6 วิธีล้างเครื่องซักผ้าให้สะอาดเหมือนใหม่ หมดปัญหาสิ่งสกปรก กลิ่นอับติดผ้า
ซักผ้าทั้งทีก็อยากได้ผ้ากลิ่นหอม สะอาดเหมือนใหม่ แต่ทำไมถึงได้มีคราบเปื้อนหนักกว่าเดิม แถมมีกลิ่นอับกันนะ ? นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณไม่ได้ใช้บริการล้างเครื่องซักผ้ามานานเกินไปแล้วก็เป็นได้ เพราะเครื่องซักผ้าที่ใช้เป็นประจำอาจเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก จนทำให้เกิดคราบฝังลึกภายในตัวถังซักล้างที่อาจปะปนมากับเสื้อผ้าที่เรานำไปซักจนเกิดทั้งคราบเปื้อน อาการคัน ระคายเคือง หรือโรคผิวหนังจากเสื้อผ้าที่ไม่สะอาดได้ วิธีล้างเครื่องซักผ้าสามารถทำได้หลายวิธี แต่จะต้องใช้น้ำยาแบบไหน หรือมีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
วิธีล้างเครื่องซักผ้า
การล้างเครื่องซักผ้าทำด้วยตัวเองได้ไม่ยาก และสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ในการล้างถังซักที่หาซื้อได้เองตามท้องตลาดทั่วไป ที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกคงเหลือในถังซัก ป้องกันกลิ่นอับที่อาจไปติดกับผ้าซักอีกด้วย
1. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูที่เป็นกรดอะซิกติก (Acetic Acid) จึงมีฤทธิ์เป็นกรดสามารถละลายแร่ธาตุ สิ่งสกปรก และไขมัน ทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ดังนั้นเราจึงสามารถล้างเครื่องซักผ้าได้ด้วยการใช้น้ำส้มสายชูประมาณ 230 มิลลิลิตรกับโปรแกรมซักน้ำร้อน หรือโหมดล้างเครื่องซักผ้า จากนั้นค่อยใช้น้ำเปล่าล้างกลิ่นน้ำส้มสายชูเครื่องซักผ้าก็จะสะอาดแล้ว
2. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยเบกกิ้งโซดา
เปิดโปรแกรมซักด้วยน้ำร้อน ใส่เบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะลงไปในช่องใส่ผงซักฟอก ปั่น และแช่ไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นค่อยใช้น้ำเปล่าล้างอีกรอบ เบกกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ จึงสามารถทำให้คราบไขมันหลุดออกไปได้ นอกจากนี้ยังสามารถขจัดกลิ่นอับภายในถังซักได้ดีอีกด้วย
3. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยผงซักฟอก
การล้างเครื่องซักผ้าด้วยผงซักฟอกเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด คุณสามารถใช้ผงซักฟอกที่ใช้เป็นประจำใส่ในช่องผงซักฟอก เปิดโหมดปั่นทั่วไป หรือล้างถังซักโดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้าลงไปซักด้วย เท่านี้ก็สามารถล้างเครื่องซักผ้าได้แล้ว
4. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาล้างเครื่องซักผ้า
น้ำยาล้างเครื่องซักผ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับล้างเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ โดยคุณสามารถเทผง หรือน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าลงในถังซัก จากนั้นเปิดโปรแกรมซักผ้า หรือล้างถังซักแล้วรอจนระบบทำงานเสร็จค่อยล้างอีกรอบด้วยน้ำสะอาด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
5. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยฟังก์ชันล้างถังซักผ้าอัตโนมัติ
เครื่องซักผ้าหลายรุ่นในปัจจุบันจะมีระบบล้างถังซักผ้าอัตโนมัติให้ เพียงกดโปรแกรมล้างถังซักตามคู่มือที่ได้มาจากการซื้อเครื่องซักผ้าของแต่ละแบรนด์คุณก็จะได้เครื่องซักผ้าที่สะอาด พร้อมใช้แล้ว
6. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยใช้บริการช่างล้างเครื่องซักผ้า
การล้างเครื่องซักผ้าโดยการใช้บริการช่างล้างเครื่องซักผ้าเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดล้ำลึก โดยช่างที่มีความรู้ความชำนาญ เพื่อการประหยัดเวลา และสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหาซักผ้าไม่สะอาด กลิ่นอับติดตามผ้าได้อย่างหมดจด
ล้างถังซักผ้าตอนไหนดี
ความสกปรกของถังซักผ้านั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าใช้งานมากน้อยเพียงใด ถ้าหากมีการใช้งานบ่อยเป็นประจำ หรือมีผ้าที่ต้องซักในจำนวนมาก ปริมาณการตกค้างของสิ่งสกปรกก็จะมากขึ้น คุณควรล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 1 เดือน เพื่อให้เสื้อผ้าสะอาด ไร้คราบสกปรกปนเปื้อน ลดอาการระคายเคือง และกลิ่นอับของเสื้อผ้า ควรตรวจสอบถังซักเป็นประจำ เพราะในการซักผ้าอาจมีเศษสิ่งของที่คุณลืมไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าตกหล่นจนอาจทำให้ระบบของเครื่องซักผ้ามีความผิดปกติ หรืออาจเปื่อยเน่าจนเกิดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียได้ เช่นเหรียญ เศษอาหาร เศษกระดาษ เป็นต้น นอกจากจะล้างถังซักผ้าเป็นประจำแล้ว ควรล้างช่องใส่น้ำยาซักผ้า ถุงกรองฝุ่น ไม่ควรอัดเสื้อผ้าจนแน่นเกินไปในคราวเดียวกันเพื่อถนอมเครื่องซักผ้าให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วย
สรุป
เครื่องซักผ้าที่สะอาดจะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณไร้กลิ่นอับ สะอาด ไม่หมอง ไม่มีรอยเปื้อนอันไม่พึงประสงค์ ทั้งการล้างเครื่องซักผ้าด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ หรือน้ำยาทำความสะอาดชนิดอื่น ๆ สิ่งสำคัญคือการใส่ใจรายละเอียด ล้างน้ำยาให้หมดจากเครื่องซักผ้าเพื่อไม่ให้เหลือสารทำความสะอาดไว้ให้ปนเปื้อนกับเสื้อผ้าที่ซักอีกรอบ นอกจากนี้ยังควรทำความสะอาดช่องใส่น้ำยาซักผ้า ถุงกรองฝุ่น และล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการรักษาความสะอาด ยืดอายุ และถนอมการใช้งานของเครื่องซักผ้าให้ยาวนานยิ่งขึ้น
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้