หนักใจเรื่องดอกเบี้ยผ่อคอนโด แนะนำรีไฟแนนซ์คอนโด

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (554)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:993
เมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 18.41 น.

รีไฟแนนซ์คอนโด

 

การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภท บ้านหรือคอนโดเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงนี้ หากคุณเป็นเจ้าของคอนโดอยู่แล้ว แต่พบว่าดอกเบี้ยผ่อนคอนโดที่คุณได้รับมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดไว้ การรีไฟแนนซ์คอนโดอาจเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับคุณ 

เคยมั๊ยครับที่ดูใบเสร็จผ่อนคอนโดแล้วพบว่าเงินที่ผ่อนไปเสียไปกับดอกเบี้ยซะส่วนใหญ่ จนแทบจะไม่ตัดเงินต้นเลย แต่เรื่องเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณรีไฟแนนซ์คอนโด โดยการรีไฟแนนซ์คอนโดจะเป็นอย่างไร มีข้อดีอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

 


 

แนะนำรีไฟแนนซ์คอนโด คือ?

 

การรีไฟแนนซ์คอนโด คือ การขอสินเชื่อใหม่เพื่อมาชำระหนี้สินเชื่อเดิมของคอนโดที่คุณเป็นเจ้าของอยู่แล้ว โดยผู้กู้จะได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งอาจทำให้เงินผ่อนต่อเดือนลดลง และสามารถปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น เพราะเงินที่ผ่อนไปตัดเงินต้นมากขึ้น เนื่องจากผ่อนดอกเบี้ยน้อยลงนั่นเอง

 


 

รีไฟแนนซ์คอนโดมีประโยชน์อย่างไร

 

ประโยชน์รีไฟแนนซ์คอนโด

 

การรีไฟแนนซ์คอนโดมีประโยชน์ในหลายๆ ด้านต่อผู้ที่รีไฟแนนซ์ ดังนี้:

 

  • อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า : หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญของการรีไฟแนนซ์คอนโด คือ ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อหลัก ซึ่งช่วยให้คุณได้รับเงินกู้ใหม่ในอัตราที่ต่ำกว่า และเมื่อคุณได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำลง อาจนำไปสู่การประหยัดได้มากในระยะยาวตลอดอายุเงินกู้ ลดภาระการผ่อนจ่ายรายเดือนและดอกเบี้ยจ่ายโดยรวม เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับการลงทุนหรือใช้จ่ายอื่น ๆ

  • การชำระเงินรายเดือนที่ลดลง : การรีไฟแนนซ์คอนโดสามารถช่วยให้ลดภาระรายเดือนได้ ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลงบ้างเล็กน้อย

  • ผ่อนคอนโดหมดเร็วขึ้น : อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้าว่า พอเราจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง เงินที่ผ่อนก็จะไปตัดเงินต้นมากขึ้น ทำให้ในระยะยาวจะสามารถทำให้เราผ่อนคอนโดหมดเร็วขึ้นนั่นเอง

  • เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน : การรีไฟแนนซ์คอนโดช่วยปรับปรุงสภาพการเงินเพื่อให้เงินเก็บสำรอง และสถาพคล่องทางการเงินได้ เพื่อจัดสรรและบริหารค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับคอนโด หรือ หนี้สินหนี้อื่น ๆ 

โดยการรีไฟแนนซ์คอนโดมีประโยชน์มากมายที่ควรพิจารณา ทั้งการลดดอกเบี้ย การลดระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้ และการปรับปรุงสภาพการเงิน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมาย แต่ถ้าหากคุณกำลังคิดจะรีไฟแนนซ์คอนโดก็ควรตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดในการรีไฟแนนซ์คอนโดจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการกระจายเงินให้เหมาะสม

 


 

ผู้ที่เหมาะกับรีไฟแนนซ์คอนโด

 

การรีไฟแนนซ์คอนโด ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับบุคคลที่มีคอนโดอยู่แล้วและต้องการลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้ ด้วยการรีไฟแนนซ์คอนโด เพื่อให้สามารถรับดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อหลักและช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่ก่อนที่จะตัดสินใจรีไฟแนนซ์คอนโด ก็ควรตรวจสอบว่าคุณเป็นกลุ่มผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรีไฟแนนซ์คอนโดหรือไม่ ดังนั้น เราจะมาอธิบายว่าใครเหมาะสมสำหรับการรีไฟแนนซ์คอนโดบ้าง มาดูกันครับ

