สิวเห่อ คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร รักษาอย่างไรให้ได้ผล

GUEST1649747579

สุดยอดขีดเีขียน (563)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:1007
เมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565 13.06 น.

แม้ว่าจะรักษาความสะอาดสุด ๆ ตลอดเวลา แต่บางครั้งก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด “สิวเห่อ” ขึ้นเต็มหน้าได้ และการที่มีสิวขึ้นหน้าเยอะมาก ๆ นั้นจะสร้างความรำคาญใจและทำลายความมั่นใจอีกด้วย แล้วการที่จะปกปิดหรือบีบสิวด้วยตัวเอง อาจจะยิ่งสร้างผลร้ายมากขึ้น เช่น รอยแผลดำ หรือ รอยแดงบนใบหน้า  

ดังนั้นการหาสาเหตุที่มาของสิวเห่อ ว่าเกิดจากอะไร เพื่อจะได้ป้องกัน และรักษาสิวเห่อเต็มหน้าให้กลับมาเนียนใสดังเดิมได้จากบทความข้างล่างต่อไปนี้

 

สิวเห่อ สามารถรักษาได้

 

สิวเห่อเกิดจากสาเหตุ

 

สาเหตุการเกิดสิวเห่อนั้น มาจากกลไกการเกิดสิวที่มักเกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวที่ตาย ไขมัน (Sebum) และแบคทีเรียในรูขุมขน สิวสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกายที่มีต่อมไขมันอาศัยอยู่ นอกจากสาเหตุของการอุดตันแล้ว อาจจะมาจากพันธุกรรมของคนในครอบครัวเดียวกัน  หรือมาจากฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านในช่วงวัยรุ่น หรือช่วงมีประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น

 

  • ความเครียด ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน corticotrophin-releasing ซึ่งไปกระตุ้นการหลั่งของ Cytokines ที่อักเสบและส่งผลต่อการผลิตน้ำมัน ทำให้มีการผลิตน้ำมันมากเกินไป ที่จะไปทำให้เกิดการอุดตันภายในรูขุมขน และทำให้สิวเห่อขึ้นมา

  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

  • ล้างหน้าผิดวิธี เช่นใช้โฟมเพียงอย่างเดียว ทำให้คราบเครื่องสำอางออกไม่หมด คงตกค้างส่งผลให้เกิดอาการอุดตันจนสิวเห่อได้

  • การกินอาหารบางชนิด เช่นอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากขึ้นที่จะไปกระตุ้นการผลิตซีบัมหรือไขมัน และเพิ่มระดับฮอร์โมน Androgen ที่เพิ่มการผลิตไขมัน ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน

  • ผิวขาดน้ำ ทำให้ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมาทดแทนความชุ่มชื้นที่หายไป หากน้ำมันมากเกินไปก็ทำให้เกิดผิวอุดตันและกลายเป็นสิวในที่สุด

  • ชอบสัมผัสใบหน้า ทำให้สิ่งสกปรกที่สะสมบนมือทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง ทำให้สิวอักเสบ

  • การสูบบุหรี่ จะมีผลต่อการผลิตซีบัม (ไขมัน) ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และทำให้สิวเห่อขึ้นมา

  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ จะนำไปสู่ความเครียดซึ่งส่งผลต่อการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันออกมามากกว่าปกติ

  • การใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ลิเธียม เป็นต้น

  • การสวมแมสก์ ทำให้อากาศไม่ถ่ายเท อับชื้น ทำให้เกิดสิวแพ้แมสด์ สิวเห่อ เป็นต้น

  • แสงแดดที่ได้รับ หากมากเกินไปก็จะทำร้ายผิว ทำให้ผิวแห้งกร้าน และไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินมากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตัน แล้วก่อให้รูขุมขนอุดตัน แล้วเกิดสิวเห่อขึ้นได้

 

บริเวณที่มักจะพบอาการสิวเห่อบ่อย ๆ คือ

 

  • สิวเห่อหน้าผาก : เกิดจากการเสียดสีจากเครื่องประดับผม หรือหมวก เฮดแบนด์ ผ้าโพกผมต่าง ๆ

  • สิวเห่อเต็มหน้า : เกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า

  • สิวเห่อแก้ม : เกิดจาการเสียดสีกับแมสก์

  • สิวเห่อคาง : เกิดจากการลูบเสียดสีด้วยมือที่ไม่สะอาด

  • สิวเห่อที่หลัง : เกิดจากเสียดสีจากเสื้อผ้า และความอับชื้นจากเหงื่อทั่วหลัง

 

สิวเห่อ มีลักษณะและอาการอย่างไร

 

“ สิวเห่อ “ มักขึ้นเป็นจำนวนมากในบริเวณใกล้เคียงกัน บางครั้งมีลักษณะเป็นสิวมีหัวหนอง บางครั้งมีลักษณะเป็นสิวแดงเต็มหน้า เป็นสิวไม่มีหัว หรือเป็นสิวผดที่เห่อขึ้นมา ในช่วงอากาศร้อน สิวเห่อนั้นสามารถเป็นได้ทั้ง สิวอุดตัน (Comedone) สิวอักเสบ (Inflamed Acne) สิวผด (Acne Aestivalis)

 

อาการของสิวเห่อแบ่งตามลักษณะการเกิดได้เป็น 2 รูปแบบ คือ

 

  • สิวเห่อที่เกิดจากอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว สิวเห่อชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นตุ่มสิวที่ใหญ่กว่าตุ่มสิวทั่ว ๆ ไป มีอาการบวม แดง อักเสบ

  • สิวเห่อที่เกิดจากการปรับตัวของผิว เช่น การลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือบำรุงผิวหน้าแบบใหม่ ๆ สิวชนิดนี้จะเป็นจุดสิวเล็ก ๆ กว่าสิวเห่อที่เกิดจากการแพ้

 

ลักษณะของสิวเห่อ

 

วิธีรักษาสิวเห่อ

 

เมื่อใดที่เกิดอาการ สิวเห่อ ก็ต้องหาวิธีรักษาสิวเห่อให้หน้ากลับมาเนียนใสไร้รอยดำเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าการรักษาสิวเห่อนั้นจะต้องใช้เวลานานก็ตามเพราะปริมาณสิวที่มีจำนวนมากกว่าปกติทั่วไป

วิธีรักษาสิวเห่อให้หน้ากลับมาเรียบเนียนเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง มีดังต่อไปนี้

 

การใช้ยารักษาสิวเห่อ

สามารถรักษาได้ด้วยการซื้อและใช้ยาดังนี้

 

  1. Benzoyl peroxide รักษาได้ทั้งสิวอักเสบ และสิวอุดตัน ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอุดตันของสิวได้ ยาชนิดนี้มีในรูปแบบ ครีม เจล โฟม และโลชั่น แต่ให้ระวังผลข้างเคียงที่จะเกิดผิวแห้ง ระคายเคืองง่าย

  2. Salicylic acid โดยมากจะเป็นส่วนผสมของยารักษาสิว สามารถละลายไขมันได้ดี ทำให้สิวแห้งและลดการอุดตันรูขุมขน

  3. Adapalene คือ Retinoid สังเคราะห์ สามารถทนต่อแสง และใช้ร่วมกับ Benzoyl peroxide ได้ ตัวยา Adapalene ช่วยลดอาการบวมแดง และอักเสบที่ผิวหนัง หรือจะใช้ยาที่อยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนัง เช่น Topical retinoids รักษาได้ทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ

  4. Oral contraceptives เป็นยาคุมกำเนิดชนิดหนึ่ง ช่วยลดปริมาณ Androgen ที่กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน

  5. Oral isotretinoin ใช้รักษาสิวรุนแรงปานกลางและรุนแรงมาก

 

การกดสิว

วิธีนี้นิยมมากในอดีต แต่ปัจจุบันนี้ถือเป็นการรักษาปลายเหตุที่ไม่ได้ช่วยลดจำนวนการเกิดสิว ทั้งอาจทิ้งรอยดำไว้หลังการกดสิว วิธีกดสิวใช้รักษาได้เพียงสิวอุดตัน ไม่ใช่สิวอักเสบ ดังนั้นวิธีนี้ต้องควบคู่กับการกินยารักษาสิว

 

การพบเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสิวเห่อ คือการไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาวิธีรักษาสิว เพราะสิวแต่ประเภทมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป เช่น

 

  • การฉีดยาชนิดสเตียรอยด์ เพื่อรักษาสิวอักเสบให้อกเสบน้อยลง

  • การฉายแสงสีฟ้าและสีแดง ในการรักษาสิวเห่อ โดยแสงสีฟ้าฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรรีย และแสงสีแดงลดการอักเสบของต่อมไขมัน

 

ดูแลผิวหน้ารักษาสิวเห่อ

 

วิธีดูแลผิวหน้าแพ้สิวเห่อ ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทไหนก็ตาม ที่หากปฏิบัติตามก็จะช่วยบรรเทาสิวเห่อได้

 

  • ให้ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด โดยไม่หลงเหลือสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวหน้า

  • เลือกใช้สกินแคร์ในการบำรุงผิวที่อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิวที่เป็นสิวเห่อง่าย  ใช้ครีมบำรุงที่ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ช่วยคุมมัน กระชับรูขุมขนด้วย Agaric Acid โดยเฉพาะตรง T-Zone พร้อม BHA กรดผลไม้ (AHA) ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้ผิวเรียบเนียน ไม่อุดตัน ครีมตัวนี้คือ Bioderma Sebium Pore Refiner

  • ใช้ครีมกันแดดเป็นเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะแวดล้อมภายนอก

  • นอนหลับให้เพียงพอให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมผิวที่เป็นสิว ผลิตฮอร์โมน และสารต่าง ๆ ให้สมดุล ลดความเครียด

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ด้วยการลดการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง

 

การดูเเลรักษาสิวเห่อ

 

ข้อสรุปของสิวเห่อ

สิวเห่อนั้นจัดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่สามารถพบได้มากในวัยหนุ่มสาว และจะค่อย ๆ ลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น บางครั้งสำหรับบางคนแล้วอาจเป็น ๆ หาย ๆ เพราะสิวนั้นเกิดจากการที่รูขุมขนอุดตัน ต่อมไขมันอักเสบ ลักษณะการเกิดนั้นเป็นได้ทั้งเป็นตุ่มเล็ก ๆ จนถึงตุ่มใหญ่ ๆ มีทั้งอักเสบและไม่อักเสบ และเกิดได้ทุกที่ในร่างกายที่มีต่อมไขมัน 

สาเหตุการเกิดนั้นอาจมาจากพฤติกรรมการใข้ชีวิตประจำวัน หรือจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะที่เป็นพิษ เป็นต้น แต่เมื่อสิวเห่อได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ควรจะรีบทำการรักษา เพราะถ้าหากเป็นน้อยก็ยังสามารถดูแลได้ด้วยตนเอง 

แต่ถ้าหากเป็นมาก ก็จำเป็นต้องเข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำถึงวิธีรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพผิว แต่พึงจำใส่ใจไว้ว่าควรใช้วิธีรักษาที่ถูกต้องเท่านั้นเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงอีกปัญหาที่อาจจะเกิดกับผิว นั่นคือ รอยแผลดำแดง ที่จะใช้เวลานานยิ่งขึ้นในการรักษาให้หาย

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย GUEST1649747579 เมื่อ20 ตุลาคม พ.ศ. 2565 13.41 น.

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา