ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากสิวผดรักษาได้ไม่ยาก เพียงรู้สาเหตุเหล่านี้

wipadee_diary

เริ่มเข้าขีดเขียน (28)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:26
เมื่อ 26 เมษายน พ.ศ. 2566 00.18 น.

สิวผด แม้ไม่ได้เป็นอันตรายแต่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ค่อนข้างมาก เมื่อเป็นสิวผดจะทำให้บุคลิกภาพไม่น่ามอง เหมือนไม่ได้รับการดูแลที่ดี รวมไปถึงแต่งหน้าได้ยากขึ้น จนเกิดเสียความมั่นใจขึ้นได้ เมื่อเป็นสิวผดจึงควรเลือกวิธีรักษาให้เห็นผลโดยเร็วที่สุด เพราะหากไม่รักษาสิวผดก็เสี่ยงกลายเป็นอาการเรื้อรังนั่นเอง บทความนี้จะมาให้ความรู้ว่าสิวผดเกิดจากอะไร และควรทำอย่างไรเพื่อรักษาสิวผดได้หายขาด ใครที่มีปัญหานี้อยู่สามารถเลือกวิธีที่เหมาะไปปรับใช้กับตนเองได้

 

สิวผดคืออะไร?

สิวผด (Acne Estivalis) คือลักษณะของสิวที่ขึ้นพร้อมกันหลายเม็ดในคราวเดียวโดยกินพื้นที่บริเวณกว้าง เม็ดไม่ใหญ่มากมีขนาดประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร สิวผดจะขึ้นกระจายตัวกัน เหมือนสิวเห่อ หากลูบจะรู้สึกว่าหัวสิวมีความแหลม นูน คล้ายผดผื่นแพ้ ทำให้ผิวหนังขาดความเรียบเนียน

 

สิวผด VS สิวอุดตัน ต่างกันอย่างไร?

ลักษณะภายนอกของสิวผดจะสังเกตได้ชัดจากการขึ้นพร้อมกันหลายเม็ดในบริเวณกว้างและไม่มีหัวสิว ต่างจากสิวอุดตันที่มักขึ้นแยกเดี่ยวๆ เม็ดละจุด มีหัวสิวชัดเจน นอกจากนี้สิวผดยังมีสาเหตุการเกิดที่สังเกตได้ชัดโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมเฉพาะเจาะจง ในขณะที่สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป


สิวผดขึ้นบริเวณไหนได้บ้าง?

บริเวณที่สิวผดขึ้นมักเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงกับต่อมเหงื่อ พบได้บ่อยบนใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก แก้ม และคาง ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผด


สาเหตุของสิวผดมีอะไรบ้าง?

สาเหตุของสิวผดเกิดได้จาก 2 ลักษณะ คือ สิวผดที่เกิดจากการแพ้ และสิวผดที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งมีปัจจัยดังนี้

 

สิวผดที่เกิดจากการแพ้

  • แพ้เหงื่อ
    สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายที่สุดคือการที่มีเหงื่อออกเยอะ แล้วไม่ได้มีการเช็ด หรือระบายความชื้นที่ดีจึงทำให้เกิดสิวขึ้นในบริเวณนั้นๆ
  • แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
    ในช่วงที่ผิวอ่อนแอแล้วมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือผลิตภัณทำความสะอาดผิวเป็นตัวใหม่ที่ไม่เคยมีการใช้ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่ทำให้เกิดการแพ้และแสดงอาการออกมาในลักษณะของสิวผด
  • เจอสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
    สภาวะแวดล้อมที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เช่น ย้ายจากเมืองร้อนไปอยู่เมืองหนาว หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นควันเยอะ ก็สามารถทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน
  • แพ้หน้ากากอนามัย
    ในปัจจุบันที่มีการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำในระยะเวลานานโดยไม่ถอด สามารถทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดความร้อนที่ทำให้เหงื่อออกและกลายเป็นสิวผดได้

 

 

สิวผดที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • ล้างหน้าไม่สะอาด
    การล้างหน้าไม่สะอาดเป็นสาเหตุของการตกค้างทั้งสิ่งสกปรกและสารเคมี จึงทำให้มีโอกาสเป็นสิวผดได้มากขึ้น
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
    ภาวะร่างกายอ่อนแอมักเกิดจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ภูมิคุ้มกันตก ไม่มีช่วงเวลาในการซ่อมแซมโครงสร้างผิว สิวผดจึงมักขึ้นได้ง่ายในภาวะดังกล่าว
  • ความเครียด
    ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ จึงตกอยู่ในภาวะผิวอ่อนแอและเป็นสิวผดได้ง่าย
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
    การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่ออกฤทธิ์แรงเกินไปสามารถทำร้ายผิวได้ ผิวจะมีอาการลอกแห้ง รวมไปถึงสิวผดขึ้นได้

 

อายุมากยังมีโอกาสเป็นสิวผดได้หรือไม่?

สิวผดไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนเหมือนสิวประเภทอื่น แต่มีสาเหตุหลักมาจากการแพ้จึงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นแม้จะเลยช่วงวัยรุ่นมาแล้วก็ยังมีโอกาสเป็นสิวผดได้

 

ใครที่มีโอกาสเป็นสิวผด

  • คนที่มีผิวบอบบาง ไวต่อสิ่งเร้า
  • คนที่มีอาการแพ้ง่าย
  • คนที่เหงื่อออกง่าย
  • คนที่ชอบเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าบ่อยๆ
  • คนที่เข้านอนโดยไม่ล้างหน้า หรือล้างหน้าไม่สะอาด
  • คนที่ทำงานในห้องแอร์หรือสถานที่ที่มีอากาศเย็นจัด
  • คนที่ใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน

 

สิวผดหายเองได้ไหม?

โดยปกติแล้วสิวผดสามารถหายได้เองเมื่อผิวกลับสู่สภาวะปกติแต่จะใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน แต่หากเป็นบ่อยๆ โดยไม่รักษาก็มีโอกาสกลายเป็นสิวผดเรื้อรังที่หายได้ยาก การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นการดูแลผิวที่ดีที่จะช่วยเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้

 

รักษาสิวผดด้วยวิธีการกดสิวได้หรือไม่?

เนื่องจากสิวผดไม่มีหัวสิวจึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยการกดสิวได้ เพราะการกดสิวจะเป็นวิธีที่ใช้อุปกรณ์ในการดันหัวสิวออก แต่ต้องรักษาด้วยวิธีการแก้ที่ต้นตอจึงจะเห็นผลที่ดี

 

ทำไมสิวผดถึงหายยาก?

สาเหตุที่สิวผดหายยากเป็นเพราะไม่มีวิธีการที่รักษาที่ปลายเหตุได้แบบถาวร การรักษาสิวผดที่ดีต้องปรับสภาพผิวให้มีความแข็งแรง ซึ่งต้องอาศัยความต่อเนื่องและวินัยในการดูแล สิวผดจึงจะหายขาดได้ ในทางกลับกันหากการรักษาไม่ต่อเนื่องหรือเลือกวิธีที่ไม่เหมาะสม สิวผดก็ยังสามารถกลับมาขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ นั่นเอง


วิธีรักษาสิวผดแบบเห็นผล

เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้า
การเป็นสิวผดที่เกิดจากอาการแพ้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หากเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อหรือส่วนผสมที่อ่อนโยนขึ้น สิวผดจะค่อยๆ ลดลงและหายได้ในที่สุด

ล้างหน้าให้สะอาด
ควรมั่นใจทุกครั้งว่าเช็ดเมคอัพและล้างสิ่งสกปรกออกจนเกลี้ยง รวมไปถึงล้างฟองของผลิตภัณฑ์ล้างหน้าออกจนหมดจดด้วยเช่นกัน เพื่อลดโอกาสเกิดสิวผด

งดการสัมผัสผิวโดยไม่จำเป็น
มือที่ไม่สะอาดเมื่อมาสัมผัสผิวหน้ามีโอกาสทำให้เกิดแบคทีเรียหรือสะสมสิ่งสกปรกขึ้นในรูขุมขนและกลายเป็นสิวผด หากหลีกเลี่ยง ดูแลให้ใบหน้าสะอาดก็จะรักษาสิวผดได้ในระยะยาว

เลี่ยงไม่ให้ผิวโดนมลภาวะ
สภาวะที่ต้องพบเจอฝุ่น ควัน หรือแสงอาทิตย์ รวมไปถึงอากาศเย็นและแห้งจัดจะส่งผลให้สิวผดขึ้นง่าย หากหลีกเลี่ยงได้ควรเลี่ยง อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปกป้องผิวจากมลภาวะได้ดี หรือใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ร่ม หน้ากากกันฝุ่น เข้ามาช่วยก็จะยิ่งดี

ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวผด
ผลิตภัณฑ์รักษาสิวผดโดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole จะช่วยลดเชื้อที่เป็นตัวการของอาการแพ้และสิวผดได้ ควรปรึกษาเภสัชกรเพื่อเลือกตัวยาที่เหมาะสมมาใช้รักษา


รักษาสิวผดไม่หายทำยังไงดี?