 

  • เจ้าของคอนโดที่มีดอกเบี้ยสูง : หากคุณเป็นเจ้าของคอนโดที่กำลังพบเจอดอกเบี้ยผ่อนบ้านหรือคอนโดที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ การรีไฟแนนซ์คอนโดอาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับคุณ โดยการเปลี่ยนสินเชื่อหลักเป็นการรีไฟแนนซ์คอนโดที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อที่จะสามารถปรับปรุงสภาพการเงินได้และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

  • ผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว : การรีไฟแนนซ์คอนโดช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้คอนโดให้น้อยลง เพื่อรับดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมในการรีไฟแนนซ์คอนโด ทำให้สามารถปรับปรุงสภาพการเงินและมีเงินเก็บสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินหรือการลงทุนอื่น ๆ

  • ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสถาบันการเงิน : หากเกิดความไม่พอใจกับสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อหลักเดิม การรีไฟแนนซ์คอนโด ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนสถาบันการเงิน เพื่อที่จะหาสถานบันการเงินที่เหมาะสมกว่า อีกทั้งยังมีเงื่อนไขที่เหมาะสมมากกว่า 

  • ผู้ที่ต้องการปรับปรุงสภาพการเงิน : การรีไฟแนนซ์คอนโด เป็นโอกาสที่จะช่วยให้คุณมีการปรับปรุงสภาพทางการเงินให้เกิดความคล่องตัวที่ดียิ่งขึ้น หากต้องการลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มเงินเก็บสำรอง นำไปสู่การช่วยให้คุณมีเงินเก็บสำรองหรือใช้ในการลงทุนอื่น ๆ ที่ต้องการในอนาคตได้

ทั้งนี้ อย่าลืมว่าคุณจะต้องทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบเงื่อนไขของสถาบันการเงินต่าง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจรีไฟแนนซ์คอนโดของคุณด้วยครับ

 


 

รีไฟแนนซ์คอนโดเสียค่าใช้จ่ายไหม

 

การรีไฟแนนซ์คอนโดอาจมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ ซึ่งคุณควรที่จะทำการตรวจสอบและเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์คอนโดจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อเกิดการตัดสินใจที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมนี้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แล้วแต่ละค่าใช้จ่ายนั้น มีรายละเอียดอะไร มาดูกันได้เลยครับ

 

  • ค่าสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน : ในกระบวนการรีไฟแนนซ์คอนโด อาจมีการต้องประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประกอบการพิจารณาในการให้สินเชื่อ ค่าประเมินราคาทรัพย์สินนี้อาจมีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบตามนโยบายของสถาบันการเงินที่เลือก โดยที่ทางธนาคารจะส่งพนักงานมาประเมินทรัพย์ ณ เวลาที่ได้ทำการขอรีไฟแนนซ์ว่ามีมูลค่าคอนโดนั้นเท่าไหร่ โดยขึ้นอยู่กับที่ตั้งของหลักประกัน

  • ค่าธรรมเนียมปล่อยกู้ใหม่ : ค่าธรรมเนียมนี้อาจแตกต่างไปตามแต่ละสถาบันการเงินและเงื่อนไขของสัญญากู้ยืม โดยส่วนมากจะอยู่ที่ 0-3% ของวงเงินที่ปล่อยเงินกู้ แต่หากยื่นกู้กับธนาคารเดิมอาจจะไม่มีค่าธรรมเนียม

  • ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง : การจ่ายค่าจดจำนองเพื่อรับสัญญาณรับรองสิทธิการเป็นลูกหนี้กับสถาบันการเงินใหม่ที่เลือก โดยจำเป็นต้องจดจำนองที่กรมที่ดินใหม่ คิด 1%  ของวงเงินกู้ ชำระให้กรมที่ดิน

  • ค่าเรียกปรับ : ในบางกรณี การรีไฟแนนซ์คอนโดอาจต้องเสียค่าเรียกปรับเมื่อคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายหรือเปลี่ยนเงื่อนไขการกู้ยืมกับสถาบันการเงินเดิม หรือหากยังผ่อนค่าคอนโดกับธนาคารเดิมไม่ถึง 3 ปี ธนาคารจะมีค่าเรียกปรับ โดยประมาณ 0-3% ของวงเงินกู้

