รู้จักกับการ IV Drip ดริปวิตามิน ทางเลือกในการดูแลสุขภาพ

ในปัจจุบันหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ IV Drip หรืออีกชื่อคือ การดริปวิตามิน ซึ่งเป็นวิธีการให้วิตามิน และแร่ธาตุ ผสมกับน้ำเกลือ ฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ร่างกายดูดซับวิตามิน แบบ 100% เป็นทางเลือกสำหรับการบำรุงร่างกาย ให้แข็งแรง โดยการใช้วิตามิน
IV Drip คืออะไร ?

iv drip คืออะไร เป็นวิธีการฉีดวิตามินเข้าร่างกายโดยตรง เรียกว่าการIV Drip หรือการดริปวิตามิน เป็นการให้วิตามินผ่านทางสายน้ำเกลือ โดยจะผสมวิตามินเข้ากับน้ำเกลือ ฉีดเข้าผ่านเส้นเลือดดำโดยตรง ซึ่งวิธีนี้จะส่งผลทำให้ร่างกายได้รับวิตามินได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 100% ใช้เวลาดูดซับได้เร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพจากการทำงานหนัก บำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส
รูปแบบของการฉีด IV Drip
สำหรับวิธีการของการฉีด IV Drip นั้นในปัจจุบันจะใช้กันอยู่ 2 รูปแบบคือ แบบเข็มไซริงค์ และแบบถุงน้ำเกลือ โดยการเลือกรูปแบบการฉีดนั้นจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากการฉีดในแต่ละรูปแบบ จะมีความเกี่ยวข้องกับสูตรวิตามินที่เหมาะสม และความเหมาะสมของผู้ที่รับบริการดริปวิตามิน ซึ่งวิธีการของทั้ง 2 รูปแบบจะมีดังนี้
1. IV Drip แบบเข็มไซริงค์

จะเป็นการใช้เข็มฉีดยาที่มีวิตามิน เข้าสู่หลอดเลือดดำโดยตรง เป็นวิธีที่สามารถฉีดได้หลายจุด นิยมใช้เพื่อ วิตามิน drip ผิว ซึ่งการดริปผิวคือ วิธีการฉีดวิตามินที่ใช้บำรุงผิวพรรณในแต่ละส่วน โดยจะนิยมมากที่สุดคือ ฉีดบริเวณผิวหน้า
2. IV Drip แบบถุงน้ำเกลือ

เป็นวิธีการฉีดที่มีคล้ายกับการให้น้ำเกลือเวลาเจ็บป่วย โดยจะผสมวิตามินเข้ากับน้ำเกลือ แล้วฉีดเข้ากับเส้นเลือดดำที่แขนโดยตรง อย่างช้า ๆ จนกว่าวิตามินที่ถุงจะหมด วิธีนี้จะนิยมใช้สำหรับการฉีด vitamin drip เพื่อบำรุงสุขภาพ
ประโยชน์ของการ IV Drip ดริปวิตามิน
จะเห็นได้ว่าการฉีด IV Drip ทั้ง 2 รูปแบบนั้นจะมีรูปแบบที่คล้ายเคียงกัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ที่มารับบริการดริปวิตามิน โดยการฉีดวิตามินเข้าสู่เส้นเลือดดำโดยตรงเลยนั้น จะสามารถช่วยให้ร่างกายดูดซับวิตามินเหล่านั้นได้อย่าง 100% และดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งประโยชน์ของการ IV Drip จะมีดังนี้
1. เพิ่มผิวกระจ่างใส (Brightening)
การฉีดวิตามิน IV Drip มีสูตรสำหรับการdrip ผิวโดยเฉพาะ จะสามารถช่วยดูให้ผิวดูกระจ่างใส ดูเปล่งประกาย ลดความหมองคล้ำ ลดปัญหาสำหรับผู้ที่ผิวเสีย ปัญหาริ้วรอยไม่เรียบเนียน
2. เพิ่มพละกำลัง (Energy Booster)
การฉีด IV Drip จะมีวิตามินรวมหลายชนิด ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย ให้กลับมาสดชื่น สำหรับผู้ที่ต้องทำงานหนัก ๆ มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ที่มีอาการ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย ต้องการความสดชื่น
3. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Booster)
การฉีด IV Drip จะมีวิตามินที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ที่มีส่วนช่วยในการกำจัดแบคทีเรีย ที่มีส่วนทำให้ร่างกายเจ็บป่วย มีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่าง ๆ ได้มากขึ้น
4. ดีท็อกซ์ (Detox)
การฉีด IV Drip ไม่เพียงแต่เสริมสร้างระบบต่าง ๆ ให้ร่างกายดีขึ้น ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายช่วยลดน้ำหนัก ช่วยให้ร่างกายขับสารพิษในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
การให้วิตามินผิว การดริปผิว IV Drip ดีไหม ?

จะเห็นได้ว่าการฉีด IV Drip จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นจากวิตามิน แถมร่างกายยังดูดซับได้เร็ว ได้วิตามินเต็ม 100% ซึ่งถ้าหากคุณสนใจที่จะทำการทำ IV Dripดริปวิตามินผิว จะมีข้อดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง ดังนี้
- ร่างกายสามารถดูดซับวิตามินได้ไวเต็มประสิทธิภาพ มากกว่าการรับประทานอาหารเสริม
- ช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น มีความกระจ่างใส เต่งตึง ลดริ้วรอย จุดด่างดำ ช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ หยาบกระด้าง
- กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน การสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ในการทำ การให้วิตามินผิว drip ผิว ใช้เวลาไม่นาน ใช้เวลาประมาณ 45 - 60 นาทีเท่านั้น
- หลังจากการทำดริปวิตามินผิวเสร็จแล้ว ไม่ต้องมีการหยุดงาน เพื่อพักฟื้นใด ๆ ไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ทำให้ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน
ใครเหมาะกับวิตามินผิว IV Drip
หลังจากได้เห็นข้อดีต่าง ๆ ของการ IV Drip แล้วว่าดีอย่างไร มาดูกันว่าการฉีดวิตามินผิวนั้นเหมาะกับใคร ใครบ้างที่มีความจำเป็นต้องทำการดริปวิตามิน เพื่อที่จะได้ช่วยรักษาสุขภาพ
- คนที่ต้องการวิธีที่สามารถทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างรวดเร็ว ต้องการฉีดยาบํารุงร่างกาย ด้วยวิตามิน เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินต่าง ๆ หลายชนิด
- คนที่ไม่ค่อยได้รับวิตามินจากแหล่งอื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหาร หรือคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเสริม
- คนที่ต้องการใช้เป็นวิตามินควบคู่กับวิธีอื่น ๆ เพื่อให้เสริมสร้างให้มีผลดีมากขึ้น
- คนที่มีปัญหาต่าง ๆ ทางผิวหนัง ขาดวิตามิน หรือต้องการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ซึ่งวิธีการ drip ผิว จะเหมาะช่วยรักษาได้
- คนที่ทำงานหนักมากเกินไป จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ทำให้มีปัญหาในการทำงานได้ไม่เต็มที่
- คนที่ต้องการกระตุ้นระบบเผาผลาญ และระบบการขับสารพิษของร่างกาย ให้ดียิ่งขึ้น
ข้อควรระวังก่อนทำ IV Drip