หากทำตามวิธีรักษาสิวผดแบบธรรมชาติแล้วก็ยังไม่เห็นผล หรือต้องการเร่งให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นไวแนะนำให้ใช้วิธีรักษาด้วยเทคโนโลยีในคลินิกควบคู่ด้วย ปัจจุบันมีให้เลือกได้หลากหลายและมีความปลอดภัยสูงหากทำกับคลินิกที่มีชื่อเสียง ไว้วางใจได้

 


วิธีการรักษาสิวผดแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการต่างๆ

ฉีดเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใสเป็นหัตถการความงามในคลินิกที่ทำด้วยวิธีการฉีดสารอาหารผิวเข้าไปในผิวชั้นกลาง สารอาหารที่อยู่ในตัวยาเมโสจะช่วยปรับสภาพผิวให้มีความแข็งแรง ผิวกระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น เป็นวิธีที่ดีในการฟื้นสภาพผิว โดยตัวยาเมโสหน้าใสมีให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อจะให้ผลลัพธ์ต่างกัน

ฉีดมาเด้คอลลาเจน

มาเด้คอลลาเจนเป็นยี่ห้อหนึ่งของตัวยาเมโส มีวิธีการฉีดที่ต่างจากการฉีดเมโสหน้าใสทั่วไป เนื่องจากเป็นตัวยาที่เน้นขับสารพิษ ลดสิวผด หรือผื่น ผ่านทางระบบน้ำเหลืองจึงอาศัยการฉีดแบบ 16 จุดในตำแหน่งเดียวกันกับจุดฝังเข็ม ทำให้เห็นผลลัพธ์ในการลดสิวผดได้ประสิทธิภาพสูง

นอกจากฉีดเมโสหน้าใสและมาเด้คอลลาเจนแล้วยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ช่วยรักษาสิวผดได้ เช่น เลเซอร์ผิว Dual Yellow และการฉีดวิตามินผิว ซึ่งจะช่วยปรับผิวให้แข็งแรงและลดการเกิดสิวผดได้เช่นกัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้ก่อนตัดสินใจ

 

รักษาสิวผดหายแล้วมีโอกาสกลับมาได้อีกไหม?

แม้ว่าจะรักษาสิวผดแล้วก็ยังมีโอกาสที่สิวผดจะกลับมาอีกครั้งได้ หากไม่ได้มีการรักษาอย่างต่อเนื่อง รักษาที่ต้นเหตุ หรือคอยระวังไม่ให้เกิดปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวผดขึ้น หากต้องการให้สิวผดหายไปไม่กลับมาขึ้นอีกจึงต้องดูแลให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว


วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้สิวผดกลับมาอีก

สำหรับคนที่ต้องการรักษาสิวผดให้หายขาดไม่กลับมาเป็นอีก แนะนำให้ทำหัตถการรักษาสิวผดอย่างต่อเนื่อง การฉีดมาเด้คอลลาเจนจะเห็นผลได้ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะการฉีดเป็นประจำทุกๆ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง เนื่องจากผลลัพธ์จะคงอยู่ได้สูงสุด 1 ปี จึงควรฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพ นอกจากนี้การรักษาความสะอาดและเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเหมาะกับผิวก็จะช่วยลดโอกาสไม่ให้สิวผดกลับมาอีกได้เช่นกัน

สำหรับคนที่เป็นสิวผดแล้วอยากรักษาให้หายต้องคำนึงถึงสภาพผิวและพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยสังเกตว่าสิวผดมักขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใดเพื่อจะได้วิเคราะห์สาเหตุได้อย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงไม่ให้สิวผดขึ้นอีก แต่หากสิวผดยังขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ ก็ควรเลือกเทคโนโลยีความงามมาช่วยเพื่อเร่งให้เกิดผลลัพธ์ที่เร็วและมีประสิทธิภาพขึ้นนั่นเอง

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูลและบทความจาก

https://www.gangnamconsult.com/acne-aestivalis/

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย wipadee_diary เมื่อ26 เมษายน พ.ศ. 2566 00.19 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา