ไขข้อสงสัย เติมลมยางไนโตรเจน ดีกว่าลมยางธรรมดาจริงหรือไม่

ปกติแล้วลมที่ใช้เติมธรรมดานั้นจะมีปริมาณไนโตรเจนอยู่ 78% ซึ่งเป็นปริมาณของไนโตรเจนตามปกติที่มีอยู่ในบรรยากาศ ส่วนการ เติมลมยางไนโตรเจน ที่มีให้บริการเฉพาะบางร้านและมีค่าใช้จ่ายเป็นลมยางที่มีไนโตรเจนอยู่ 93%

โดยไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ ไม่ติดไฟ ลมไนโตรเจน ที่ใช้เติมยางเป็นแบบดราย (Dry Nitrogen) ซึ่งมีไอน้ำน้อยมาก ทำให้มีข้อดีมากมายในการเติมลมยางรถด้วยชนิดนี้

1. ไม่ต้องเติมลมยางบ่อย เนื่องจากโมเลกุลของลมยางไนโตรเจนมีขนาดใหญ่กว่าและเคลื่อนที่ได้ช้ากว่าลมยางธรรมดา จึงรั่วซึมได้น้อยกว่า
2. ขับได้นุ่มนวลกว่า เนื่องจาก ลมยางไนโตรเจน มีไอน้ำน้อยกว่าลมยางธรรมดา เมื่อมีความร้อนเพิ่มขึ้นจากการใช้งาน ลมยางไนโตรเจน จึงขยายตัวได้น้อยกว่า แรงดันลมยางจึงมีความคงที่มากกว่า 
3. ช่วยให้กระทะล้อที่เป็นเหล็กเกิดสนิมได้น้อยกว่า เนื่องจาก ลมไนโตรเจน มีความชื้นน้อยกว่า
4. โอกาสที่จะเกิดยางระเบิดน้อยกว่า เนื่องจากไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย

การเติมลมยางไนโตรเจนต้องเติมจากร้านที่มีลมไนโตรเจนให้บริการ ซึ่งอาจอยู่ไกลจากที่พักหรือที่ทำงาน อาจจะไม่สะดวกและยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายอีกด้วย

กรณีใช้ ลมยางไนโตรเจน อยู่แล้ว แต่หาที่ เติมลมยางไนโตรเจน ไม่ได้ ก็สามารถเติมลมยางธรรมดาได้ แต่จะทำให้คุณสมบัติของลมไนโตรเจนลดลง เมื่อเติมลมยางธรรมดาเข้าไปเรื่อย ๆ ลมใน ยางรถ ก็จะเป็นลมยางธรรมดาไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นยางรถยนต์ที่มีลมยางธรรมดา แต่เมื่อเติมลมไนโตรเจนเข้าไปใหม่ คุณสมบัติของลมไนโตรเจนก็จะกลับมา

แนะนำว่าให้เลือกเติมลมยางชนิดที่เหมาะกับการขับขี่ของเราและความสะดวก โดยแนะนำให้ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำเพื่อเติมลมยางให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง ช่วยประหยัดน้ำมัน ช่วยควบคุมการขับขี่ และช่วยลดโอกาสยางระเบิด เพื่อให้ได้ความดันลมยางที่ถูกต้องจึงควรตรวจเช็กและเติมลมยางในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ เนื่องจากความร้อนที่สะสมในยางทำให้ความดันลมยางสูงขึ้นกว่าปกติ ควรจอดพักประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะตรวจเช็กลมยาง แต่ถ้าวิ่งมาได้เพียง 2 -3 กิโลเมตร ก็สามารถตรวจเช็กลมยางได้เพราะลมยางยังไม่ร้อนมาก

การเติม ลมไนโตรเจน หรือลมธรรมดาขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ขับขี่ สิ่งสำคัญกว่าคือการตรวจเช็กลมยางและเติมลมยางให้อยู่ในค่าที่เหมาะสมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง