ดูดไขมันหน้าท้องคืออะไร มีผลข้างเคียงหรือไม่ อยากรู้ต้องอ่าน

การดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) เป็นการดูดไขมันที่มีความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะการมีไขมันหน้าท้องสามารถเกิดได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง เกิดได้ทั้งคนอ้วนและคนผอม โดยการมีไขมันหน้าท้องล้วนจะทำให้มีขนาดหน้าท้องที่ใหญ่ เพราะมีไขมันส่วนเกินอยู่มาก ส่งผลให้เกิดพุงย้อย พุงยื่น พุงป่อง พุงกลม เป็นต้น

จากที่กล่าวมาล้วนเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจ ต้องไม่รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การคุมอาหาร ออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ทำให้พุงยุบตามที่ต้องการได้ จึงทำให้เกิดการดูดไขมันหน้าท้อง โดยจะทำให้มีหน้าท้องที่แบนราบกลับมาดูดีและมีความมั่นใจได้อีกครั้ง

ดูดไขมันหน้าท้อง คือ

การดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) คือ การแก้ปัญหาเพื่อกำจัดไขมันสะสมส่วนเกินใต้ชั้นผิวบริเวณหน้าท้อง โดยใช้เครื่องดูดไขมัน ซึ่งสามารถแก้ปัญหาท้องย้อย ท้องยื่น ท้องลาย เป็นต้น ทางศัลยแพทย์จะทำการประเมินและออกแบบหน้าท้องให้ตรงกับความต้องการของผู้รับบริการดูดไขมันหน้าท้อง เช่น ดูดไขมันเพื่อปรับให้หน้าท้องแบนเรียบ หรือดูดไขมันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เป็นต้น

ข้อควรรู้ก่อนดูดไขมันหน้าท้อง

ในการดูดไขมันหน้าท้องนั้น ไม่ใช่การลดความอ้วน ซึ่งถ้าต้องการให้การดูดไขมันหน้าท้องได้ผลและผ่านไปได้ด้วยดี ต้องมีการดูแลตัวเอง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ผิวหน้าท้องมีความกระชับ ไม่เหี่ยวย่น ได้รูปร่างตามที่ต้องการ มีข้อควรรู้ก่อนดูดไขมันหน้าท้อง เช่น

• การดูดไขมันหน้าท้องอันตรายหรือไม่
  

ความปลอดภัยของการดูดไขมันหน้าท้องนั้น ขึ้นอยู่ที่รายละเอียดดังนี้

1. ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ที่ทำการดูดไขมัน
2. ต้องตรวจสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รวมถึงตรวจเช็กว่ามีโรคประจำตัว เช่น โรคความดัน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ เป็นต้น หากมีโรคเหล่านี้ไม่ควรดูดไขมันหน้าท้อง

• การดูดไขมันหน้าท้องอาจไม่เห็นผล

การที่ดูดไขมันหน้าท้องจะเป็นการดูดไขมันใต้ผิวหนังออกไป ซึ่งบางทีที่อาจรู้สึกไม่เห็นผลนั้น อาจมีสาเหตุมาจาก

1. เป็นไขมันในช่องท้อง ซึ่งไม่ใช่ไขมันใต้ผิวหนังที่ทำการดูดออกไป ซึ่งทางศัลยแพทย์ที่ทำการดูดไขมันหน้าท้องให้เรานั้น ไม่สามารถดูดไขมันตรงส่วนนี้ได้ เพราะจะเป็นอันตรายต่อตับ ไต ลำไส้ และอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องท้องได้
2. เกิดการบวมหลังจากทำการดูดไขมันออกไป โดยร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ส่งเลือดและน้ำเหลืองเข้ามาในบริเวณที่ดูดไขมันมากกว่าปกติ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสียไป ซึ่งหลังจากผ่านไปประมาณ 1 เดือน อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง
3. เกิดจากการดูดไขมันออกไม่หมด ซึ่งเกิดจากความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ที่มีไม่มากพอ เพราะฉะนั้นการเลือกศัลยแพทย์ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
4. เกิดจากปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อน ซึ่งส่วนมากจะเกิดในกลุ่มเพศหญิงหลังคลอดที่กล้ามเนื้อท้องเกิดการขยายออกหลังตั้งครรภ์ ทำให้หน้าท้องหย่อน และกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เคยชิดกันเกิดการแยกออก ทำให้ท้องยื่นออกมามากขึ้น  

• การดูดไขมันหน้าท้องอาจเกิดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดหลังจากดูดไขมันหน้าท้องมีอยู่หลายอาการ เช่น น้ำเหลืองใต้ผิวหนังมีอาการบวม เกิดไขมันอุดตันที่ปอดหรือเส้นเลือด อาการปวดชา แผลติดเชื้อ เลือดจาง เลือดคั่ง ผิวหนังไหม้ เป็นต้น จึงควรคิดให้ดีก่อนดูดไขมันหน้าท้อง และจะต้องตรวจสอบร่างกายหลังดูดไขมันหน้าท้องเสมอ หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทันที

เครื่องดูดไขมันหน้าท้องมีกี่แบบ อะไรบ้าง

การดูดไขมันหน้าท้องนั้น เราจะทำการใช้เครื่องดูดไขมันรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้มีความสะดวก รวดเร็ว ลดความเจ็บปวด ลดร่องรอยแผลให้ได้มากที่สุด ตลอดจนดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น ตามความเหมาะสมกับผู้รับบริการ ตัวอย่างเช่น

1. เครื่องดูดไขมัน Ultra Z เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังความร้อน โดยอาศัยคลื่นเสียงอัลตร้าซาด์ สร้างความร้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันปริมาณน้อย
2. เครื่องดูดไขมัน Vaser เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์สลายไขมัน ก่อนจะดูดออกมา ทำให้แผลเล็ก ทำให้ฟื้นตัวไว แผลหายไวขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูดไขมันปริมาณมาก โดยไม่ต้องพักนาน
3. เครื่องดูดไขมัน Body Tite เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้เทคนิคพลังงานคลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นความร้อนเข้าไปละลายไขมันให้แตกตัว ทำให้นอกจากกำจัดไขมันแล้ว ยังช่วยกระชับผิวไปในตัว เหมาะสำหรับผู้ที่พึ่งคลอด ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย หรือผู้ที่มีไขมันสะสม
4. เครื่องดูดไขมัน MicroAire PAL เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้การสั่นสะเทือน มีประสิทธิภาพในการแยกชั้นไขมันที่สะสมมานานจนเป็นพังผืดได้ดี สลายไขมันได้ในปริมาณมาก แต่ที่สำคัญต้องวางยาสลบเสมอ
5. เครื่องดูดไขมัน body-jet เป็นเครื่องดูดไขมันที่ใช้พลังงานน้ำเข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนังก่อนดูดไขมันออกมา โดยสามารถนำเซลล์ไขมันที่ดูดออกมาไปเติมเต็มส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้ เช่น หน้าอก สะโพก หรือร่องลึกบริเวณใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แต่ค่อนข้างมีราคาสูง
   
   

ปัญหาหน้าท้อง มีอะไรบ้าง

ซึ่งปัญหาหน้าท้อง มีอยู่หลายสาเหตุ โดยมักจะเกิดกับคุณแม่หลังคลอด หรือคนที่กินอาหารเป็นจำนวนมาก ๆ ซึ่งปัญหาหน้าท้องที่ไม่สวยงาม ไม่ได้เกิดจากไขมันเพียงอย่างเดียว ยังเกิดจากปัจจัยอื่นได้อีกด้วย เช่น ระบบการเผาผลาญ, อายุ, ปัญหาผิวย้วย, การคลอดน้อง, การลดน้ำหนัก และการกิน เป็นต้น ตัวอย่างปัญหา เช่น

หน้าท้องใหญ่

โดยที่หน้าท้องใหญ่สามารถแก้ไข ด้วยการดูดไขมันหน้าท้อง, ควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย และปรับพฤติกรรมการกิน 

หน้าท้องย้อย

โดยที่หน้าท้องย้อยในกรณีที่รุนแรงสามารถแก้ไข ด้วยการผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) หากอยู่ในระดับกลางสามารถใช้วิธียกกระชับด้วย J-Plasma ได้

การดูดไขมันหน้าท้องในผู้ชาย

การดูดไขมันหน้าท้องในผู้ชายนั้น สืบเนื่องจากหากผู้ชายมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ไขมันมักจะสะสมที่หน้าท้องเป็นหลัก พุงป่อง ท้องใหญ่ ทำให้เสียบุคลิกภาพไปจากเดิม ซึ่งหากไขมันเพิ่มมากขึ้น หลังก็จะงอ เวลานั่งหรือยืนก็ดูไม่สง่าผ่าเผย

ดังนั้นการดูดไขมันหน้าท้องผู้ชาย จึงเป็นตัวช่วยที่น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ปัญหา อ้วนลงพุง ได้ดีอีกทางหนึ่ง เพื่อลดหน้าท้อง ทำให้หุ่นดีและมีไขมันหน้าท้องนิด ๆ หากต้องการลดหน้าท้องเพื่อให้เห็นซิกแพค สามารถทำการดูดไขมันซิกแพคได้อีกด้วย

ขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้อง

โดยขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้อง มีดังนี้

1. ปรึกษากับทางศัลยแพทย์ เพื่อทำการประเมินก่อนดูดไขมันหน้าท้อง
2. ศัลยแพทย์ทำการระบุตำแหน่ง วัดสัดส่วน และถ่ายรูปบริเวณที่จะดูดไขมันหน้าท้อง
3. ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน และบริเวณใกล้เคียง จากนั้นจะฉีดยาชาในบริเวณที่จะทำการเปิดแผล
4. เปิดแผลประมาณ 0.2-0.5 มิลลิเมตร เพื่อใส่ Tumescent ซึ่งเป็นสารน้ำเกลือผสมยาชาที่จะช่วยสลายไขมัน ซึ่งจะทำให้การดูดไขมัน ให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น และใช้เวลาน้อยลง
5. เริ่มทำการดูดไขมันหน้าท้อง โดยขั้นตอนนี้จะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์แต่ละคน ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีตามความถนัดของแต่ละคน และเหมาะสมกับผู้ใช้บริการ
6. เมื่อดูดไขมันหน้าท้องเสร็จแล้ว จะทำการเย็บปิดปากแผล หลังจากนั้น 7 วัน ศัลยแพทย์จะนัดเข้ามาดูอาการและตัดไหม
7. หลังจากดูดไขมันหน้าท้อง 2 สัปดาห์ ศัลยแพทย์จะนัดเข้ามาทำการกระชับผิว และใช้เลเซอร์ลดบวมด้วย
   
   

วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันหน้าท้อง

เมื่อทำการดูดไขมันหน้าท้องเสร็จแล้ว ต้องติดตามอาการและดูแลรักษาตัวเองเมื่อความปลอดภัย ได้แก่

• ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ โดยใช้วิธีเช็ดตัวแทน ประมาณ 1-2 สัปดาห์
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยไม่กินอาหารประเภทไขมัน แป้ง และน้ำตาล เพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสม
• งดยกของหนัก งดออกกำลังกาย ประมาณ 3 สัปดาห์
• พยายามเดินตัวตรง
• งดยาและอาหารเสริมบางชนิดที่อาจส่งผลให้อาการชา ประมาณ 3 สัปดาห์
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ประมาณ 3 สัปดาห์
• พบศัลยแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ
• ใส่ชุดให้กระชับสัดส่วนเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนแผล
• ออกกำลังกายเป็นประจำ หลังจากแผลหายสนิทแล้ว
  
  

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังดูดไขมันหน้าท้อง

เมื่อทำการดูดไขมันหน้าท้องเสร็จแล้วนั้น อาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น

• อาการปวดระบม เนื่องจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกกระทบกระเทือนจากการดูดไขมันหน้าท้อง โดยทั่วไปจะหายภายในประมาณ 1 สัปดาห์
• อาการวิงเวียนศีรษะ อาจเกิดจากการสูญเสียน้ำในร่างกายขณะดูดไขมันหน้าท้อง หรือผลข้างเคียงจากยาชา ซึ่งควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อลดอาการ
• อาการฟกช้ำ จะค่อย ๆ เลือนหายได้จนเป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องประคบ
• อาการบวม อาจเกิดจากการอักเสบ โดยทั่วไปจะหายเป็นปกติภายใน 3-4 เดือน
  
  

FAQs เกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าท้อง

การดูดไขมันหน้าท้อง เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมากมายที่ศัลยแพทย์อธิบายได้ไม่หมด แต่เป็นเรื่องที่ผู้คนสงสัยกันมาก ตัวอย่างเช่น

ดูดไขมันหน้าท้อง ต้องวางยาสลบไหม

โดยการวางยาสลบระหว่างดูดไขมันหน้าท้องนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง และที่สำคัญต้องผ่านการประเมินของศัลยแพทย์ว่าเหมาะแก่การวางยาสลบหรือไม่

ดูดไขมันหน้าท้อง น้ำหนักลดไหม

ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้องนั้น ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดน้ำหนักโดยตรง แต่เพื่อเป็นการลดส่วนเกินบริเวณหน้าท้องต่างหาก ซึ่งหากต้องการน้ำหนักจริง ๆ ควรปรับพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ แต่จะใช้เวลานาน และเห็นผลช้ากว่าการดูดไขมันหน้าท้อง

ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาเท่าไหร่

โดยการดูดไขมันหน้าท้องราคาปกติอยู่ที่ 25,000 บาท แต่หากเป็นเคสที่ต้องการดูดไขมันหน้าท้องด้วยเครื่อง Ultra Z,Vaser Smooth 2.2 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท 

สรุปเรื่องดูดไขมันหน้าท้อง

โดยการดูดไขมันหน้าท้องนั้น ต้องผ่านการประเมินของศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ต้องศึกษาข้อมูลการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อช่วยในการตัดสินใจ หลังจากดูดไขมันแล้วก็ต้องระวังผลข้างเคียงที่ตามมา รวมถึงศึกษาวิธีดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันหน้าท้องด้วย