเป็น 6 ส่วนเสมือนการแบ่งเงินออกใส่โหลทั้งหมด 6 โหลด้วยกัน 

6 Jars คืออะไร

 

6 jars คือการเก็บเงินโดยแบ่งออกเป็นส่วน ๆ 6 ส่วน ซึ่งเป็นวิธีออมเงินอย่างเป็นระบบ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำตามได้ เนื่องจาก 6 jars เป็นการออมเงินแบบคำนึงถึงการออมแบบก้าวหน้า ที่ช่วยให้เก็บออมได้จริง ไม่ยาก ไม่กดดันจนเกินไป และยังสามารถสร้างรายรับเพิ่มได้อีกด้วย

นอกจากนี้ 6 jars ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีเก็บเงินให้ได้เร็ว ที่นักเรียนก็สามารถทำได้ และแน่นอนว่าในวัยทำงานก็จะยิ่งทำตามเทคนิค 6 jars ได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากคนในวัยนี้จะเริ่มมีความมั่นคงทางการเงิน สามารถเรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคนิค 6 jars ได้ดี เนื่องจากมีประสบการณ์ในการทำงานหรือการใช้ชีวิตมาพอสมควร

เมื่อทำความรู้จักกับวิธี 6 jars กันไปแล้ว ในหัวข้อถัดไปเราจะมาดูกันว่า 6 jars ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และแต่ละโหลของ 6 jars ควรจะเก็บเงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ อย่างไร จึงจะสามารถเก็บออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 

6 Jars วิธีเก็บเงินอย่างเป็นระบบเพื่อการเก็บเงินที่ได้ผลจริง

 

วิธีเก็บเงินแบบ 6 jars

วิธีเก็บเงิน 6 jars เป็นวิธีเก็บเงินให้อยู่ที่ทำได้จริง และมีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่ง เนื่องจาก 6 jars จะใช้เป็นวิธีแบ่งเก็บเงิน ดังนั้นจึงมีแนวทางการปฏิบัติให้ทำตามอย่างเป็นระเบียบอยู่แล้ว เราแทบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมอะไรเองเลย เมื่อทำตามได้ง่าย การใช้วิธี 6 jars จึงเหมาะกับคนทุกรุ่นทุกวัย และสามารถเก็บเงินอยู่ได้จริง ๆ นั่นเอง

โดย 6 jars จะประกอบไปด้วย

  1. โหล 6 jars ใบแรกเพื่อค่าใช้จ่ายจำเป็น
  2. โหล 6 jars ใบที่สองเพื่ออิสรภาพทางการเงิน
  3. โหล 6 jars ใบที่สามเพื่อเงินสำรองระยะยาว
  4. โหล 6 jars ใบที่สี่เพื่อรางวัลแก่ตัวเอง
  5. โหล 6 jars ใบที่ห้าเพื่อการพัฒนาตนเอง
  6. โหล 6 jars ใบที่หกเพื่อผู้อื่น


 

โหลใบที่ 1 สำหรับการใช้จ่ายเงินที่จำเป็น 55% 

 

โหลใบแรกสำหรับทริคเก็บเงิน 6 jars คือโหลสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น ซึ่งจะถูกแบ่งออกมาตั้งแต่ต้นเลยที่ 55% จากรายรับที่เรามี โหล 6 jars ใบนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นรายจ่ายที่เราจำเป็นต้องจ่ายประจำอาจจะทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน ไม่สามารถลดลงได้ และหากไม่จ่ายก็จะมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

ค่าใช้จ่ายในโหล 6 jars ใบนี้ประกอบไปด้วย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่ารถ อาจจะรวมถึงค่าอาหารพื้นฐานด้วย เพราะในท้ายที่สุดแล้วคนเราก็ไม่อาจขาดที่อยู่อาศัยและอาหารไปได้ ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มจากเก็บเงินใน 6 jars ใบนี้เสียก่อน


 

โหลใบที่ 2 สำหรับสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ตนเอง 10% 

 