  • ค่าประกันอัคคีภัย : โดยเป็นไปตามมูลค่าคอนโด ประกันอัคคีภัยเป็นประกันภาคบังคับ ที่ผู้กู้ซื้อคอนโดทุกคนต้องทำ โดยราคาประกันอัคคีภัยจะราคาไม่สูง ขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักประกัน

  • ค่าอากรแสตมป์ : ต้องชำระเมื่อทำการโอนสิทธิในการกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน โดยจะคิดที่ 0.05% ของวงเงิน แต่ไม่เกิน 10,000 บาท

 


 

วิธีเตรียมตัวรีไฟแนนซ์คอนโด

 

เตรียมตัวรีไฟแนนซ์คอนโด

 

การเตรียมตัวรีไฟแนนซ์คอนโดเป็นขั้นตอนสำคัญที่คุณควรทำก่อนที่จะเริ่มกระบวนการรีไฟแนนซ์คอนโด โดยการเตรียมตัวให้พร้อมนั้นมีขั้นตอนต่อไปนี้ที่คุณควรดำเนินการครับ

 

ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

 

ก่อนที่จะยื่นการสมัครรีไฟแนนซ์คอนโด คุณควรตรวจสอบคุณสมบัติในด้านต่างๆ เช่น 

 

  • คุณสมบัติทางการเงิน ซึ่งอาจมีการตรวจสอบประวัติเครดิต การตรวจสอบรายได้ และการประเมินสภาพการเงินอื่น ๆ เพื่อให้ทราบว่าคุณเหมาะสมและมีความพร้อมทางการเงินในการรีไฟแนนซ์คอนโด 

นอกจากนี้ ยังมี

  • คุณสมบัติของอาชีพ 

    • พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ

      • สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
      • รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
      • อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว

    • เจ้าของกิจการ/ธุรกิจส่วนตัว

      • สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
      • รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
      • มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

    • ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์)

      • สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
        รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
        มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
        ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

แต่ทั้งนี้ คุณก็ควรที่จะตรวจสอบกับสถาบันการเงินที่สนใจจะทำการรีไฟแนนซ์ก่อนการดำเนินการด้วยครับ

 

เตรียมเอกสาร

 

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการรีไฟแนนซ์คอนโดอาจแตกต่างไปตามแต่ละสถาบันการเงิน แต่อย่างไรก็ตาม เราจะแนะนำการเตรียมเอกสารส่วนใหญ่  เพื่อให้คุณเตรียมเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้กระบวนการเป็นไปได้รวดเร็วและสะดวกสบาย

 

  • เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล : เอกสารประเภทนี้ เป็นเอกสารเกี่ยวกับผู้ขอกู้ เพื่อให้ทางสถาบันทางการเงินนั้นสามารถตรวจสอบและยืนยันตัวตนผู้กู้ ว่า เป็นตัวผู้กู้จริงๆ ส่วนมากจะประกอบไปด้วย

    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
    • สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี)
    • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) / หย่า (ถ้ามี)
    • สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)

  • เอกสารด้านการเงิน : เพื่อแสดงรายได้ เป็นสิ่งที่ทางสถาบันทางการเงินใช้พิจารณาตามเงื่อนไข รวมไปถึงความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ สภาพคล่องทางการเงินและประวัติการเดินบัญชีที่ผ่านมา โดยจะแบ่งทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้ 

 

  • สำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ

 

    • สำเนาสลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด
    • หนังสือรับรองเงินเดือน (ฉบับจริง) อายุไม่เกิน 3 เดือน
    • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
    • สำเนาหนังสือรับรองการหักกาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ

  • สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ

 

    • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
    • สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ
    • เอกสารการเสียภาษี ภงด. 90/91
    • สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

  • สำหรับผู้ที่ประกอบกิจการส่วนตัว

 

    • สำเนาใบทะเบียนการค้า
    • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล อายุไม่เกิน 3 เดือน
    • สำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น ที่มีชื่อผู้ขอสินเชื่อ / ผู้กู้ร่วม อายุไม่เกิน 3 เดือน
    • ใบแสดงหักภาษี ณ ที่จ่าย / ใบ ภงด. / ใบ ภพ.30 พร้อมใบเสร็จรับเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน
    • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง (Statement) ทั้งในนามบัญชีบุคคลและกิจการ ย้อนหลัง 6 เดือน

  • เอกสารด้านหลักประกัน : เป็นเอกสารที่ยืนยันความเป็นเจ้าของของหลักทรัพย์ที่จะนำมารีไฟแนนซ์ ส่วนมากจะประกอบไปด้วย

    • สำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2 (สำหรับคอนโด)
    • สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือ สำเนาหนังสือสัญญาให้ที่ดิน ทด.14
    • สำเนาสัญญาจำนองห้องขุด (สำหรับคอนโด) ทุกฉบับ
    • สำเนาสัญญาเงินกู้เงินกับสถาบันการเงินเดิม (ทุกบัญชี/ทุกวงเงิน)
    • สำเนาใบเสร็จเงินกู้ เดือนล่าสุด

รายการที่เอกสารด้านบนนั้นเป็นเพียงเอกสารเบื้องต้นเท่านั้น บางสถาบันการเงินนั้นอาจจะมีขอเอกสารเพิ่มเติม อย่าลืมที่จะตรวจสอบคุณสมบัติและเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อม เพื่อให้การทำธุรกรรมนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสำเร็จครับ

 


 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรีไฟแนนซ์คอนโด

 

ยื่นสมัครรีไฟแนนซ์คอนโดตอนไหนดี

การยื่นสมัครรีไฟแนนซ์คอนโดนั้น ควรจะอยู่ในช่วงระยะเวลาก่อนการครบกำหนดสัญญา 3 ปีโดยประมาณ 1 เดือน เนื่องจากทางสถาบันทางการเงินส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาในการพิจาณาสินเชื่อการรีไฟแนนซ์อยู่ที่ 2-6 สัปดาห์โดยประมาณ ดังนั้นเพื่อให้ระยะเวลาพิจารณาสินเชื่อผ่านในช่วงครบกำหนด 3 ปีพอดี ก็ควรจะมีการยื่นล่วงหน้าตามระยะเวลาดังกล่าว ครับ

ประวัติทางการเงินไม่ดี จะรีไฟแนนซ์คอนโดได้ไหม?

ส่วนมากหากมีปรัวัติทางการเงินไม่ดีธนาคารจะไม่ค่อยอนุมัติสินเชื่อครับ ผมจึงอยากแนะนำให้รักษาประวัติการเงิน การผ่อนชำระให้ปกติ ไม่มีการผิดนัดชำระช้าเกิน 90 วัน อีกทั้งก็ควรทำกาประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะตัดสินใจรีไฟแนนซ์คอนโดครับ

รีไฟแนนซ์คอนโดต้องทำประกัน MRTA ไหม?

คำตอบคือไม่จำเป็นต้องทำครับ เพราะว่าประกัน MRTA คือประกันภาคสมัครใจ โดยประกัน MRTA คือประกันชีวิตที่มอบความคุ้มครองด้านการประกันชีวิตเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัย หากมีเหตุการณ์ ไม่คาดฝันเกิดขึ้นก่อนการผ่อนชำระสินเชื่อบ้านสิ้นสุดลง ซึ่งไม่ได้เป็นประกันภาคบังคับจึงไม่มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อรีไฟแนนซ์โดยตรง แต่หากมีการทำประกันดังกล่าวแล้วนั้น บางสถาบันการเงินมักจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆเพิ่มเติมนั่นเอง

 


 

สรุปเรื่องรีไฟแนนซ์คอนโด

 

การรีไฟแนนซ์คอนโด ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้คอนโด เพื่อให้มีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อหลัก ทั้งนี้ หากต้องการจะมีการรีไฟแนนซ์นั้น ก็ควรที่จะมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งในด้านของประโยชน์ คุณสมบัติด้านต่างๆ ว่าตนเองเหมาะสมหรือไม่ อีกทั้งในด้านของการเตรียมเอกสาร เนื่องจากสถาบันทางการเงินแต่ละที่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป พร้อมทั้งควรที่จะศึกษารายละเอียดของสินเชื่อก่อนตัดสินใจ และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายๆ สถาบันการเงิน พิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและผลกระทบต่อการเงินในระยะยาวอีกด้วย เพื่อให้การรีไฟแนนซ์คอนโดของคุณมีประสิทธิภาพ ประหยัด และสะดวกสบายมากที่สุดนั่นเองครับ

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ23 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 18.43 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา