ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากสิวผดรักษาได้ไม่ยาก เพียงรู้สาเหตุเหล่านี้
สิวผด แม้ไม่ได้เป็นอันตรายแต่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ค่อนข้างมาก เมื่อเป็นสิวผดจะทำให้บุคลิกภาพไม่น่ามอง เหมือนไม่ได้รับการดูแลที่ดี รวมไปถึงแต่งหน้าได้ยากขึ้น จนเกิดเสียความมั่นใจขึ้นได้ เมื่อเป็นสิวผดจึงควรเลือกวิธีรักษาให้เห็นผลโดยเร็วที่สุด เพราะหากไม่รักษาสิวผดก็เสี่ยงกลายเป็นอาการเรื้อรังนั่นเอง บทความนี้จะมาให้ความรู้ว่าสิวผดเกิดจากอะไร และควรทำอย่างไรเพื่อรักษาสิวผดได้หายขาด ใครที่มีปัญหานี้อยู่สามารถเลือกวิธีที่เหมาะไปปรับใช้กับตนเองได้
สิวผดคืออะไร?
สิวผด (Acne Estivalis) คือลักษณะของสิวที่ขึ้นพร้อมกันหลายเม็ดในคราวเดียวโดยกินพื้นที่บริเวณกว้าง เม็ดไม่ใหญ่มากมีขนาดประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร สิวผดจะขึ้นกระจายตัวกัน เหมือนสิวเห่อ หากลูบจะรู้สึกว่าหัวสิวมีความแหลม นูน คล้ายผดผื่นแพ้ ทำให้ผิวหนังขาดความเรียบเนียน
สิวผด VS สิวอุดตัน ต่างกันอย่างไร?
ลักษณะภายนอกของสิวผดจะสังเกตได้ชัดจากการขึ้นพร้อมกันหลายเม็ดในบริเวณกว้างและไม่มีหัวสิว ต่างจากสิวอุดตันที่มักขึ้นแยกเดี่ยวๆ เม็ดละจุด มีหัวสิวชัดเจน นอกจากนี้สิวผดยังมีสาเหตุการเกิดที่สังเกตได้ชัดโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมเฉพาะเจาะจง ในขณะที่สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป
สิวผดขึ้นบริเวณไหนได้บ้าง?
บริเวณที่สิวผดขึ้นมักเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงกับต่อมเหงื่อ พบได้บ่อยบนใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก แก้ม และคาง ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผด
สาเหตุของสิวผดมีอะไรบ้าง?
สาเหตุของสิวผดเกิดได้จาก 2 ลักษณะ คือ สิวผดที่เกิดจากการแพ้ และสิวผดที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งมีปัจจัยดังนี้
สิวผดที่เกิดจากการแพ้
- แพ้เหงื่อ
สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายที่สุดคือการที่มีเหงื่อออกเยอะ แล้วไม่ได้มีการเช็ด หรือระบายความชื้นที่ดีจึงทำให้เกิดสิวขึ้นในบริเวณนั้นๆ - แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
ในช่วงที่ผิวอ่อนแอแล้วมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือผลิตภัณทำความสะอาดผิวเป็นตัวใหม่ที่ไม่เคยมีการใช้ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่ทำให้เกิดการแพ้และแสดงอาการออกมาในลักษณะของสิวผด - เจอสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
สภาวะแวดล้อมที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เช่น ย้ายจากเมืองร้อนไปอยู่เมืองหนาว หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นควันเยอะ ก็สามารถทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน - แพ้หน้ากากอนามัย
ในปัจจุบันที่มีการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำในระยะเวลานานโดยไม่ถอด สามารถทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดความร้อนที่ทำให้เหงื่อออกและกลายเป็นสิวผดได้
สิวผดที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ล้างหน้าไม่สะอาด
การล้างหน้าไม่สะอาดเป็นสาเหตุของการตกค้างทั้งสิ่งสกปรกและสารเคมี จึงทำให้มีโอกาสเป็นสิวผดได้มากขึ้น - พักผ่อนไม่เพียงพอ
ภาวะร่างกายอ่อนแอมักเกิดจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ภูมิคุ้มกันตก ไม่มีช่วงเวลาในการซ่อมแซมโครงสร้างผิว สิวผดจึงมักขึ้นได้ง่ายในภาวะดังกล่าว - ความเครียด
ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ จึงตกอยู่ในภาวะผิวอ่อนแอและเป็นสิวผดได้ง่าย - ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่ออกฤทธิ์แรงเกินไปสามารถทำร้ายผิวได้ ผิวจะมีอาการลอกแห้ง รวมไปถึงสิวผดขึ้นได้
อายุมากยังมีโอกาสเป็นสิวผดได้หรือไม่?
สิวผดไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนเหมือนสิวประเภทอื่น แต่มีสาเหตุหลักมาจากการแพ้จึงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นแม้จะเลยช่วงวัยรุ่นมาแล้วก็ยังมีโอกาสเป็นสิวผดได้
ใครที่มีโอกาสเป็นสิวผด
- คนที่มีผิวบอบบาง ไวต่อสิ่งเร้า
- คนที่มีอาการแพ้ง่าย
- คนที่เหงื่อออกง่าย
- คนที่ชอบเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าบ่อยๆ
- คนที่เข้านอนโดยไม่ล้างหน้า หรือล้างหน้าไม่สะอาด
- คนที่ทำงานในห้องแอร์หรือสถานที่ที่มีอากาศเย็นจัด
- คนที่ใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน
สิวผดหายเองได้ไหม?
โดยปกติแล้วสิวผดสามารถหายได้เองเมื่อผิวกลับสู่สภาวะปกติแต่จะใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน แต่หากเป็นบ่อยๆ โดยไม่รักษาก็มีโอกาสกลายเป็นสิวผดเรื้อรังที่หายได้ยาก การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นการดูแลผิวที่ดีที่จะช่วยเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้
รักษาสิวผดด้วยวิธีการกดสิวได้หรือไม่?
เนื่องจากสิวผดไม่มีหัวสิวจึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยการกดสิวได้ เพราะการกดสิวจะเป็นวิธีที่ใช้อุปกรณ์ในการดันหัวสิวออก แต่ต้องรักษาด้วยวิธีการแก้ที่ต้นตอจึงจะเห็นผลที่ดี
ทำไมสิวผดถึงหายยาก?
สาเหตุที่สิวผดหายยากเป็นเพราะไม่มีวิธีการที่รักษาที่ปลายเหตุได้แบบถาวร การรักษาสิวผดที่ดีต้องปรับสภาพผิวให้มีความแข็งแรง ซึ่งต้องอาศัยความต่อเนื่องและวินัยในการดูแล สิวผดจึงจะหายขาดได้ ในทางกลับกันหากการรักษาไม่ต่อเนื่องหรือเลือกวิธีที่ไม่เหมาะสม สิวผดก็ยังสามารถกลับมาขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ นั่นเอง
วิธีรักษาสิวผดแบบเห็นผล
เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้า
การเป็นสิวผดที่เกิดจากอาการแพ้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หากเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อหรือส่วนผสมที่อ่อนโยนขึ้น สิวผดจะค่อยๆ ลดลงและหายได้ในที่สุด
ล้างหน้าให้สะอาด
ควรมั่นใจทุกครั้งว่าเช็ดเมคอัพและล้างสิ่งสกปรกออกจนเกลี้ยง รวมไปถึงล้างฟองของผลิตภัณฑ์ล้างหน้าออกจนหมดจดด้วยเช่นกัน เพื่อลดโอกาสเกิดสิวผด
งดการสัมผัสผิวโดยไม่จำเป็น
มือที่ไม่สะอาดเมื่อมาสัมผัสผิวหน้ามีโอกาสทำให้เกิดแบคทีเรียหรือสะสมสิ่งสกปรกขึ้นในรูขุมขนและกลายเป็นสิวผด หากหลีกเลี่ยง ดูแลให้ใบหน้าสะอาดก็จะรักษาสิวผดได้ในระยะยาว
เลี่ยงไม่ให้ผิวโดนมลภาวะ
สภาวะที่ต้องพบเจอฝุ่น ควัน หรือแสงอาทิตย์ รวมไปถึงอากาศเย็นและแห้งจัดจะส่งผลให้สิวผดขึ้นง่าย หากหลีกเลี่ยงได้ควรเลี่ยง อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปกป้องผิวจากมลภาวะได้ดี หรือใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ร่ม หน้ากากกันฝุ่น เข้ามาช่วยก็จะยิ่งดี
ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวผด
ผลิตภัณฑ์รักษาสิวผดโดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole จะช่วยลดเชื้อที่เป็นตัวการของอาการแพ้และสิวผดได้ ควรปรึกษาเภสัชกรเพื่อเลือกตัวยาที่เหมาะสมมาใช้รักษา
รักษาสิวผดไม่หายทำยังไงดี?
หากทำตามวิธีรักษาสิวผดแบบธรรมชาติแล้วก็ยังไม่เห็นผล หรือต้องการเร่งให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นไวแนะนำให้ใช้วิธีรักษาด้วยเทคโนโลยีในคลินิกควบคู่ด้วย ปัจจุบันมีให้เลือกได้หลากหลายและมีความปลอดภัยสูงหากทำกับคลินิกที่มีชื่อเสียง ไว้วางใจได้
วิธีการรักษาสิวผดแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการต่างๆ
ฉีดเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสเป็นหัตถการความงามในคลินิกที่ทำด้วยวิธีการฉีดสารอาหารผิวเข้าไปในผิวชั้นกลาง สารอาหารที่อยู่ในตัวยาเมโสจะช่วยปรับสภาพผิวให้มีความแข็งแรง ผิวกระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น เป็นวิธีที่ดีในการฟื้นสภาพผิว โดยตัวยาเมโสหน้าใสมีให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อจะให้ผลลัพธ์ต่างกัน
ฉีดมาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจนเป็นยี่ห้อหนึ่งของตัวยาเมโส มีวิธีการฉีดที่ต่างจากการฉีดเมโสหน้าใสทั่วไป เนื่องจากเป็นตัวยาที่เน้นขับสารพิษ ลดสิวผด หรือผื่น ผ่านทางระบบน้ำเหลืองจึงอาศัยการฉีดแบบ 16 จุดในตำแหน่งเดียวกันกับจุดฝังเข็ม ทำให้เห็นผลลัพธ์ในการลดสิวผดได้ประสิทธิภาพสูง
นอกจากฉีดเมโสหน้าใสและมาเด้คอลลาเจนแล้วยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ช่วยรักษาสิวผดได้ เช่น เลเซอร์ผิว Dual Yellow และการฉีดวิตามินผิว ซึ่งจะช่วยปรับผิวให้แข็งแรงและลดการเกิดสิวผดได้เช่นกัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้ก่อนตัดสินใจ
รักษาสิวผดหายแล้วมีโอกาสกลับมาได้อีกไหม?
แม้ว่าจะรักษาสิวผดแล้วก็ยังมีโอกาสที่สิวผดจะกลับมาอีกครั้งได้ หากไม่ได้มีการรักษาอย่างต่อเนื่อง รักษาที่ต้นเหตุ หรือคอยระวังไม่ให้เกิดปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวผดขึ้น หากต้องการให้สิวผดหายไปไม่กลับมาขึ้นอีกจึงต้องดูแลให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว
วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้สิวผดกลับมาอีก
สำหรับคนที่ต้องการรักษาสิวผดให้หายขาดไม่กลับมาเป็นอีก แนะนำให้ทำหัตถการรักษาสิวผดอย่างต่อเนื่อง การฉีดมาเด้คอลลาเจนจะเห็นผลได้ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะการฉีดเป็นประจำทุกๆ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง เนื่องจากผลลัพธ์จะคงอยู่ได้สูงสุด 1 ปี จึงควรฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพ นอกจากนี้การรักษาความสะอาดและเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเหมาะกับผิวก็จะช่วยลดโอกาสไม่ให้สิวผดกลับมาอีกได้เช่นกัน
สำหรับคนที่เป็นสิวผดแล้วอยากรักษาให้หายต้องคำนึงถึงสภาพผิวและพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยสังเกตว่าสิวผดมักขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใดเพื่อจะได้วิเคราะห์สาเหตุได้อย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงไม่ให้สิวผดขึ้นอีก แต่หากสิวผดยังขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ ก็ควรเลือกเทคโนโลยีความงามมาช่วยเพื่อเร่งให้เกิดผลลัพธ์ที่เร็วและมีประสิทธิภาพขึ้นนั่นเอง
ขอบคุณแหล่งข้อมูลและบทความจาก
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้