ชวนคนรักรถมารู้ลึกเรื่องประกันรถยนต์ 3+ ครบจบที่นี่!
สำหรับใครที่เป็นเจ้าของรถยนต์และกำลังมองหาประกันดี ๆ ที่จะตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความคุ้มค่าและไลฟ์สไตล์ วันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงประกันรถยนต์ 3+ มาดูกันว่าประกันรถยนต์ประเภทนี้เหมาะกับใคร และมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง แม้จะไม่ใช่คนรักรถก็อ่านได้ รับรองว่าเข้าใจง่ายแน่นอน!
ประกันรถยนต์ 3+ คืออะไร
เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้น 2 กันเป็นอย่างดี แต่อาจยังมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าประกันรถยนต์ 3+ นั้นคืออะไรและมีจุดเด่นอย่างไร ซึ่งแท้จริงแล้วประกันรถยนต์ชั้นนี้เป็นประกันที่มีความคุ้มครองคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 3 เกือบจะทุกอย่าง แต่มีการเพิ่มความคุ้มครองขึ้นมาเล็กน้อย เรามาดูกันว่าประกันรถยนต์ 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง
คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
ในส่วนนี้จะเป็นการคุ้มครองในกรณีที่เกิดจากการชนกับรถยนต์ด้วยกัน ซึ่งจะดูแลครอบคลุมทั้งความเสียหายและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดอยู่กับรถยนต์ ทั้งยังมีบริการขนย้ายรถที่เสียหายเนื่องมาจากอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ซึ่งนอกจากคุ้มครองรถของเราแล้วยังคุ้มครองไปถึงรถของคู่กรณี รวมถึงทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนที่ไม่คุ้มครองก็คือกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม และรถสูญหาย นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงความคุ้มครองอื่น ๆ แนบท้าย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัทประกันแต่ละเจ้า
ประกันรถยนต์ 3+ แตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 2+ อย่างไร
โดยปกติแล้วประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองความเสียหายของรถในกรณีสูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วมร่วมด้วย และอาจต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนที่จะทำประกัน แต่ประกันรถยนต์ 3+ ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถ ส่วนจุดที่คล้ายกันหลัก ๆ เลยก็คือเป็นประกันที่คุ้มครองกรณีรถชนกับรถด้วยกันเท่านั้น และยังมีราคาที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันอีกด้วย
ประกันรถยนต์ 3+ เหมาะกับใครบ้าง
สำหรับประกันชั้นนี้ จะเหมาะกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการขับขี่ เพราะจะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่ชนกับรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น ทั้งยังไม่มีการคุ้มครองจากเหตุไฟไหม้อีกด้วย ดังนั้นหากใครที่พึ่งขับรถยนต์ไม่นาน ยังไม่มั่นใจในการขับรถ และกังวลกับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ก็ควรเลือกทำประกันชั้นอื่น ๆ จะดีกว่า
นอกจากนี้ประกันรถยนต์ 3+ ยังเหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป หรือรถที่จอดทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งาน แต่ต้องการจะทำประกันไว้เพื่อความอุ่นใจเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเราควรจะจอดรถเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพราะประกันชั้นนี้จะไม่คุ้มครองไปถึงในกรณีรถสูญหาย
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้