อาหารติดคอ อาหารติดหลอดลม อาจเสี่ยงเสียชีวิต แก้อย่างไร?
หลายครั้งที่อุบัติเหตุมักเกิดขึ้นจากข้อผิดพลาดหรือความประมาทเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม ไม่เว้นแม้แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะรับประทานอาหาร อย่างกรณีเศษอาหารติดคอและหลอดลม จนเป็นสาเหตุทำให้ขาดอากาศหายใจจนถึงขั้นเสียชีวิต แล้วอาหารติดคอสามารถทำให้เกิดการเสียชีวิตได้อย่างไร? จะมีวิธีปฐมพยาบาลอย่างไร? หากต้องอยู่คนเดียว หรือแม้แต่ต้องเจอกับคนที่มีอาการอาหารติดคอ
อาหารติดคอหรือหลอดลมเสียชีวิตได้อย่างไร?
การกลืนอาหารตามปกติ อาหารจะผ่านโคนลิ้นเข้าสู่ลำคอ หลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร สิ่งแปลกปลอมจึงสามารถติดได้ตลอดทางเดินอาหาร ไล่มาตั้งแต่โคนลิ้น ต่อมทอนซิล ฝาปิดกล่องเสียง หลอดอาหารช่วงในคอ และส่วนที่อยู่ในช่องหน้าอก ซึ่งทางเดินหายใจจะมีช่องว่างที่อยู่ร่วมกับทางเดินอาหารบริเวณคอ โดยมีฝาปิดกล่องเสียง และกล่องเสียงขวางอยู่ด้านหน้าของหลอดอาหาร
เมื่อกลืนอาหารตามปกติ กล่องเสียงจะถูกยกขึ้นมาชิดกับฝาปิดกล่องเสียง ในเวลาเดียวกับการกลั้นหายใจ เป็นการป้องกันไม่ให้อาหารตกลงในกล่องเสียงและหลอดลม สิ่งแปลกปลอมจึงอาจหลุดรอดเข้าไปในทางเดินหายใจจากการสำลักอาหาร การพูด สะอึก ไอ จาม หรือหัวเราะ ในระหว่างที่อาหารอยู่ในปาก เนื่องจากฝาปิดกล่องเสียงจะเปิดพร้อมกับการหายใจเข้าอย่างแรง พาเอาสิ่งแปลกปลอมเข้ากล่องเสียง ติดในกล่องเสียงหลอดลม หรือในปอด
อาการเมื่อมีเศษอาหารติดคอ
อาการของผู้ป่วยที่มีเศษอาหารติดคอ จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่มีเศษอาหารเข้าไปติด
- ในทางเดินอาหาร
มีอาการเจ็บคอ โดยเฉพาะเวลาพูดหรือกลืนอาหารจะเจ็บมาก เจ็บแปลบๆ ในคอ ถ้าเป็นของชิ้นโตจะกลืนอาหารลำบาก หรือกลืนไม่ลงเลย น้ำลายออกมาก อาเจียนหลังกลืนอาหาร และเจ็บบริเวณหน้าอก
- กล่องเสียง
ถ้าชิ้นโตจะอุดแน่นหายใจไม่ออก หอบ ตัวเขียว ทุรนทุราย ภายในเวลาไม่กี่นาที ถ้าชิ้นเล็กจะมีอาการเจ็บคอ ไอ เสียงแหบ หรือหายใจมีเสียงดัง
- หลอดลม
อาการเริ่มแรกจะไออย่างรุนแรงเสียงดัง หายใจเสียงดัง หายใจลำบากคล้ายหอบหืด ไอมีเสมหะปนเลือดหรือหนอง หากมีเศษอาหารติดคอเป็นเวลานานจะมีอาการของโรคแทรกซ้อน คือ อาการของโรคปอดบวม ปอดแฟบ ถุงลมโป่งพอง อากาศในโพรงเยื่อหุ้มปอด ฝีในปอด หนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ฝีหรือหนอง มีอาการเหมือนกับโรคของระบบทางเดินอากาศหายใจได้ทุกโรค
ปฐมพยาบาลอย่างไร? เมื่ออาหารติดคอ
การสำลักมักเกิดจากอาหารหรือสิ่งแปลกลอมอื่นๆ เข้าไปอุดตันคอ หรือ หลอดลม ผู้ที่สำลัก มักไม่สามารถพูด ไอ หรือหายใจได้ และมักมีลักษณะเฉพาะคือใช้มือจับไปที่คอของตนเอง เนื่องจากหายใจไม่ออก หากช่วยไม่ทันภายใน 4 นาที สมองจะเริ่มขาดออกซิเจนและทำให้เสียชีวิตได้ โดยมีวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นดังนี้
- วิธีปฐมพยาบาลผู้อื่น
หากพบเห็นผู้ที่กำลังสำลักอาหารหรือสิ่งแปลกปลอม สิ่งแรกที่ควรกระทำคือการประเมินความรุนแรง หากยังมีสติดี และสามารถไอได้ด้วยตัวเอง ให้ผู้ป่วยพยายามไอออกมาด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นเฝ้าสังเกตอาการ หากไม่สามารถไอออกมาได้ หรือไม่มีแรงไอออก หรือเริ่มมีอาการของการขาดอากาศหายใจ เช่น สีของใบหน้า เริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ให้ขอความช่วยเหลือด้วยการตามรถพยาบาล และเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยทันที
ในกรณีที่ไม่สามารถไอได้ด้วยตนเอง หรือได้ลองให้พยายามไอแล้วไม่ได้ผล หากผู้ป่วยหมดสติไปแล้ว ให้โทรแจ้งสายด่วน 1669 และเริ่มทำการกู้ชีวิต (CPR, ปั๊มหัวใจหากมีหัวใจหยุดเต้น) ทันที หากยังไม่หมดสติ ให้เรียกรถพยาบาล และทำการตบแรงๆ ที่บริเวณหลังของผู้ป่วย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการไอ สามารถทำซ้ำได้ 5 ครั้ง หากสิ่งแปลกปลอมยังไม่ออก ให้ทำ Heimlich Maneuver (ใช้ในผู้ใหญ่ หรือเด็กอายุมากกว่า 1 ขวบ) ซึ่งมีวิธีการดังนี้
- ขั้นที่ 1 ให้ผู้ป่วยยืนขึ้น
- ขั้นที่ 2 ยืนข้างหลังผู้ป่วย โดยให้ขาข้างหนึ่ง อยู่ระหว่างขาทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วย เพื่อพยุงผู้ป่วยในกรณีที่หมดสติ
- ขั้นที่ 3 แจ้งให้ผู้ป่วยทราบว่า เรากำลังจะให้ความช่วยเหลือ
- ขั้นที่ 4 ใช้แขนทั้ง 2 ข้าง โอบรอบเอวผู้ป่วย อย่าให้แขนอยู่บริเวณกระดูกซี่โครง เนื่องจากอาจมีผลทำให้ซี่โครงหักได้
- ขั้นที่ 5 กำมือข้างหนึ่ง โดยให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ชิดกับตัวผู้ป่วย ในบริเวณที่เหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย และอยู่ใต้ต่อกระดูกแผงหน้าอก
- ขั้นที่ 6 ใช้มืออีกข้างจับมือข้างที่กำเอาไว้
- ขั้นที่ 7 ออกแรงดันมือที่กำไว้ขึ้นมาทางด้านบนอย่างรวดเร็ว
- ขั้นที่ 8 ออกแรงให้มากพอที่จะดันสิ่งแปลกปลอมออกมา
- ขั้นที่ 9 ระลึกไว้ว่า การออกแรงดัน จะทำให้กระบังลมดันให้อากาศออกมาจากปอดของผู้ป่วย ทำให้เกิดลักษณะที่คล้ายกับการไอ
- ขั้นที่ 10 ออกแรงพยุงผู้ป่วยไว้ เนื่องจากผู้ป่วยอาจหมดสติหาก ไม่ได้ผล
- ขั้นที่ 11 ทำซ้ำ สามารถทำได้ถึง 5 ครั้ง หากไม่ได้ผลต้องรีบทำการกู้ชีพทันที
- วิธีปฐมพยาบาลเมื่ออยู่คนเดียว
อ.พญ.ภัทรานิษฐ์ ภัทรพรเจริญ ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (อาหารติดคอ ปฐมพยาบาลอย่างไร? | พบหมอมหิดล ได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
- หาวัตถุ หรือ เครื่องเรือนที่มีความโค้งมน
- โน้มตัวบริเวณกึ่งกลางลิ้นปี่ และ สะดืออยู่ที่วัตถุนั้น
- ออกแรงกระแทกจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา
ให้ความคุ้มครองต่อผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย ด้วยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) หากต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล หรือรุนแรงถึงขั้นทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต ให้ความคุ้มครองต่ออุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ทุกแห่งทั่วโลก สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productpadetail/2 หรือ https://smkinsurance.blogspot.com/
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้