เทียบชัด! ครีมรักษาฝ้า VS เลเซอร์ แบบไหนรักษาฝ้าดีกว่ากัน

ฝ้า (Melasma) เป็นปัญหาแสนกลุ้มใจของใครหลายคน เพราะนอกจะเกิดขึ้นได้ง่ายแล้ว ฝ้ายังเป็นปัญหาที่รักษาได้ยากมาก เผลอ ๆ หากเลือกวิธีรักษาไม่ดี ฝ้าอาจบุกหน้ามากกว่าเดิมก็เป็นได้  ด้วยเหตุนี้ การรักษาฝ้าจึงต้องทำอย่างระมัดระวังและควรได้รับคำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หลาย ๆ คนที่ประสบปัญหาฝ้าอาจเคยสงสัยว่า จริง ๆ แล้วเราควรใช้อะไรเพื่อดูแลปัญหาฝ้า ระหว่าง “ครีมรักษาฝ้า” และ “กำจัดฝ้าโดยใช้เลเซอร์” หากตอนนี้คุณกำลังสงสัยอยู่ล่ะก็ ตามเรามาหาคำตอบได้เลยตอนนี้!

เข้าใจฝ้ากันก่อน

ก่อนจะไปดูว่า ครีมรักษาฝ้า หรือ การเลเซอร์ นั้นดีกว่ากันอย่างไร เราอยากให้คุณมาทำความเข้าใจก่อนว่าฝ้าเกิดขึ้นจากอะไร โดยทั่วไปแล้ว ฝ้าเกิดจากร่างกายที่ผลิตเมลานินมากเกินไปเนื่องจากได้รับการกระตุ้นต่างปัจจัยต่าง ๆ เช่น รังสียูวี ฮอร์โมน การกินยาบางประเภท การใช้เครื่องสำอาง และกรรมพันธุ์ เป็นต้น ในปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์ได้แบ่งฝ้าออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการเกิด คือ ฝ้าแดด และ ฝ้าเลือด โดยฝ้าแดดเกิดขึ้นจาก “แสง” แบบต่าง ๆ เช่น แสงแดด แสงจากจอคอมพิวเตอร์ หรือ แสงจากหลอดไฟ ส่วนฝ้าเลือดนั้นเกิดขึ้นจากความผิดปกติภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน เลือดลม และระบบภายในร่างกายต่าง ๆ ซึ่งฝ้าชนิดนี้จะต่างจากฝ้าแดดตรงที่ ฝ้าจะเป็นเส้นเลือดสีแดง ๆ ขึ้นทั่วใบหน้า

ทาครีมรักษาฝ้า

ครีมรักษาฝ้าจัดได้ว่าเป็นวิธีแรก ๆ ในการดูแลปัญหาฝ้าที่หลาย ๆ คนมักนึกถึง นอกจากจะไม่เจ็บตัวแล้ว ครีมส่วนใหญ่ยังค่อย ๆ ปรับสีฝ้าให้จางลงและช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย แต่ด้วยเหตุนี้ ผู้มีปัญหาฝ้าหลาย ๆ คนอาจไม่ค่อยชื่นชอบวิธีทาครีม เนื่องจากเป็นการรักษาที่ใช้เวลานานและต้องอาศัยวินัยในการทาค่อนข้างสูง โดยส่วนผสมในครีมทาฝ้าที่คุณควรมองหาในฉลากจะมีด้วยกัน 5 อย่าง คือ วิตามินซี กรดโคจิก (Kojic) อาร์บูติน (Arbutin) AHA และ Hydroquinone เป็นต้น และที่สำคัญ ก่อนซื้อทุกครั้งคุณควรหารีวิวและดูให้ชัดเจนว่า ครีมที่สนใจต้องไม่มีสารปรอทเป็นส่วนประกอบ เพราะมิเช่นนั้นผิวของคุณอาจโดนทำร้ายและกลายเป็นฝ้ามากกว่าเดิมก็เป็นได้

เลเซอร์ฝ้า

อีกหนึ่งการดูแลปัญหาฝ้านอกจากการทาครีมรักษาฝ้า คือ การทำเลเซอร์ตามคลินิก ซึ่งวิธีนี้เป็นการรักษาฝ้าที่เห็นผลเร็วแต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงและการดูแลตัวเองที่มากขึ้น โดยแพทย์จะนำเลเซอร์มากระตุ้นเซลล์ผิวที่เป็นฝ้าให้ผลัดเร็วขึ้นจนกลับมาสีที่คล้ำเริ่มกลับมาเสมอกับสีผิว โดยส่วนใหญ่แล้ว ผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตรายของการทำเลเซอร์จะมาในรูปของการบวมแดง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ คือ หากเราเลือกวิธีรักษาฝ้าด้วยการทำเลเซอร์แล้ว เราต้องดูแลตัวเองให้ดีมากกว่าเดิม เพราะการดูแลตัวเองที่ไม่ดีจะนำมาซึ่งฝ้าที่รักษาได้ยากกว่าเดิมนั่นเอง