จัดเก็บสเต็มเซลล์ครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
‘สเต็มเซลล์’ มหัศจรรย์แห่งการฟื้นฟูสุขภาพ
สเต็มเซลล์ (Stemcell) เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีคุณสมบัติในการแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด สามารถจัดเก็บได้จากส่วนต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากรก ที่สามารถจำแนกออกเป็นสเต็มเซลล์เลือดสายสะดือ สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อสายสะดือ ที่ได้จากการจัดเก็บ Stemcell ทารก สเต็มเซลล์ไขมัน ที่ได้จากร่างกายของเราและอื่นมากมาย ซึ่งสเต็มเซลล์นั้นสามารถพัฒนาเป็นเซลล์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เพื่อให้เซลล์นั้น ๆ สามารถทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
จุดเด่นของการฟื้นฟูสุขภาพด้วย ‘สเต็มเซลล์’
อย่างที่ทราบกันดีว่าสเต็มเซลล์นี้ มีคุณสมบัติในการพัฒนาตนเองให้กลายเป็นเซลล์รูปแบบต่าง ๆ ด้วยการแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด จึงทำให้สเต็มเซลล์ได้รับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยนักวิทยาศาสตร์เฉพาะด้าน เพื่อใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพได้มากกว่า 85 โรค ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือด กลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (SLE) โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง โรคจากความผิดปกติในกระบวนการเผาผลาญอาหาร รวมไปถึงสเต็มเซลล์นี้ยังสามารถนำไปใช้ฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายได้อีกด้วย
สเต็มเซลล์นี้สามารถจัดเก็บได้จากเซลล์ต้นกำเนิดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากรก ที่แตกออกเป็นสเต็มเซลล์สายสะดือ (Cord Blood) สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อสายสะดือ (Cord Tissue) สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อหุ้มรก (Amnion Tissue) ที่เรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์แห่งสเต็มเซลล์ก็ว่าได้ เนื่องจากสเต็มเซลล์ที่ได้มีการจัดเก็บ Stemcell ทารกในขณะแรกคลอดนี้ จะเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความแข็งแรง เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่เกินคาด สามารถนำไปใช้ต่อยอดฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างไม่รู้จบ และยังมีสเต็มเซลล์ไขมันที่สามารถจัดเก็บได้จากร่างกายของคนธรรมดาทั่วไปได้ โดยสเต็มเซลล์นี้ยังมีจุดเด่นที่สามารถใช้ฟื้นฟูสุขภาพได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ฟื้นฟูสุขภาพจากโรคร้ายได้ดี
สเต็มเซลล์ได้รับการวิจัยและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้สามารถนำไปใช้ในการฟื้นฟูร่างกายจากโรคร้ายได้อย่างหลากหลายกว่า 85 กลุ่มโรค และในปัจจุบันนี้ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูสุขภาพได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
- บอกลาความเสื่อม ความเหนื่อยล้า
นอกจากจะมีจุดเด่นในการฟื้นฟูสุขภาพจากโรคร้ายแล้ว สเต็มเซลล์ยังมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า และสภาวะความเสื่อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
- มีความปลอดภัยสูง
สเต็มเซลล์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการร่างกายของตัวเราเอง จึงทำให้เมื่อเรานำสเต็มเซลล์มาใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย หรือฟื้นฟูตนเองจากโรคร้าย จะมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์หรือสารเคมีอื่น ๆ นั่นเอง
- เป็นหลักประกันสุขภาพตนเองและสมาชิกในครอบครัว
สเต็มเซลล์มีอีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นเฉพาะใคร นั่นคือการเป็นหลักประกันสุขภาพสำหรับตนเองได้เป็นอย่างดี หากในอนาคตต้องมีเหตุการณ์ไม่คาดกับชีวิต เราสามารถใช้สเต็มเซลล์จัดเก็บไว้ในการฟื้นฟูสุขภาพได้ และนอกจากนี้สเต็มเซลล์ยังสามารถใช้ฟื้นฟูสุขภาพของสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวได้อีกด้วย
หากอยากเริ่มจัดเก็บ ‘สเต็มเซลล์’ ต้องเริ่มจาก…
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้วใครที่อยากจัดเก็บสเต็มเซลล์สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพ หรือกำลังมองการจัดเก็บ Stemcell ทารกในขณะแรกคลอด เพื่อให้ได้สเต็มเซลล์จากรกที่มีคุณภาพสูง สามารถนำไปใช้ฟื้นฟูสุขภาพได้เป็นอย่างดีในอนาคต และมีข้อสงสัยว่าหากต้องการเริ่มต้นจัดเก็บสเต็มเซลล์จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจัดเก็บสเต็มเซลล์ขั้นตอนแรกเมื่อต้องการจัดเก็บสเต็มเซลล์ นั่นก็คือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเสียก่อน เพื่อเป็นการศึกษาและรับข้อมูลเกี่ยวกับสเต็มเซลล์ที่ถูกต้องและมีประโยชน์ต่อร่างกายที่แท้จริง แต่ทั้งนี้เราควรเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสเต็มเซลล์เฉพาะด้าน ที่ได้รับรองมาตรฐานในระดับสากลเท่านั้น เพื่อวางแผนสุขภาพในขั้นตอนต่อไป
2. วางแผนจัดเก็บสเต็มเซลล์ที่เหมาะสำหรับเรา
เมื่อเราได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแล้ว ขั้นตอนต่อไปเราควรวางแผนการจัดเก็บสเต็มเซลล์ที่ตอบโจทย์กับบความต้องการของเราอย่างแท้จริง แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วสามารถจัดเก็บ Stemcell ทารกในขณะแรกคลอด ซึ่งสเต็มเซลล์จากรกที่ได้นั่นจะสามารถจัดเก็บได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถใช้ฟื้นฟูสุขภาพได้นานัประการอีกด้วย
3. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
เมื่อทำการวางแผนการจัดเก็บสเต็มเซลล์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีสุขภาพที่ดี เตรียมพร้อมสำหรับการจัดเก็บสเต็มเซลล์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่จะต้องจัดเก็บ Stemcell ทารกในขณะคลอด ควรดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสเต็มเซลล์ที่แข็งแรงที่สุดนั่นเอง
4. เมื่อต้องการจัดเก็บสเต็มเซลล์แจ้งผู้ให้บริการทันที
เมื่อถึงวันนัดหมายในการจัดเก็บสเต็มเซลล์ หรือวันคลอดของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรแจ้งแก่ผู้ให้บริการทราบถึงความต้องการในการจัดเก็บทันที โดยผู้ให้บริการจะทำหน้าที่ประสานงานและแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเก็บ เพื่อให้การจัดเก็บสเต็มเซลล์ในครั้งนี้ได้รับคุณภาพที่ดีที่สุด
5. เบิกสเต็มเซลล์ได้ทุกครั้งเมื่อต้องการ
สุดท้ายเมื่อผ่านขั้นตอนการจัดเก็บสเต็มเซลล์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากรก ที่ได้จากการจัดเก็บ stem cell ทารก หรือสเต็มเซลล์ไขมันสำหรับบริการเสริมความงามแล้ว และต้องการเบิกใช้งานสเต็มเซลล์ สามารถแจ้งกับผู้ให้บริการได้โดยตรงทันที เพื่อเบิกสเต็มเซลล์ไปใช้ได้ตามต้องการนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าสเต็มเซลล์ที่ไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากรกหรือสเต็มเซลล์จากส่วนไหน ๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์ในการฟื้นฟูร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งหากเราได้มีการเตรียมตัวจัดเก็บ stem cell ทารกเป็นอย่างดี มีการวางแผนดูแลสุขภาพที่รัดกุม ก็จะสามารถนำสเต็มเซลล์ที่ได้ไปใช้ฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้