หลอดเลือดสมองอุดตัน
ข้อมูลโดย : นพ.ปีติ เนตยารักษ์
อายุรแพทย์ด้านโรคระบบประสาทและสมอง
โรงพยาบาลธนบุรี
เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต และยังเป็นโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุ เราจึงควรหันมาใส่ใจสุขภาพในด้านระบบประสาทและสมองกันให้มากขึ้น เพราะถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็อาจเกิดขึ้นกับญาติผู้ใหญ่ได้ ที่สำคัญหากเราหมั่นสังเกตอาการเตือนในระยะเริ่มต้นจะได้รีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาก่อนอาการจะรุนแรงลุกลามถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ เสียชีวิต....
นายแพทย์ปีติ เนตยารักษ์ อายุรแพทย์ด้านโรคระบบประสาทและสมอง โรงพยาบาลธนบุรีได้ให้ความรู้ว่าโรคหลอดเลือดในสมองอุดตัน เป็นภาวะของสมองที่ทำงานผิดปกติ เกิดจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะเกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่จะนำเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนต่างๆ จึงทำให้สมองขาดเลือดและมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท เช่น แขนขาอ่อนแรง ตามองไม่ชัด พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ ชาครึ่งซีก หรือเป็นอัมพาตแบบครึ่งซีก เป็นต้น ปัจจุบันโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย จากสถิติทางกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าในทุก 3 นาที จะมีคนเสียชีวิตด้วยโรคนี้จำนวน 1 คน
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค มี 2 ประเภท คือปัจจัยเสี่ยงสามัญที่เราทราบกันอยู่แล้ว คือ อายุ ยิ่งอายุมากยิ่งเสี่ยงมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และสูบบุหรี่ ส่วนปัจจัยเสี่ยงพิเศษ เช่น เด็กบางคนเกิดมามีโครงสร้างของหลอดเลือดในสมองผิดปกติเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทำให้หลอดเลือดอุดตันหรือทำให้ภูมิคุ้มกันผิดปกติ
สำหรับอาการซึ่งเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นที่บ่งบอกว่ามีความผิดปกติของระบบสมองหรือประสาท คือ ระดับความรู้สึกลดลง การใช้ภาษาผิดปกติไป พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ค่อยชัดเจน บางทีตำแหน่งของสมองที่มีปัญหาคือ ตำแหน่งของสมองที่ทำหน้าที่
เกี่ยวกับการสื่อสาร ทำให้บางคนมาพบแพทย์ในเรื่องของการฟังไม่เข้าใจ ซึ่งทางผู้ดูแลอาจไม่ ค่อยแน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะมักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ จึงพาไปพบจิตแพทย์ก่อน หรือ
บางทีมีอาการอ่อนแรงแล้วก็ยังไม่รีบมาพบแพทย์ทางระบบสมองหรือ ประสาท แต่กลับพาไป บีบนวดก่อน จนกระทั่งมีอาการแย่ลง จึงจะทราบว่าป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
ดังนั้น หากสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวมีสัญญาณเตือนให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย
ก่อน เพราะสมองเราเป็นอวัยวะที่อ่อนแอที่สุดในร่างกาย ต้องการอาหาร น้ำ และอากาศ ไปเลี้ยงตลอดเวลา ถ้าเนื้อเยื่อของสมองขาดเลือดพียงไม่กี่นาที เช่น ประมาณ 4-5 นาทีก็เริ่มทำงานผิดปกติแล้ว ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ของที่เสียไปแล้วไม่สามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้เหมือนเดิม จึงควรมาตรวจสมองหรือระบบประสาทเป็นประจำทุกปี
การที่จะรักษาคนไข้โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ความเป็นจริงแล้วถ้าไม่ได้มีข้อห้ามในการให้ยา ก็ฉีดยาเพิ่มโอกาสที่จะฟื้น ลดโอกาสที่จะพิการในอนาคต ส่วนมากที่พบคือ มักจะรอจนไม่สามารถรักษาได้แล้ว
วิธีการวินิจฉัย แพทย์จะศึกษาประวัติกับอาการ ซึ่งจะช่วยวินิจฉัยได้ประมาณ 70 -80 เปอร์เซนต์ เพียงแต่ว่าอาจจะใช้การถ่ายภาพสมองเป็นการยืนยันการวินิจฉัยและรักษาต่อไป ซึ่งวิธีการถ่ายภาพทางสมองมีตั้งแต่เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง หรือ ที่เราเรียกว่า ซีทีสแกน ( CT Scan ) กับวิธีการถ่ายภาพทางสมองโดยใช้แม่เหล็กไฟฟ้า หรือ ที่เราเรียกว่า เอ็มอาร์ไอ (MRI) ส่วนมากเราจะใช้วิธี MRI เพราะให้ภาพที่ละเอียดกว่า สามารถมองเห็นรอยโรคเล็กๆในสมองได้ดีกว่า
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้