ประเทศไทยขยับอันดับขึ้นในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS: เอเชียครั้งใหม่

IQML

สุดยอดขีดเีขียน (400)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:414
เมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 14.49 น.

 ลอนดอน--14 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          4 สถาบันจาก 6 สถาบันการศึกษาอันดับต้นๆ ของประเทศไทยขยับอันดับขึ้นในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS: เอเชียครั้งล่าสุด

ซึ่งเผยแพร่ที่: www.TopUniversities.com

          โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130909/638188

          Mahidol University ยังคงเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ โดยในปีนี้ขยับขึ้น 2 อันดับมาอยู่อันดับที่ 40 Chulalongkorn University ยังคงรั้งอันดับที่ 48 เหมือนเช่นปี 2556 ในขณะที่ Chiang Mai University ขยับขึ้น 6 อันดับมาอยู่อันดับที่ 92 Prince of Songkla University (อันดับที่ 142) และ Kasetsart University (อันดับที่ 151-160) ก็ขยับอันดับขึ้นจากปี 2556 เช่นกัน
          มีมหาวิทยาลัยของไทยทั้งสิ้น 10 แห่งที่ติด 300 อันดับแรก นับว่าเป็นอันดับที่ 7 ในเอเชียเท่ากับปากีสถาน และมีมหาวิทยาลัยติดอันดับมากกว่าอินโดนีเซียหนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยของไทยในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยQSประจำปี 2557
          “สถาบันการศึกษาของไทยได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากนักวิชาการและเจ้าหน้าที่จากทั่วทั้งภูมิภาคนี้” เบน ซอว์เตอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ QS กล่าว “ความท้าทายในปัจจุบันนี้คือ การเพิ่มทั้งคุณภาพและปริมาณของงานวิจัย การลดอัตราส่วนระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ และการเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมกับนานาชาติให้มากยิ่งขึ้น”

          การจัดอันดับนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนถ่ายดุลอำนาจในภูมิภาคนี้โดยรวม โดยที่สิงคโปร์และเกาหลีเข้ามาแย่งชิงอันดับจากญี่ปุ่นและฮ่องกงที่เป็นแชมป์เก่า National University of Singapore (NUS) ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 เป็นครั้งแรก ในขณะที่ Nanyang Technological University (NTU) ขยับขึ้น 3 อันดับมาอยู่อันดับที่ 7 มหาวิทยาลัย KAIST ของเกาหลีกระโดดขึ้นจากอันดับที่ 6 มาเป็นอันดับที่ 2 ในขณะที่ Seoul National University (อันดับที่ 4) และ Postech (อันดับที่ 9) ก็ติด 10 อันดับแรกด้วยเช่นกัน

          ชมการจัดอันดับทั้ง 300 อันดับได้ที่www.Top Universities.com

          Hong Kong University of Science and Technology สถานบันการศึกษาอันดับ 1 เมื่อปีที่แล้ว ตกลงไปอยู่อันดับ 5 Hong Kong University ซึ่งอยู่อันดับที่ 1 เมื่อปี 2554 ตกไปหนึ่งอันดับไปอยู่อันดับที่ 3 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยของฮ่องกงไม่ได้เป็นเบอร์ 1 ส่วน University of Tokyo ของญี่ปุ่นร่วงลงไปอยู่อันดับ 10 ซึ่งเป็นอันดับต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดอันดับมา
          ส่วนจีนมี 13 มหาวิทยาลัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 20 แห่งที่ขยับอันดับขึ้นในปีนี้เช่นเดียวกับเกาหลี แม้ว่า Peking University จะตกลงไป 3 อันดับไปอยู่อันดับที่ 8 ก็ตาม ในทางกลับกัน 13 มหาวิทยาลัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 20 แห่งของญี่ปุ่นกลับร่วงลงกว่าปีที่แล้ว

โดยที่ University of Tokyo ร่วงลงไปอยู่อันดับ 10 ซึ่งเป็นอันดับต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดอันดับมา

          “ผลพวงจากวิกฤตทางการเงินทำให้ญี่ปุ่นวิ่งตามความก้าวหน้าของสิงคโปร์ เกาหลี ฮ่องกง และจีนได้ลำบากขึ้น” ซอว์เตอร์กล่าว

          “การจัดอันดับนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าสิงคโปร์และเกาหลีกำลังเผยโฉมเป็นผู้เล่นคนสำคัญในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นการเชือดเฉือนกับเจ้าถิ่นอย่างฮ่องกงและญี่ปุ่น” ซอว์เตอร์กล่าว “ทั้ง NUS และ KAIST ต่างได้รับผลพลอยได้จากการลงทุนครั้งใหญ่ของรัฐบาลในการวิจัย ในขณะที่การเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษก็ช่วยให้ทั้ง 2 มหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในระดับสากลมากยิ่งขึ้น”

          ในปัจจุบันนี้ NUS และ NTU ได้รับประโยชน์จากแผนการลงทุนจากรัฐบาลมูลค่า 16.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในขณะที่เกาหลีกำลังทุ่มเงินจำนวน 3.6% ของ GDP ภายในประเทศไปกับการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ใน OECD

          หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ

          QS Quacquarelli Symonds

          นับตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา QS มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฐานะเครือข่ายชั้นนำของโลกในด้านอาชีพและการศึกษาระดับสูง การจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกโดย QS (QS World University Rankings(R)) การวิจัยอันเป็นนวัตกรรมใหม่ การจัดงานอีเวนท์ การตีพิมพ์

เผยแพร่ และโซลูชั่นต่างๆ สำหรับมหาวิทยาลัยโดย QS เป็นหนทางใหม่ๆ ที่ช่วยให้มหาวิทยาลัยได้ติดต่อสื่อสารกับนักศึกษาที่ดีที่สุดและเก่งที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก

          การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS: เอเชีย

          การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS: เอเชียตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยมีการตีพิมพ์เผยแพร่ทุกปีและจัดอันดับ

มหาวิทยาลัยในเอเชีย

          สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS: เอเชียประจำปี 2557 ได้มีการพิจารณาผู้ตอบแบบสำรวจดังต่อไปนี้

          การสำรวจทางวิชาการ
          ผู้ตอบแบบสำรวจ 8,259 คน: นักวิชาการในเอเชีย
          ผู้ตอบแบบสำรวจ 35,111 คน: นักวิชาการนานาชาติที่มีความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในเอเชีย
          รวมผู้ตอบแบบสำรวจทั้งสิ้น: 43,370 คน
 
          การสำรวจนายจ้าง
          ผู้ตอบแบบสำรวจ 4,658 คน: นายจ้างในเอเชีย
          ผู้ตอบแบบสำรวจ 3,345 คน: นายจ้างนานาชาติที่มีความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในเอเชีย
          รวมผู้ตอบแบบสำรวจทั้งสิ้น: 8,003 คน

          ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS: เอเชียครั้งที่ 6 นี้ มีการประเมินสถานบันการศึกษา 491 แห่ง มีการจัดอันดับ 474 อันดับใน 18 ประเทศและมีการตีพิมพ์เผยแพร่จำนวน 300 แห่ง

Jita

หัดอ่านหัดเขียน (14)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST: 28
1 เมื่อ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 09.25 น.

ขอบคุณค่ะ..


http://www.livevoz.com     ธรรมชาติ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับธรรมชาติ

http://www.kostoom.com  เคล็ดลับเรื่องอาหาร

http://www.nile2day.com]  คล็ดลับความงาม 

แก้ไขครั้งที่ 1 โดย Jita เมื่อ31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 09.26 น.
หน้า จาก 1 ( 1 ข้อมูล )
แสดงจำนวน ข้อมูลต่อแถว
1

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา