26 จุดเสี่ยงน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร
ด้วยสภาพอากาศฝนตกหนักที่ยังคงมีอยู่ในทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ (อ่วมกันต่อ ! กรมอุตุฯ ชี้ ฝนจะตกหนักต่อเนื่องถึง 9 ก.ย. ทุกภาค แนะระวังน้ำท่วม https://hilight.kapook.com/view/226957) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำจนเป็นเหตุให้การเดินทางของประชาชนได้รับความลำบาก มีรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กได้รับความเสียหายเครื่องยนต์ดับกลางทาง (ขับรถลุยน้ำท่วม แล้วรถดับ ทำอย่างไร ? https://www.smk.co.th/newsdetail/2947) แล้วในกรุงเทพมหานครพื้นที่ใดบ้างที่เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังบนพื้นผิวจราจร
กรมทางหลวง ได้ให้ข้อมูล 26 จุดเฝ้าระวังน้ำท่วมขังบนผิวจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังนี้
- จุดที่ 1 ทล 31 วิภาวดีรังสิต (กองพันทหารราบที่ 1)
- จุดที่ 2 ทล 31 วิภาวดีรังสิต (หน้าการบินไทย)
- จุดที่ 3 ทล 31 วิภาวดีรังสิต (ร.ร.หอวัง)
- จุดที่ 4 ทล 31 วิภาวดีรังสิต (แยกหลักสี่)
- จุดที่ 5 ทล 304 แจ้งวัฒนะ (ซอย 10)
- จุดที่ 6 ทล 304 แจ้งวัฒนะ (วงเวียนบางเขน)
- จุดที่ 7 ทล 304 สุวินทวงศ์ (แยกพรสุดา)
- จุดที่ 8 ทล 304 สุวินทวงศ์ (แยกนิมิตรใหม่)
- จุดที่ 9 ทล 3312 ลำลูกกา (ช่วงปากทางลำลูกกา)
- จุดที่ 10 ทล 9 กาญจนาภิเษก (หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต)
- จุดที่ 11 ทล 302 งามวงศ์วาน (ใต้ด่วนงามวงศ์วาน)
- จุดที่ 12 ทล 306 ติวานนท์ (อุโมงค์ปากเกร็ด)
- จุดที่ 13 ทล 304 แจ้งวัฒนะ (หน้าห้างไทวัสดุ)
- จุดที่ 14 ทล 1 พหลโยธิน (หน้าตลาดสี่มุมเมือง)
- จุดที่ 15 ทล 1 พหลโยธิน (บริเวณหน้าโลตัสรังสิต)
- จุดที่ 16 ทล 1 พหลโยธิน (บริเวณหน้าไทวัสดุ - พลัมคอนโด)
- จุดที่ 17 ทล 1 พหลโยธิน (บริเวณหน้า ม.กรุงเทพ)
- จุดที่ 18 ทล 1 พหลโยธิน (บริเวณหน้า ศูนย์มิตซูบิชิ)
- จุดที่ 19 ทล 3 สุขุมวิท (ซอยลาซาล-ซอยแบริ่ง)
- จุดที่ 20 ทล 3 สุขุมวิท (แยกปู่เจ้าสมิงพราย)
- จุดที่ 21 ทล 3344 ศรีนครินทร์ (ช่วงหน้าวัดศรีเอี่ยม)
- จุดที่ 22 ทล 3344 ศรีนครินทร์ (ซอยแบริ่ง - ซอยลาซาล)
- จุดที่ 23 ทล 34 เทพรัตน (ช่วงต่างระดับวัดสลุด)
- จุดที่ 24 ทล 34 เทพรัตน (ช่วงซอยรัตนโกสินทร์ 200 ปี)
- จุดที่ 25 ทล 3413 บายพาสบางบ่อ (ช่วงบายพาสบางบ่อ)
- จุดที่ 26 ทล 3117 ปานวิถี (ช่วงหมู่บ้านเสรี)
นอกจากนี้ ข้อมูลจากการสำรวจของสำนักการระบายน้ำ ยังระบุถึงพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากเมื่อเกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 11 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ดังนี้
- เขตบางซื่อ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 บริเวณแยกเตาปูน
- เขตราชเทวี ถนนพญาไท บริเวณหน้ากรมปศุสัตว์
- เขตราชเทวี ถนนศรีอยุธยา บริเวณหน้า สน.พญาไท
- เขตดุสิต ถนนราชวิถี บริเวณหน้าราชภัฏสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธนบุรี
- เขตสาทร ถนนจันทน์ ช่วงจากซอยบำเพ็ญกุศล ถึงที่ทำการไปรษณีย์ยานนาวา
- เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ
- เขตหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงจากคลองประปา ถึงคลองเปรมประชากร
- เขตสาทร ถนนสวนพลู ช่วงจากถนนสาทรใต้ ถึงถนนนางลิ้นจี่
- เขตสาทร ถนนสาธุประดิษฐ์ บริเวณแยกตัดถนนจันทน์
- เขตบางขุนเทียน ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ช่วงจากถนนพระรามที่ 2 ถึงคลองสะแกงาม
- เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ช่วงจากคลองทวีวัฒนา ถึงคลองราชมนตรี
ทำไมกรุงเทพฯ เกิดน้ำท่วมขังบ่อย
สาเหตุของน้ำท่วมขังในเขตกรุงเทพมหานครประกอบไปด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- ประชากรเพิ่มขึ้นหนาแน่น
เนื่องจากประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร มีปริมาณหนาแน่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยจากสถิติล่าสุดปี 2564 จากสำนักทะเบียนกลาง พบว่า มีผู้อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร 5,527,994 คน (ไม่นับรวมประชากรแฝง) เกิดการขยายตัวของที่อยู่อาศัย มีการถมที่ดินเพื่อสร้างตึกรามบ้านช่อง อาคาร หมู่บ้าน ทำให้เส้นทางระบายน้ำอาจถูกกลบทับกลายเป็นเส้นทางจราจรทดแทน ปริมาณต้นไม้ในเขตเมืองมีจำนวนลดน้อยลงจนเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
- ขยะอุดตันท่อระบายน้ำ
เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีปริมาณขยะมูลฝอยมากกว่าหนึ่งหมื่นตันต่อวัน และปัญหาจากการไม่คัดแยกขยะในครัวเรือน รวมทั้งการทิ้งขยะไม่ลงถัง ส่งผลให้ปลายทางของขยะที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมอาจไหลลงสู่แม่น้ำลำคลองหรือทะเล ทำให้ขยะสะสมติดอยู่ตามท่อระบายน้ำ เมื่อเกิดฝนตกในปริมาณมากทำให้การระบายน้ำไม่สามารถระบายได้ทัน
- ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา พร้อมปัญหาดินทรุดต่ำกว่าระดับน้ำทะเล
ตามลักษณะภูมิศาสตร์ของกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำหรือเป็นแอ่งกระทะในบางแห่ง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำเองได้ จำเป็นต้องใช้วิธีสูบน้ำออกทะเลแทน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากพื้นดินทรุดลงจากการก่อสร้างและการใช้น้ำบาดาลในปริมาณมาก เพราะในแต่ละปีระดับพื้นดินของกรุงเทพฯ จะลดลงไปประมาณ 1 เซนติเมตรต่อปี ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น 3 มิลลิเมตรทุกปี และพื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีลักษณะลาดเทจากด้านตะวันตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเมื่อฝนตกหนักเส้นทางของน้ำจะถูกบังคับเส้นทางการระบายน้ำให้ไหลไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นส่วนใหญ่
หลีกเลี่ยงทุกภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้กับรถคุณ ให้ประกันภัยรถยนต์คนกรุง เบี้ยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ไม่ว่าจะรถชนรถ รถชนของ รถคันอื่นมาชน เกิดอุบัติเหตุนอกเมือง สูญหายไฟไหม้ น้ำท่วม พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางรถยนต์ (Roadside Assistance Service) สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/19 หรือ โทร.1596 Line : smkinsurance พร้อมติดตามอ่านข่าวสารสาระดีๆ ได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com/
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้