6 jars ใบที่สอง คือโหลเพื่ออิสรภาพทางการเงิน ซึ่งจะถูกแบ่งออกมา 10% จากรายรับที่เรามี โหล 6 jars ใบนี้เป็นโหลที่ทำให้วิธี 6 jars เป็นวิธีที่มั่นคง และช่วยเพิ่มรายรับได้จริง โดยการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนเพื่อต่อยอดให้เรามีรายรับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปลงทุนกองทุนต่าง ๆ การไปลงทุนหุ้น การไปลงทุนธุรกิจ

แต่ข้อควรระวังก่อนการนำเงินในโหล 6 jars ใบนี้ไปใช้คือคุณต้องศึกษารายละเอียดและทำความเข้าใจให้ดีก่อน เพราะทุก ๆ การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันไป


 

โหลใบที่ 3 สำหรับเงินเก็บสำรองแบบระยะยาว 10%

 

6 jars ใบที่สามคือโหลสำหรับการเก็บเงินระยะยาว แบ่งจากรายรับออกมา 10% เป็นเงินสำรองเผื่อการเกิดเหตุไม่คาดฝันในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุที่เราไม่คาดคิด นอกจากนี้เงินใน 6 jars ใบนี้ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายหลังเกษียณอีกด้วย ดังนั้นเงินส่วนนี้จึงเรียกได้ว่าสำคัญมาก ๆ สำหรับอนาคตของคุณ


 

โหลใบที่ 4 สำหรับให้รางวัลชีวิตของตนเอง 10%

 

วิธีการออมเงิน 6 jars โหลใบที่สี่ คือโหลเพื่อการให้รางวัลตนเอง ซึ่งแบ่งเป็น 10% จากรายรับ เนื่องจากวิธีเก็บเงินแบบ 6 jars เป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อคนทุกแบบ ไม่ว่าคุณจะเป็นยอดนักเก็บออมที่มีความรู้มากประสบการณ์สูง หรือผู้เพิ่งเริ่มเก็บออมก็สามารถใช้วิธี 6 jars ได้ทั้งนั้น วิธีนี้จึงมีการให้รางวัลแก่ตัวเราด้วย ไม่เอาแต่เก็บเงินอย่างเดียวจนไม่มีความสุขหรืออึดอัด โดยอาจจะซื้อสิ่งของที่ชอบไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องเกม อาหารอร่อย ๆ ที่อาจมีราคาสูงกว่าอาหารทั่วไปก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ


 

โหลใบที่ 5 สำหรับการศึกษาและพัฒนาตนเอง 10% 

 

โหลใบที่ห้าสำหรับการเก็บเงินด้วยวิธี 6 jars คือการใช้เงินเพื่อการศึกษาและการพัฒนาตนเอง แบ่งจากรายรับมา 10% โดยโหล 6 jars ใบนี้ยังเชื่อมกลับไปยังโหล 6 jars ใบที่สองที่ว่าด้วยการลงทุนอีกด้วย เนื่องจากหากคุณนำเงินไปใช้เพื่อศึกษาและเรียนรู้มากขึ้น คุณก็จะสามารถนำความรู้ความสามารถไปใช้ในการเพิ่มรายรับให้กับตัวเองตรงส่วนนี้ได้

อีกทั้งในปัจจุบัน การพัฒนาตนเองเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในสายงานเดิมของคุณ หรือโอกาสการข้ามสายงานไปยังทางเลือกอื่นที่คุณอาจชอบมากกว่า ดังนั้น โหล 6 jars ใบนี้จึงเป็นโหลแห่งโอกาสและอนาคตที่คุณไม่ควรข้าม


 

โหลใบที่ 6 สำหรับการให้ผู้อื่น 5% 

 

วิธีการเก็บเงิน 6 jars โหลสุดท้ายคือโหลสำหรับผู้อื่น แบ่งเป็น 5% จากรายรับทั้งหมด โดยคุณสามารถใช้เงินในโหล 6 jars ใบนี้กับใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน เพื่อน คนรัก หรือจะนำเงินไปใช้บริจาคก็ทำได้เช่นกัน

เนื่องจากโหล 6 jars ใบนี้นอกจากจะมีขึ้นเพื่อให้คงความสัมพันธ์กับคนสำคัญในชีวิตคุณแล้ว ก็ยังสร้างขึ้นมาเพื่อให้คุณเกิดความสบายใจได้ด้วย เช่นการนำเงินไปทำบุญต่าง ๆ ซึ่่งคนไทยพุทธหลาย ๆ คนก็มองว่าตรงส่วนนี้ตอบโจทย์ได้ดี และแม้คุณจะไม่ได้เชื่อเรื่องของการทำบุญ การนำเงินไปซื้อของให้คนที่คุณรักก็ยังให้ผลตอบรับที่ดีทางใจอยู่ดี


 

สรุปวิธีเก็บเงิน 6 Jars

 

วิธีเก็บเงินแบบจริงจังโดยใช้ 6 jars หรือจะวิธีเก็บเงินแบบสบาย ๆ โดยใช้ 6 jars ก็สามารถทำได้ไม่แตกต่างกัน เนื่องจาก 6 jars ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการเก็บเงินสำหรับคนทุกรุ่นทุกวัย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน หรือในวัยสูงอายุแล้วก็ตาม

วิธีการเก็บเงินแบบ 6 jars สามารถทำตามได้ไม่ยาก โดยตรงตามชื่อเลย นั่นคือการแบ่งเงินออกเป็น 6 ส่วน เปรียบเหมือนโหล 6 โหล ประกอบไปด้วย โหลสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น โหลสำหรับอิสรภาพทางการเงิน โหลสำหรับเงินสำรองระยะยาว โหลสำหรับให้รางวัลตนเอง โหลสำหรับพัฒนาตนเอง และโหลสำหรับให้ผู้อื่น

ซึ่งแต่ละ 6 jars โหลจะแบ่ง % จากรายรับไม่เท่ากัน โดยเราจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพจากรายรับ 32,000 บาท ดังต่อไปนี้

  1. โหล 6 jars ใบแรกจะต้องเก็บเงิน 55% จึงคิดเป็นเงินจำนวน 17,600 บาท
  2. โหล 6 jars ใบแรกจะต้องเก็บเงิน 10% จึงคิดเป็นเงินจำนวน 3,200 บาท
  3. โหล 6 jars ใบแรกจะต้องเก็บเงิน 10% จึงคิดเป็นเงินจำนวน 3,200 บาท
  4. โหล 6 jars ใบแรกจะต้องเก็บเงิน 10% จึงคิดเป็นเงินจำนวน 3,200 บาท
  5. โหล 6 jars ใบแรกจะต้องเก็บเงิน 10% จึงคิดเป็นเงินจำนวน 3,200 บาท
  6. โหล 6 jars ใบแรกจะต้องเก็บเงิน 5% จึงคิดเป็นเงินจำนวน 1,600 บาท

ในปัจจุบันการเก็บเงินด้วยวิธี 6 jars ทำได้ง่ายขึ้นมาก เนื่องจากมีแอปธนาคารหลายแอปที่ช่วยให้คุณแบ่งกระเป๋าเงินของตัวเองได้ จึงสามารถเก็บเงินแบบดิจิตอลได้เลย ไม่ต้องเปิดหลายบัญชีให้ยุ่งยาก เช่นแอป MAKE by KBank ที่มีฟีเจอร์ Cloud Pocket ให้คุณแบ่งกระเป๋าเก็บเงินได้เลยภายในบัญชีเดียว

สำหรับใครที่อยากเริ่มเก็บเงินด้วยวิธี 6 jars ก็ขอให้คุณมั่นใจว่าเพียงทำตามวิธีที่เรากล่าวไปแล้วคุณก็จะสามารถเริ่มเก็บเงินได้เองอย่างแน่นอน

 

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา