10 ยี่ห้อผ้าเช็ดรถ สะอาด ไม่เป็นขุย ราคาสบายกระเป๋า

รถยนต์คันโปรดถ้าไม่สะอาดเอี่ยมอ่องจะเอาไปอวดใครก็ต้องมีเขินกันบ้าง การทำความสะอาดรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย หากจะเช็ดคราบหลังการล้างรถยนต์ก็จำเป็นต้องเลือกผ้าที่มีวัสดุเหมาะสำหรับรถยนต์ของเรา เพื่อให้ไม่เกิดรอยขีดข่วนขึ้นกับตัวผิวรถ ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้รถคุณสะอาด เงางาม ไร้ที่ติ 

ผ้าเช็ดรถสำคัญอย่างไร ทำไมใช้ผ้าทั่วไปไม่ได้?

การใช้ผ้าแบบธรรมดาทั่วไปที่สามารถใช้ได้อเนกประสงค์มาเช็ดรถ อาจทำให้เกิดการขีดข่วนขึ้นกับผิวรถ เพราะผ้าทั่วไปไม่สามารถดูดซับฝุ่นละออง และความชื้นได้ดีเท่ากับผ้าที่มีเพื่อการเช็ดรถโดยเฉพาะ ทำให้เกิดคราบสกปรกตกค้างไว้ที่รถยนต์หลังการล้าง ทำให้สีรถหมอง ไม่เงางามเหมือนตอนถอยออกมาใหม่ ๆ จากศูนย์ ดังนั้นการเลือกใช้ผ้าเช็ดรถที่ออกแบบมาเฉพาะอย่างผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์ที่มีเส้นใยละเอียด นุ่ม ถนอมพื้นผิวรถยนต์เราได้เป็นอย่างดีจึงเหมาะกว่าในการดูแลบำรุงรักษารถยนต์ 

อันดับของผ้าเช็ดรถที่น่าสนใจในปี 2023 

1. ผ้าเช็ดรถจาก Klean Square

ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถขนาด 50x50 ความหนา 300 แกรม ด้วยเส้นใยสังเคราะห์ที่เล็กกว่าธรรมชาติถึง 10 เท่า จึงมีความอ่อนนุ่มกว่าผ้าโดยทั่วไป ใช้ได้กับทุกพื้นผิว มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูง กักเก็บฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กได้ดี ดูดซับน้ำได้ไว อุ้มน้ำได้เยอะ แต่แห้งเร็ว ไม่ทำให้เกิดกลิ่นกับ และไม่เกิดการสะสมของแบคทีเรีย ทนทานกว่าผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ ช่วยถนอมสีรถทุกพื้นผิวได้ดีมาก ใช้งานง่ายได้ทั้งพื้นผิวแห้ง เปียก หรือใช้กับน้ำยาเคลือบรถให้เงางามก็สามารถทำได้ 

2. ผ้าเช็ดรถ Supreme Shine Microfiber Towels

ผ้าเช็ดรถที่มีคุณสมบัติซึมซับน้ำได้ดี เช็ดคราบสกปรกได้ และสามารถช่วยเก็บงานสีรถได้ด้วยความสามารถในการเช็ดสเปรย์ดีเทลเลอร์ของผ้ายี่ห้อนี้ วิธีการทำความสะอาดง่ายดายด้วยการซักเครื่อง และนำเข้าอบ หรือตากไว้ในที่มีแดดส่องก็เพียงพอแล้ว 

3. ผ้าเช็ดรถ SCOTCH-BRITE MICROFIBER CHAMOIS

คุณสมบัติเด่นของผ้าเช็ดรถยี่ห้อนี้คือการรีดน้ำออกหลังจากเช็ดรถได้ดีเยี่ยม นิยมอย่างมากในการนำไปเช็ดกระจกรถยนต์ เนื้อผ้าเบา ทำความสะอาดง่าย บิดน้ำออกได้ไม่ต้องใช้แรงเยอะ ขนาดกำลังพอดี เหมาะกับการใช้งานในทุกพื้นผิว 

4.ผ้าเช็ดรถ WACA

ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถที่มีขนาดใหญ่พิเศษ จึงทำให้สามารถทำความสะอาดรถยนต์ได้สะอาด และรวดเร็ว เหมาะกับการทำความสะอาดรถภายนอกมากกว่าตามซอกต่าง ๆ  มีขนาดขนไมโครไฟเบอร์ที่ยาวกว่าผ้าเช็ดรถทั่วไป ช่วยลดการเสียดสีระหว่างพื้นผิวรถยนต์ ทำให้เราอุ่นใจยิ่งขึ้นว่ารถยนต์จะไม่เป็นรอย 

5.ผ้าเช็ดรถ Unic

ความพิเศษของผ้าเช็ดรถผืนนี้คือมีทั้งผ้าขนยาว และขนสั้นในผืนเดียว ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งการเช็ดคราบหลังล้างรถ เช็ดน้ำยาเคลือบสีภายนอกรถ การขัดเงารถยนต์ หรือแม้กระทั่งเช็ดกระจกรถก็ทำได้ดีเช่นกัน 

6.ผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์ 3M 

อีกหนึ่งยี่ห้อผ้าเช็ดรถที่เป็นที่นิยม หาซื้อง่าย ด้วยความเรียบแบนพิเศษ ทำให้มีคุณสมบัติในการเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำ คราบน้ำมันแห้ง และคราบไขมันได้ดี ไม่ทำให้เกิดรอยบนผิวรถ เนื้อผ้าไม่ยุ่ยง่าย ช่วยเก็บฝุ่นละอองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ของรถยนต์ไม่เงางาม 

7.ผ้าเช็ดรถ Karlux

ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถ สีเทาขอบแดงที่หลาย ๆ  คนอาจคุ้นตา เป็นผ้าชนิดที่ใช้เส้นใยไฟเบอร์เกรดสูงทำให้มีความหนา ฟู นุ่มนิ่ม สามารถเก็บฝุ่นละอองได้ดี ไม่ทำให้เกิดรอยขนแมวกับสีรถ หรือจะใช้กับแวกซ์ หรือสเปรย์แวกซ์ก็ทำให้รถสะอาดเงางามดี

8.ผ้าเช็ดรถ Carlack

คุณสมบัติสำคัญคือความยืดหยุ่น อ่อนนุ่มของผ้าเช็ดรถยี่ห้อนี้ การใช้งานทำความสะอาดก็ง่ายดายเพียงแค่นำไปชุบน้ำ เช็ดคราบสกปรกตามที่เราต้องการ ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวรถยนต์แม้แต่น้อย เมื่อใช้เสร็จสามารถซักด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาทำความสะอาด แล้วตากให้แห้งได้เลย 

9.ผ้าเช็ดรถ FS 3D

ผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์ 3D ที่เหมาะสำหรับเช็ดฝุ่นเกาะ คราบสิ่งสกปรกได้กับทุกสิ่งในบ้าน เนื้อผ้าหนานุ่ม ซับน้ำ ฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดี ด้วยความหนาขนาดนี้ทำให้หมดกังวลเรื่องรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นกับสีรถยนต์ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เช็ดหน้าจอมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตได้อีกด้วย 

10. ผ้าเช็ดรถ ICLEAN

ผ้าล้างรถสุดคุ้มที่ได้ถึง 3 รูปแบบในกล่องเดียว เป็นผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถแบบขนสั้น แบบคลุมตาข่าย และผ้าผิวลูกฟูก ทำให้ครอบคลุมการใช้งานได้หลายประเภท ทั้งเช็ดฝุ่น เช็ดคอนโซลรถ และสามารถใช้กับน้ำยาเคลือบเงารถยนต์ได้อีกด้วย 

สรุป

ในปัจจุบันผ้าเช็ดรถที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าผ้านาโนเช็ดรถ สามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง การเลือกควรดูชนิดของผ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน หรือเลือกใช้ผ้าเช็ดรถอเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบก็จะง่ายดายขึ้นไปอีก ควรเลือกผ้าที่แห้งง่าย ไม่มีกลิ่นอับ หรือแบคทีเรียที่จะก่อให้เกิดความเสียหายให้กับรถยนต์ และอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ควรอ่านคู่มือการใช้งานให้ละเอียด ดูแลให้ถูกวิธี เพื่อความยาวนานในการใช้งาน