ไขข้อข้องใจทุกคำถามเกี่ยวกับประกันสะสมทรัพย์
เมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565 20.18 น.
- การทำ ประกันเงินออม เป็นวิธีการออมเงินรูปแบบหนึ่ง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับแตกต่างจากการออมเงินธรรมดา จุดเดียวที่เหมือนกันคือเน้นเงินออมเป็นหลัก ข้อแตกต่างคือ ซื้อประกันชีวิตออมทรัพย์ ส่วนใหญ่มีกำหนดเวลา 10-20 ปีหรือมากกว่า การจ่ายเบี้ยประกันแต่ละงวดถือเป็นการบังคับออมเงินไปในตัว สำหรับการออมเงินแบบฝากประจำเริ่มตั้งแต่ 3 เดือนถึง 36 เดือนจึงเป็นการออมระยะสั้นกว่ามาก เปรียบเทียบข้อดีของการทำ ประกันออมทรัพย์ และการออมเงินฝากประจำ แบบไหนให้ผลตอบแทนดีกว่า
- ประกันชีวิตสะสมทรัพย์
- 1.สร้างวินัยการออมเงินในทางอ้อม เพราะประกันสะสมทรัพย์เป็นการออมในลักษณะบังคับจ่ายค่าเบี้ยประกันรายงวดไปจนครบกำหนดสัญญา การเก็บหอมรอบริบเงินจำนวนน้อย ๆ ในแต่ละงวดช่วยให้การออมเงินทำได้ง่ายขึ้น หากยกเลิกสัญญาก่อนจะได้เงินไม่เต็มจำนวน
- 2.ได้รับเงินคืนเมื่อจ่ายเบี้ยประกันครบกำหนดสัญญาของกรมธรรม์ และผู้เอาประกันยังมีชีวิตอยู่ โดยผู้เอาประกันจะทราบจำนวนเงินคืนที่แน่นอนเท่ากับจำนวนที่ฝากไว้ พร้อมกับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย ผลประโยชน์อาจไม่ได้มากเท่ากับการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ แต่รับประกันว่าได้เงินแน่นอน ไม่เหมือนกับการลงทุนประเภทอื่นที่ผลตอบแทนอาจผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจ การทำ ประกันแบบสะสมทรัพย์ จึงเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยไม่มีความเสี่ยง
- 3.ให้ความคุ้มครองชีวิต ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาของสัญญา บริษัทประกันจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในสัญญาทันที แม้จะชำระเบี้ยประกันไม่ครบตามงวดที่กำหนด เพราะไม่มีใครรู้อนาคต เงินก้อนจากการทำ ประกันเงินออม จึงเป็นหลักประกันให้กับคนที่อยู่ข้างหลังไม่ลำบากเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตโดยไม่ได้คาดฝัน นอกจากนี้ยังซื้อสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองได้อีกด้วย เช่น ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุและประกันทุพพลภาพ
- 4.ลดหย่อนภาษีได้ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป นำค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ในแต่ละปีไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนผลประโยชน์ระหว่างสัญญาและเงินคืนเมื่อสิ้นสุดอายุกรมธรรม์ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเช่นกัน
- เงินออมแบบฝากประจำ
- 1.การฝากประจำเป็นการออมเงินที่มีความปลอดภัย เงินอยู่ครบพร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษตามที่ธนาคารกำหนด มีผลตอบแทนแน่นอนเช่นเดียวกับ ประกันแบบสะสมทรัพย์ แต่ไม่มีความคุ้มครองให้เหมือนกับประกันชีวิต
- 2.รับผลตอบแทนเมื่อเงินฝากครบกำหนดระยะเวลา หรือผู้ฝากเงินทำการปิดบัญชี
- 3.กรณีของเงินฝากประจำ ดอกเบี้ยที่ได้รับต้องเสียภาษี 15% เช่น ถ้าได้รับดอกเบี้ย 100 บาท ดอกเบี้ยที่ได้จริงคือ 85 บาท เท่ากับหักจ่ายภาษีไป 15 บาทนั่นเอง
- 4.ลดหย่อนภาษีไม่ได้
การฝากเงินรูปแบบไหนถูกใจและตรงกับเป้าหมายให้เลือกแบบนั้น เพราะความต้องการของคนเราแตกต่างกัน เงินฝากประจำมักจะเป็นเงินออมระยะสั้นจึงไม่เสียสภาพคล่องมากนัก ส่วนการทำ ประกันสะสมทรัพย์ มีระยะเวลานานกว่า ต้องมั่นใจว่าเงินจำนวนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องนำออกไปใช้ก่อนหมดสัญญา
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้