รีไฟแนนซ์รถ อีกทางเลือกของคนที่หมุนเงินจ่ายดอกเบี้ยไม่ทัน

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (556)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:995
เมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2565 17.18 น.

ประเมินราคารถ เข้าไฟแนนซ์

ในยุคเศษรฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ เชื่อว่าตอนนี้หลาย ๆ คนก็คงจะมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงินไม่มากก็น้อย แถมหลายคนยังพูดกันอีกว่าในปีหน้าเศรษฐกิจก็จะแย่ลงไปกว่าเก่าอีก จะมีทางไหนบ้างที่ช่วยให้เราสามารถเอาตัวรอดไปจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้ได้บ้าง?

หากคุณกำลังผ่อนรถอยู่แต่หมุนเงินมาจ่ายดอกเบี้ยไม่ทัน อีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถผ่อนรถต่อไปได้โดยไม่ถูกยึดคือการ รีไฟแนนซ์รถ นั่นเอง 

หลายคนก็คงจะเคยได้ยินกันมาเกี่ยวกับเอารถไปจัดไฟแนนซ์บ้าง แต่สำหรับใครที่ไม่เคยทราบก็ไม่เป็นไร ในบทความนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถคืออะไร มีประโยชน์กับคุณอย่างไรบ้าง แล้วอยากจะเอารถรีไฟแนนซ์จะต้องทำอย่างไร ไปอ่านกันได้เลย

 


 

รีไฟแนนซ์รถ คืออะไร

 

การรีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือสินเชื่อสำหรับรถยนต์ คือการทำสัญญาสินเชื่อรถยนต์ฉบับใหม่กับสถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งใหม่โดยที่รถยนต์คันนั้น ๆ ยังติดผ่อนอยู่กับสถาบันการเงินหรือธนาคารเดิม หรือทำสัญญาสินเชื่อรถยนต์ใหม่กับสถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งเดิมก็ได้เช่นกัน

หากให้พูดง่ายกว่านี้การรีไฟแนนซ์รถก็คือการสร้างหนี้ใหม่เพื่อมาปิดหนี้เก่านั่นเอง แต่หากกล่าวแบบนี้ก็เหมือนกับหนี้เท่าเดิม แล้วมันจะแตกต่างจากไม่รีไฟแนนซ์รถอย่างไร?

ปกติแล้วสินเชื่อรถยนต์ในช่วงแรกจะยังมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่เมื่อพ้นระยะโปรโมชั่นไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะสูงขึ้น ทำให้เหลือเงินสำหรับผ่อนเงินต้นลดลง และนำไปสู่การผ่อนแต่ดอกแทน การผ่อนแบบนี้จะทำให้ยอดหนี้ค้างชำระเยอะและจ่ายนานขึ้น หากรวมมูลค่าเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดก็อาจพบว่าราคาแพงกว่าซื้อเงินก้อนไปค่อนข้างมาก

เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลง ผ่อนเงินต้นได้เยอะขึ้น หรือยอดผ่อนต่อเดือนเฉลี่ยลดลงกว่าเดิมจึงมีการนำรถไปเข้าระบบรีไฟแนนซ์รถยนต์ ด้วยการเปลี่ยนเจ้าหนี้เดิมที่ตอนนี้เข้าสู่ระยะดอกเบี้ยสูง ไปหาเจ้าหนี้ใหม่ที่ให้เงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำ เมื่อรวมยอดทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายแล้วจะเห็นได้ว่าการรีไฟแนนซ์จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่าทนจ่ายดอกที่เดิมนั่นเอง

การรีไฟแนนซ์รถก็เป็นการกู้วงเงินจากสถาบันการเงินหรือธนาคารใหม่โดยใช้รถที่ติดผ่อนกับธนาคารเดิมมาเป็นหลักประกัน ธนาคารใหม่จะประเมินราคารถและให้เงินก้อนกับเราเพื่อนำไปปิดหนี้กับที่เก่า ปกติแล้วราคาประเมินมักจะสูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ (ด้วยเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์รถจะต้องผ่อนมากว่า 50% ของยอดหนี้แล้ว) จึงทำให้มีเงินส่วนต่าง ส่วนนี้เราสามารถดึงไปใช้จ่ายอเนกประสงค์ได้

ปกติแล้วผู้ที่เหมาะสมในการขอรีไฟแนนซ์รถมักจะเป็นผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ยต้องการผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยลง หรือผู้ที่ต้องการใช้เงินก้อนด่วน เพราะการรีไฟแนนซ์รถสามารถใช้รถที่ยังติดผ่อนอยู่ได้และไม่จำเป็นต้องมีรายได้ประจำก็สามารถทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถได้เช่นกัน

 


 

รีไฟแนนซ์รถ กับ รถแลกเงิน แตกต่างกันอย่างไร

 

ผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์รถกับรถแลกเงินชื่อดูคล้าย ๆ กัน แล้วทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร?

การรีไฟแนนซ์รถจะเป็นการนำรถยนต์ที่ติดผ่อนกับธนาคารเดิมไปประเมินราคาเพื่อขอกู้วงเงินจากสถาบันการเงินหรือธนาคารแห่งใหม่เพื่อนำเงินไปปิดหนี้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารเดิม โดยธนาคารใหม่ที่ปล่อยวงเงินกู้ให้เราจะได้รถยนต์ที่เราส่งประเมินราคารถ เข้าไฟแนนซ์มาเป็นหลักประกัน และเราจะได้เงินก้อนไปปิดหนี้กับธนาคารเดิม ส่วนต่างก็สามารถนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ 

ส่วนรถแลกเงินจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ปลอดหนี้ หรือรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้วนั่นเอง โดยผู้ที่นำรถไปแลกเงินจะต้องนำรถไปประเมินมูลค่าก่อน โดยจำนวนเงินที่สามารถแลกได้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อรถยนต์ อายุการใช้งาน สภาพรถ รวมถึงเครดิตของผู้ที่ยื่นขอรถแลกเงินด้วย 

 


 

ประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์รถ

 

จัดไฟแนนซ์รถยนต์ ประโยชน์

 

1. ลดดอกเบี้ยลง ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ายิ่งผ่อนนานวันเข้า อัตราดอกเบี้ยก็ยิ่งสูงขึ้นทำให้เราต้องเสียเงินค่าดอกเบี้ยไปเยอะ การรีไฟแนนซ์รถจะช่วยให้เราได้ประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น

 

2. ได้เงินก้อนไปหมุนต่อ

จุดประสงค์ในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ของหลาย ๆ คนก็มักมาจากความต้องการใช้เงินด่วน ต้องการเงินก้อนด่วนนั่นเอง เพราะการรีไฟแนนซ์รถมักจะมีเงินส่วนต่างที่เหลือจากการปิดหนี้จากเจ้าหนี้เดิมอยู่แล้ว ผู้กู้สามารถนำเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้เลยและผ่อนต่อด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ

 

3. ยังสามารถใช้รถได้ปกติ

ถึงแม้ว่าผู้กู้จะนำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์เพื่อขอวงเงินนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นและตัวรถยนต์นั้นก็ถูกนำมาเป็นหลักประกัน แต่ทางธนาคารก็ยังไม่ได้ยืดรถของผู้กู้ไป ทำให้ผู้กู้ยังสามารถนำรถมาใช้ได้ตามปกติเลย

 


 

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์รถ

 

การรีไฟแนนซ์รถอาจช่วยให้คุณลดภาระหนี้ลงไปได้บ้าง และยังช่วยให้คุณได้เงินก้อนส่วนต่างเพื่อนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนจะรีไฟแนนซ์รถเลยก็คือการรีไฟแนนซ์รถจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย โดยค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียไประหว่างดำเนินการรีไฟแนนซ์รถมีดังนี้

 

ค่าประเมินหลักประกัน

การรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นการนำรถยนต์ไปเป็นหลักประกัน แน่นอนว่าจะต้องมีการนำรถยนต์ไปตรวจสภาพเพื่อประเมินราคาหลักประกันก่อนอนุมัติวงเงินเสียก่อน โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้กู้และสถาบันการเงินที่รับรีไฟแนนซ์ และในบางครั้งอาจมีโปรโมชั่นฟรีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทางธนาคารกำหนด

 

ค่าธรรมเนียมการจัดรีีไฟแนนซ์รถยนต์

ค่าธรรมเนียมการจัดรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นค่าใช้จ่ายที่ธนาคารเดิมเรียกเก็บจากผู้กู้ โดยมักจะเป็นพวกค่าดำเนินการ ค่าอากรแสตมป์ ค่าเอกสารต่าง ๆ โดยค่าใช้จ่ายเราอาจไม่ได้จ่ายเองตรง ๆ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักจะถูกหักจากวงเงินกู้ใหม่นั่นเอง ทางธนาคารใหม่จะหักค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก่อนที่จะโอนเงินก้อนให้ผู้กู้นั่นเอง

 

ค่าปิดบัญชีสินเชื่อธนาคารเก่า

ปกติเวลาจะปิดยอดหนี้จากสถาบันการเงินหรือธนาคารเก่าอาจมีค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีสินเชื่อที่ทางธนาคารเก่าเรียกเก็บ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มักจะถูกหักออกไปจากวงเงินกู้ใหม่

 


 

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถ

 

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถ

 

จะรีไฟแนนซ์รถแล้ว จะต้องทำอย่างไร เราขอสรุปขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถแบบง่าย ๆ ดังนี้

 

1. ค้นหาและเปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์รถ

เพราะมีหลากหลายสถาบันการเงินหลากหลายธนาคารมากที่มีผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์รถยนต์ จึงทำให้มีตัวเลือกให้ผู้กู้มากมาย ก่อนจะทำรีไฟแนนซ์รถยนต์ ควรจะนำข้อมูลของหลาย ๆ ที่มาเปรียบเทียบก่อนว่าที่ไหนให้ประโยชน์กับเราสูงสุด

 

2. ส่งเอกสารเพื่อขอรีไฟแนนซ์รถ

เมื่อหาสถาบันการเงินหรือธนาคารที่จะไปรีไฟแนนซ์รถได้แล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องทำคือยื่นเอกสารเพื่อให้สถาบันการเงินหรือธนาคารนั้นนำมาพิจารณา โดยเอกสารที่มักจะใช้ในการยื่นขอรีไฟแนนซ์ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนรถยนต์ หลักฐานทางการเงิน เป็นต้น

 

3. การพิจารณาอนุมัติรีไฟแนนซ์รถ

ในขั้นตอนนี้ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารนั้นก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินสภาพรถยนต์ที่นำมาเป็นหลักประกัน จากนั้นก็พิจารณาากเอกสารที่ผู้กู้ส่งมา เพื่อนำมาประเมินวงเงินกู้ที่สามารถอนุมัติให้กับผู้กู้ได้

 

4. แจ้งผลอนุมัติวงเงินรีไฟแนนซ์รถยนต์

เมื่อทางสถาบันการเงินหรือธนาคารที่รับรีไฟแนนซ์ประเมินเสร็จสิ้นจะแจ้งผลอนุมัติให้กับผู้กู้ โดยการรีไฟแนนซ์รถยนต์มักใช้เวลาไม่นาน หลาย ๆ ที่ไม่ถึงอาทิตย์ก็ทราบผลแล้ว และเมื่อการยื่นรีไฟแนนซ์ผ่าน ทางธนาคารก็จะนัดผู้กู้มาทำสัญญาใหม่ และจ่ายเงินก้อนให้ผู้กู้นำไปปิดหนี้กับที่เก่า และอีกส่วนก็ให้เป็นกเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายอื่น ๆ ต่อไป

การจะนั่งหาโปรโมชั่นและเปรียบเทียบด้วยตัวเองนั้นอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก และอาจทำให้คุณพลาดโปรโมชั่นที่ดีกว่าได้ อีกทั้งการยื่นเอกสารรีไฟแนนซ์รถเองหลาย ๆ ที่ก็ลำบากไม่น้อย จะดีกว่าหรือไม่ถ้าใช้เทคโนโลยี FinTech อย่างรีฟินน์มาช่วยให้การยื่นรีไฟแนนซ์รถเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม

Refinn ช่วยค้นหาโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์รถที่เหมาะสมกับคุณที่สุดเพียงคุณกดตัวเลือกที่คุณต้องการไม่กี่ตัวเลือกเท่านั้น อีกทั้งคุณสามารถยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์รถผ่านรีฟินน์ได้เลย ไม่ต้องลำบากเดินเรื่องเอกสารแต่ละธนาคารด้วยตัวเองอีกต่อไป สะดวกสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอีกด้วย สนใจรีไฟแนนซ์รถผ่านรีฟินน์ได้เลย

 


 

ผ่อนรถยังไม่หมดรีไฟแนนซ์รถได้ไหม

 

ผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์รถมีไว้สำหรับผู้ที่ยังผ่อนรถไม่หมด มีความต้องการลดดอกเบี้ยเงินผ่อนหรือมีความต้องการใช้เงินก้อนด่วน ดังนั้นสำหรับคำถาม “ผ่อนรถยังไม่หมดรีไฟแนนซ์รถได้ไหม” คำตอบก็คือสามารถรีไฟแนนซ์รถได้

แต่อย่างไรก็ตามยังมีเงื่อนไขก่อนที่รถจะนำไปรีไฟแนนซ์ได้คือรถคันนั้น ๆ จะต้องผ่านการชำระหนี้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารเดิมมาแล้วเกินกว่า 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด สถาบันการเงินหรือธนาคารใหม่จึงจะรับไปพิจารณาการรีไฟแนนซ์รถนั่นเอง

 


 

ข้อสรุปเกี่ยวกับรีไฟแนนซ์รถ

 

การรีไฟแนนซ์รถช่วยให้คุณประหยัดค่าดอกเบี้ยมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณได้เงินก้อนส่วนต่างมาใช้จ่ายอย่างอื่นด้วย หากคุณต้องการเงินก้อนด่วนและยังมีรถติดผ่อนอยู่ การรีไฟแนนซ์รถก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้คุณได้

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ15 ธันวาคม พ.ศ. 2565 23.24 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา