3D Printer ตัวช่วยที่กำลังเข้ามามีบทในงานรับสร้างบ้าน

ณ ปัจจุบันนี้ บริษัทรับสร้างบ้านได้ทำการผลิตบ้านขึ้นมา โดยนำ 3D Printer มาใช้ ร่วมกับวัสดุขึ้นรูป Fiber Reinforce Concrete ซึ่งกระบวนการทำงานของ 3D Printer จะเริ่มจากพิมพ์ผนังภายนอกให้ราบเรียบเป็นชั้น และภายในจะพิมพ์เป็นเส้นซิกแซก เพื่อใช้เป็นฉนวนไปพร้อมกับความแข็งแรงของโครงสร้างที่เป็นผนังแบกรับน้ำหนัก ส่วนที่เป็นช่องรับแสงและช่องประตู ก็จะทำการเว้นไว้ เพราะนำเอาทับหลังมาวางไว้เหนือวงกบบนเสียก่อน จึงทำการพิมพ์ในชั้นต่อไปได้

โดยบริษัทรับสร้างบ้านด้วย ในจีนอย่าง Yingchuang New Materials ที่ได้นำ 3D Printer มาใช้ พบว่าช่วยให้สร้างบ้านจำนวน 10 หลังเสร็จภายในเวลา 20 ชั่วโมงเท่านั้น และเมื่อเทคโนโลยีเก็ที่จีนผลิตได้ ก็มักจะมีขนาดการผลิตที่ใหญ่ขึ้นและมาพร้อมกับราคาที่ถูกลง

การรับสร้างบ้านด้วย 3D Printer ต้องมีการปรับปรุงในเรื่องวัสดุ ที่ต้องนำกลับมาใช้ใหม่ได้

จึงคาดว่าไม่นาน ในไทยก็จะได้เห็นบริษัทอย่าง https://www.leearchitect.co.th/รับสร้างบ้าน.html และผู้รับเหมารายอื่นนำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้งาน ซึ่งก็ไม่น่าจะเกินอายุขับของประชาชนในยุคนี้ ที่จะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นบ้านที่ทำมาจาก 3D Printer และเนื่องจากการผลิตที่รวดเร็วและมีราคาถูก ทำให้นวัตกรรมนี้ เข้ามาตอบโจทย์กับประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อย ๆ จนขาดแคลนที่อยู่อาศัย อย่างแผ่นดินไหว หรืออุทกภัย

"อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วัสดุที่เริ่มนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสร้างบ้านจาก 3D Printer ที่มีในปัจจุบัน ยังไม่เป็นวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ขณะเดียวกันมันก็ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะในขั้นตอนรื้อถอน"

"แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เทคโนโลยี 3D Printer นี้ ได้ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างมากขึ้น จนก้าวไปถึงจุดที่ได้รับความนิยมแพร่หลายเมื่อไหร่ ก็หวังว่าทีมวิจัยและทีมพัฒนาทั้งหลายจะสามารถหาคำตอบเรื่องนี้ได้ เพื่อการพัฒนาอย่างยังยื่นต่อไป".