ถึงแม้ว่าการทำ IV Drip จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ว่าวิธีนี้นั้นก็เป็นวิธีการฉีดวิตามินเข้าผิวโดยตรง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับบางคน หรือคนที่มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ซึ่งก่อนการทำต้องแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบล่วงหน้า ซึ่งผู้ที่ต้องระวังจะมีดังนี้
- ในผู้หญิง ถ้าหากกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมลูกน้อยอยู่ อาจจะมีผลค้างเคียงได้ ไม่ควรทำการ drip ผิว ช่วงนี้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ คือ โรคหัวใจ, โรคเกี่ยวกับทางเดินโลหิต, โรคความดันโลหิตสูง, โรคตับ, โรคไต, โรคภูมิคุ้มกันต่ำ, โรคเบาหวาน, คนที่มีภาวะที่มีวิตามิน และแร่ธาตุเกิน, คนที่ป่วยภาวะพร่องเอนไซม์ หรือภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
- ก่อนการไปฉีด IV Drip ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปฉีด iv drip ที่ไหนดี ควรต้องหาข้อมูลสถานที่ที่จะไปฉีดก่อนด้วยเนื่องจากถ้าฉีดในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ฉีดวิตามินผิว IV Drip มีข้อเสียไหม
นอกจากข้อดีต่าง ๆ IV Dripก็จะมีข้อเสียเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง แต่ก็ยังต้องการเวลาในการฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งอาจจะไม่ใช่ข้อเสียเลยทีเดียว เป็นการขยายความให้คุณเข้าใจการ IV Drip มากขึ้น โดยข้อเสียต่าง ๆ จะมีดังนี้
- เมื่อฉีดวิตามินไปแล้ว อาจจะต้องใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ถึงจะเห็นผล ซึ่งขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้เข้ารับบริการด้วย
- ต้องมีการฉีด vitamin drip หลายครั้ง ขึ้นอยู่ว่ารับสูตรวิตามินแบบใด ซึ่งบางสูตรอาจจะต้องมีการฉีดซ้ำหลายครั้ง
- ผลลัพธ์ที่ออกมา อาจจะไม่ตรงกับที่คาดหวังไว้ เนื่องจากว่าเป็นการให้วิตามินกับร่างกายเท่านั้น
- ทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณที่ฉีดได้ เนื่องจากว่าเป็นการใช้เข็มฉีดใช้เวลา 45 - 60 นาทีอาจจะทำให้เจ็บบริเวณนั้นเป็นเวลานาน
- ในการ drip ผิว อาจจะต้องมีการมาฉีดซ้ำ เพราะการฉีดเพียงครั้งเดียวจะไม่ส่งผลถาวร จึงต้องมีการฉีดต่อเนื่องทุก ๆ 2 - 4 สัปดาห์เพื่อให้ผลดีอยู่ยาวนานยิ่งขึ้น
เตรียมตัวอย่างไรก่อน IV Drip
ถ้าหากคุณสนใจการทำ IV Drip และอยากเตรียมความพร้อมก่อน จะต้องมีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ซึ่งการเตรียมตัวจะมี 2 ขั้นตอนดังนี้
- แจ้งโรคประจำตัวต่าง ๆ ประวัติการเข้ารับการรักษา รวมถึงการรับประทานยา อาหารเสริมทุกชนิดที่ใช้อยู่ หรือเคยใช้ ให้กับแพทย์ทั้งหมดเพื่อป้องกันความอันตราย
- เลือกสูตร และ iv drip ราคา ที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อที่จะได้เสริมวิตามินได้ตรงจุด หรือปรึกษาคำแนะนำจากแพทย์ก่อน
- อ่านข้อมูล iv drip รีวิว จากผู้ใช้คนอื่น ๆ จากทางโซเชียล หรือจากคนใกล้ตัวที่เคยไปใช้บริการ เพื่อที่จะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าจะทำการ ดริปวิตามิน ที่ไหนดี
ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว IV Drip เป็นอย่างไร ?
ในเมื่อเตรียมตัวพร้อมรับบริการ IV Drip แล้วมาดูว่าการดริปวิตามินผิว มีขั้นตอนในการทำอย่างไรบ้าง ซึ่งระยะเวลาจะใช้เวลา ไม่เกิน 1 ชั่วโมงโดยประมาณ จะขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1

เริ่มต้นจากการตรวจเช็กร่างกายของผู้รับบริการ วัดส่วนสูง ช่างน้ำหนัก และวัดความดันโลหิต ก่อนที่จะทำการฉีด vitamin drip
ขั้นตอนที่ 2

แพทย์จะทำความสะอาดผิวหนังภายนอก ตรงบริเวณที่จะทำการฉีด vitamin drip เพื่อฆ่าเชื้อโรคป้องกันอันตราย
ขั้นตอนที่ 3

แพทย์เริ่มเจาะเข็มเข้าเส้นเลือดดำ และทำการฉีด vitamin drip ซึ่งจะมี 2 วิธีคือ
- การฉีดแบบไซริงค์ โดยแพทย์ จะทำการค่อย ๆ ฉีดวิตามินไปอย่างช้า ๆ จนหมดปริมาณไซริงค์
- วิธีการฉีดแบบถุงน้ำเกลือ จะเป็นการค่อย ๆ ฉีดเข้าไป โดยผู้บริการสามารถนั่ง หรือนอนก็ได้จนกว่าจะฉีดวิตามินครบ
ขั้นตอนที่ 4

หลังจากฉีดวิตามินครบแล้ว แพทย์จะนำเข็มออก แล้วปิดแผลบริเวณที่ฉีดวิตามินให้เรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการ IV Drip สามารถเดินทางกลับได้
ดูแลตัวเองอย่างไรหลัง IV Drip

และเมื่อทำการ IV Drip ฉีด vitamin drip เรียบร้อยแล้ว ต้องมีการดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อไม่ให้ผลของวิตามินเสียไป หรือช่วยให้วิตามินส่งผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น โดยมีข้อแนะนำดังนี้
- งดกิจกรรมกลางแจ้ง การโดนแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นควรใช้ ครีมกันแดดด้วย เพื่อป้องกันผิวเสีย ในระหว่างที่กำลังฟื้นฟู
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหรี่ ในระยะยาวเพื่อป้องกันการไปทำลายวิตามิน
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินต่าง ๆ ครบถ้วน ดื่มน้ำให้เพียงพอ และมีการรับประทานอาหารเสริมควบคู่ไปด้วย
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน ไม่ต้องมากเพียงวันละ 30 - 60 นาที เพื่อช่วยเร่งระบบเผาผลาญ จะส่งผลให้วิตามินที่ฉีดไปมีผลดียิ่งขึ้น และส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ข้อสรุป
เห็นได้เลยว่าการ IV Drip หรือการดริปวิตามินผิว จะเป็นทางเลือกเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินในการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี และมีขั้นตอนต่าง ๆ ที่ไม่ยากใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และการดูแลตัวเองหลังจากทำการฉีดวิตามินก็ไม่ยุ่งยาก ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมาก และถ้าหากคุณสนใจการ IV Drip แต่ยังไม่รู้ว่าจะดริปวิตามิน ที่ไหนดี ขอแนะนำให้มองหาบริการ iv drip โรง พยาบาล ที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้บริการ เพื่อป้องกันอันตรายด้านสุขภาพ
บทความเยี่ยมมากๆ ติดตามนะจ้ะ วิธีทำให้หน้าเรียว ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า ครีมบำรุงหน้า ครีมทาผิว ลบรอยแผลเป็น ฉีดผิวขาว อยากหน้าใส ครีมทาผิว ครีมทาผิวขาว Moisturizer สครับผิวหน้า วิธีรักษารอยแผลเป็น สครับผิวขาว สครับผิวกาย สครับมะเขือเทศ สครับขมิ้น สครับมะนาว สครับ สครับมะขาม สครับผิว ครีมทาหน้า ไฮยาลูรอน ทำปากกระจับ ครีมทาผิว ครีมทาผิวแห้ง Allergan โบท็อกซ์ Allergan โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี โบท็อกซ์ปลอม แฟตเหนียง แฟตแก้ม เมโสแฟต ฉีดเมโสแฟต แฟตแขน แฟต แฟตสลายไขมัน เมโสแฟตหน้าท้อง ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง แฟตหน้า แฟตขา ฉีดแฟตขา แฟตพุง ฉีดแฟตพุง ฉีดลดเหนียง แฟตหน้าท้อง เมโสแฟตหน้าท้อง แฟตเหนียง ฉีดแฟตเหนียง ฉีดแฟตหน้าท้อง ฉีดแฟตแก้ม ฉีดแฟตลดเหนียง ฉีดแฟตแล้วแก้มห้อย ฉีดแฟต ใกล้ฉัน ฉีดแฟตแขน ฉีด Fat เหนียง ฉีด Meso Fat ฉีดผิว เคล็ดลับหน้าใส ฉีด Fat แก้ม Meso Fat ฉีดแฟต ปากกระจับ Ulthera Prime VS Volnewmer Ulthera Prime VS Emface Ulthera Prime VS Ultraformer MPT Ulthera Prime VS Ulthera คลินิกเสริมความงาม คลินิกเสริมความงามใกล้ฉัน มาเด้ ผ่าตัดดึงหน้า ผ่าตัดดึงหน้าลดร่องแก้ม ไหมลดร่องแก้ม ร้อยไหมลดร่องแก้ม วิตามินหน้าใส ฉีดวิตามินหน้าใส ฉีดหน้าใส ลดร่องแก้ม HIFU ลดร่องแก้ม ฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ลดร่องแก้ม อัลเทอร่า ฉีดมาเด้ ฉีดมาเด้คอลลาเจน เมโส romrawin รมย์รวินท์ Hair Stem Micro Transplant ผมร่วงเยอะ ผมร่วงเยอะมาก ผมบาง ผมบางกลางหัว Exosome Hair ปลูกผม Exosome Hair รีแพร์ ฉีดปากกระจับราคา ฉีดปากราคา ฉีดโบท็อกใต้ตาราคา ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ฉีดใต้ตาราคา ฉีดโบท็อกถุงใต้ตาราคา โบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล HArmonyCA ราคา Profhilo ราคา ฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี โบท็อกซ์หน้าผาก ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว โบท็อกซ์ยกคิ้ว ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว โบท็อกซ์ฝ่ามือ ฉีดโบท็อกซ์ฝ่ามือ โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า โบท็อกซ์รักแร้ ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ โบท็อกซ์ฝ่าเท้า ฉีดโบท็อกซ์ฝ่าเท้า โบท็อกซ์คาง ฉีดโบท็อกซ์คาง โบท็อกซ์กราม ฉีดโบท็อกซ์กราม โบท็อกซ์หางตา ฉีดโบท็อกซ์หางตา ฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา Teoxane Teosyal รีจูรัน Juvelook ฉีดปาก ฉีดปากกระจับ เป็นฝ้า ขาใหญ่ ดริปวิตามิน ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม LLLT ราคา ลดความอ้วน Ultraformer III ราคา Thermage FLX ราคา รอยดำรอยแดง Pico ราคา รักษาฝ้า กระ ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ราคา โบท็อกซ์จมูก ฉีดโบท็อกซ์จมูก รักษาฝ้า จุดด่างดำ Plasma Acne ฉีดไขมัน เติมไขมันหน้า เลเซอร์รักษาผมร่วง ผมคัน PRP ปลูกผมด้วยพลาสม่า Meso Hair ราคา Pico หลุมสิวราคา โบท็อกซ์คอ ฉีดโบท็อกซ์คอ ฟิลเลอร์อันตรายไหม ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ฉีดโบท็อกซ์ เรเดียส ฉีดเรเดียส หน้าใส ผู้ชายนอนกรน Pico หน้าใสราคา แก้อาการนอนกรนผู้หญิง นอนกรนเกิดจาก Pico หน้าใส Hifu ราคา Radiesse ราคา ฟิลเลอร์จมูกราคา ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์หน้าผากราคา ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคา Revanesse ฟิลเลอร์ Revanesse Definisse ฟิลเลอร์ Definisse สิวผด ตาเฉี่ยว ยกหางตาเฉี่ยว หนังตาตกในผู้สูงอายุ หนังตาตกข้างเดียว หนังตาตก ผ่าตัดถุงใต้ตา Yvoire ฟิลเลอร์ Yvoire Volifil ฟิลเลอร์ Volifil Variofill ฟิลเลอร์ Variofill Revolax ฟิลเลอร์ Revolax Neobelle ฟิลเลอร์ Neobelle Ultraformer MPT ทำนม เสริมหน้าอก Restylane ฟิลเลอร์ Restylane Neauvia ฟิลเลอร์ Neauvia Hyafilia ฟิลเลอร์ Hyafilia Flore ฟิลเลอร์ Flore E.P.T.Q. ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. Neuramis ฟิลเลอร์ Neuramis Perfectha ฟิลเลอร์ Perfectha Biohyalux Apex ให้ใจ สุขภาพ เมโสหน้าใส เมโส ฉีดเมโส Made Made Collagen โบลดร่องแก้ม ฉีดโบลดร่องแก้ม Oligio ลดร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ปาก แผลเป็น Neuronox โบนิว Neuronox Neuronox โบท็อกซ์ Neuronox Morpheus8 vs Ulthera Prime Ultraformer MPT vs Ultraformer III Morpheus8 vs Thermage FLX Ultraformer MPT vs Oligio Morpheus8 vs Emface Morpheus8 vs Volnewmer Morpheus8 vs Linear Z Morpheus8 vs Oligio Ultraformer MPT vs Ulthera Prime หน้าแห้งลอกใช้อะไรดี Ultraformer MPT vs Emface กลูต้า กลูต้าไธโอน กลูต้าช่วยให้ขาวจริงไหม กลูต้า กลูต้าไธโอน ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ฉีดโบท็อกซ์ปาก ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา ฉีดโบท็อกซ์กราม โบท็อกซ์หน้าผาก ฉีดโบท็อกซ์ โบท็อกซ์ Ultraformer MPT vs Volnewmer Ultraformer III Ultraformer MPT vs Thermage FLX Ultraformer MPT vs Linear Z เลเซอร์ขนน้องสาว กำจัดขนถาวร แว็กซ์ขน Thermage FLX Linear Z Ultraformer ยกกระชับหน้า Emface HIFU Ulthera Ulthera Prime Ultraformer MPT Thermage กำจัดขนขา
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

