รู้ครบเรื่องประกันภัยบ้าน! มีกี่ประเภทและควรเลือกยังไง
‘บ้าน’ นับได้ว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนและกว่าจะมีบ้านได้แต่ละหลัง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นการดูแลบ้านมีความปลอดภัย นอกจากจะต้องทำการดูแลในระยะที่อยู่อาศัยแล้ว ยังควรคิดล่วงหน้าถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นประกันภัยบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรศึกษาเอาไว้ เพื่อเป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจ
ประกันภัยบ้าน คืออะไร?
ประกันภัยบ้าน คือประกันที่ให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย โดยเมื่อเกิดเหตุเสียหายให้แก่ตัวบ้าน บริษัทประกันภัยจะเข้าประเมินความเสียหายและชดเชยความสูญเสียตามกรมธรรม์ที่กำหนด ซึ่งประกันภัยบ้านก็ยังมีหลายประเภทให้เลือก
ประเภทของประกันภัยบ้าน
- ประกันอัคคีภัย เป็นประกันที่คุ้มครองเหตุไฟไหม้ ซึ่งครอบคลุมทั้งเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น ไฟป่า ฟ้าผ่า รวมถึงภัยจากฝีมือมนุษย์ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร แก๊สหุงต้มระเบิด หรือความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับไฟทั้งหมด
- ประกันภัยพิบัติ คือประกันที่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นในตัวบ้าน หรือความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากเหตุธรรมชาติ ได้แก่ น้ำท่วม แผ่นดินไหว รวมถึงภัยพิบัติอื่น
- ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรม เป็นประกันสำหรับคุ้มครองผู้ที่มีสินทรัพย์มูลค่าสูง จะคุ้มครองไปยังสินทรัพย์สำคัญ ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยง หรือมีประวัติการโจรกรรม
ปัจจัยในการเลือกประกันภัยบ้าน
- ประกันภัยบ้านให้การคุ้มครองภัยอะไร
ศึกษาให้ดีว่าประกันภัยบ้านในแต่ละที่ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง เช่น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิด ภัยจากยานพาหนะ หรือภัยจากธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว ซึ่งถึงแม้ว่าโอกาสการเกิดความเสียหายจากภัยบางอย่างอาจมีได้น้อย แต่ต้องเลือกให้มั่นใจว่ากรมธรรม์ที่เลือกซื้อจะครอบคลุมได้ในทุกความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
- ประกันภัยบ้านครอบคลุมทรัพย์สินส่วนใดบ้าง
ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าหากเกิดภัยขึ้น จะสามารถได้รับค่าตอบแทนจากความเสียหายจากทรัพย์สินประเภทไหน หรือชนิดใดได้บ้าง ประกันครอบคลุมถึงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง และทรัพย์สินอื่น รวมถึงฐานรากของสิ่งปลูกสร้าง ทองคำแท่ง อัญมณี เงินสด เอกสารสำคัญ ยานพาหนะ ต้นไม้ สวน สนามหญ้า หรือไม่
- มองหาความคุ้มครองเพิ่มเติม
หากพิจารณาแล้วว่าความคุ้มครองปกติที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ก็ควรมองหาตัวเลือกในการเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ภัยโจรกรรม หรือภัยน้ำท่วม โดยต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยส่วนเพิ่ม ซึ่งบางบริษัทอาจไม่รับพิจารณารับประกันเพิ่มเติมในส่วนนี้ จึงควรสอบถามและทำการตกลงกันให้ดีตั้งแต่แรก
- เลือกประกันภัยบ้านที่มีระยะเวลาคุ้มครองที่ยาวขึ้นแต่ได้ค่าเบี้ยถูกลง
เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากอัตราค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่า ควรเลือกทำประกัที่มีระยะเวลา 3 ปีขึ้นไป เพราะการตัดสินใจเลือกระยะเวลาคุ้มครองระยะยาว จะต้องเสียค่าดอกเบี้ยน้อยกว่าการเสียระยะปีต่อปี
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้