ทำความรู้จัก ประกันลดหย่อนภาษี พร้อมแชร์เทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อ

Unyana

ขีดเขียนในตำนาน (853)
เด็กใหม่ (3)
เด็กใหม่ (0)
POST:1406
เมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2568 17.44 น.

เพราะเหตุใด “ประกัน” ถึงช่วยลดหย่อนภาษีได้

การทำประกันชีวิตเปรียบเสมือนการออมเงินรูปแบบหนึ่งที่ให้ทั้งความคุ้มครองและผลตอบแทนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต เงินสำรองยามเกษียณ หรือเงินออมเพื่อการศึกษา รัฐบาลจึงสนับสนุนให้ประชาชนทำประกันมากขึ้น โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี เพื่อช่วยลดภาระของรัฐในอนาคต และช่วยให้ประชาชนมีความมั่นคงทางการเงิน

ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

กรมสรรพากรกำหนดให้สิทธิลดหย่อนภาษีเฉพาะกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป

    • ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท

    • ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตตลอดชีพ, ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตควบการลงทุน (เฉพาะเบี้ยที่เป็นความคุ้มครอง)

  2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ

    • ลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

    • เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น RMF, กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

นอกจากนี้ยังมี ประกันสุขภาพ ที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท หรือเมื่อรวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท

เทคนิคเลือกประกันให้คุ้มทั้งความคุ้มครองและสิทธิภาษี

  • เลือก ประกันแบบบำนาญ หากต้องการรายได้หลังเกษียณ

  • เลือก ประกันสะสมทรัพย์ หากต้องการออมเงินพร้อมผลตอบแทน

  • เลือก ประกันชีวิตตลอดชีพ หากต้องการสร้างมรดกตกทอด

การเลือกกรมธรรม์ควรอ้างอิงจากความต้องการที่แท้จริง และที่สำคัญคือควร คํานวณภาษี ล่วงหน้าก่อนเสมอ เพื่อดูว่ายอดเบี้ยประกันที่ซื้อสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ให้เกินสิทธิที่กฎหมายกำหนด

สูตรง่าย ๆ สำหรับคำนวณภาษีเบื้องต้น

  1. เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

  2. เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย

  3. ตรวจสอบสิทธิลดหย่อน เช่น เบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพ กองทุนเพื่อการเกษียณ ฯลฯ

หากมีรายได้หลายทาง ให้นำรายได้ทั้งหมดมารวมและทำการ คํานวณภาษี อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้วางแผนภาษีได้แม่นยำขึ้น

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ช่วยลดหย่อนภาษี

สำหรับผู้ที่กำลังมองหากรมธรรม์ที่คุ้มค่า ปัจจุบันมีตัวเลือกหลากหลาย เช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ สมาร์ท เซฟเวอร์ 15/5 ของธนาคารกรุงไทย ที่ให้ทั้งความคุ้มครองยาว 15 ปี แต่จ่ายเบี้ยเพียง 5 ปี รับผลประโยชน์รวมสูงสุด 587.5% ของทุนประกัน และยังสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ครบถ้วน


สรุปแล้ว การทำประกันชีวิตไม่ได้มีแค่การปกป้องความเสี่ยง แต่ยังช่วยลดหย่อนภาษีได้จริง หากผู้มีรายได้รู้จักวางแผนและ คํานวณภาษี ก่อนซื้อกรมธรรม์ จะทำให้การเลือกประกันคุ้มค่าและตอบโจทย์ทั้งปัจจุบันและอนาคต

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา