ทำความรู้จัก ประกันลดหย่อนภาษี พร้อมแชร์เทคนิคดี ๆ ในการเลือกซื้อ
เพราะเหตุใด “ประกัน” ถึงช่วยลดหย่อนภาษีได้
การทำประกันชีวิตเปรียบเสมือนการออมเงินรูปแบบหนึ่งที่ให้ทั้งความคุ้มครองและผลตอบแทนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต เงินสำรองยามเกษียณ หรือเงินออมเพื่อการศึกษา รัฐบาลจึงสนับสนุนให้ประชาชนทำประกันมากขึ้น โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี เพื่อช่วยลดภาระของรัฐในอนาคต และช่วยให้ประชาชนมีความมั่นคงทางการเงิน
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่
กรมสรรพากรกำหนดให้สิทธิลดหย่อนภาษีเฉพาะกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
-
ประกันชีวิตแบบทั่วไป
-
ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
-
ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตตลอดชีพ, ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตควบการลงทุน (เฉพาะเบี้ยที่เป็นความคุ้มครอง)
-
-
ประกันชีวิตแบบบำนาญ
-
ลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
-
เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น RMF, กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
-
นอกจากนี้ยังมี ประกันสุขภาพ ที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท หรือเมื่อรวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เทคนิคเลือกประกันให้คุ้มทั้งความคุ้มครองและสิทธิภาษี
-
เลือก ประกันแบบบำนาญ หากต้องการรายได้หลังเกษียณ
-
เลือก ประกันสะสมทรัพย์ หากต้องการออมเงินพร้อมผลตอบแทน
-
เลือก ประกันชีวิตตลอดชีพ หากต้องการสร้างมรดกตกทอด
การเลือกกรมธรรม์ควรอ้างอิงจากความต้องการที่แท้จริง และที่สำคัญคือควร คํานวณภาษี ล่วงหน้าก่อนเสมอ เพื่อดูว่ายอดเบี้ยประกันที่ซื้อสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ให้เกินสิทธิที่กฎหมายกำหนด
สูตรง่าย ๆ สำหรับคำนวณภาษีเบื้องต้น
-
เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ
-
เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย
-
ตรวจสอบสิทธิลดหย่อน เช่น เบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพ กองทุนเพื่อการเกษียณ ฯลฯ
หากมีรายได้หลายทาง ให้นำรายได้ทั้งหมดมารวมและทำการ คํานวณภาษี อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้วางแผนภาษีได้แม่นยำขึ้น
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ช่วยลดหย่อนภาษี
สำหรับผู้ที่กำลังมองหากรมธรรม์ที่คุ้มค่า ปัจจุบันมีตัวเลือกหลากหลาย เช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ สมาร์ท เซฟเวอร์ 15/5 ของธนาคารกรุงไทย ที่ให้ทั้งความคุ้มครองยาว 15 ปี แต่จ่ายเบี้ยเพียง 5 ปี รับผลประโยชน์รวมสูงสุด 587.5% ของทุนประกัน และยังสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ครบถ้วน
สรุปแล้ว การทำประกันชีวิตไม่ได้มีแค่การปกป้องความเสี่ยง แต่ยังช่วยลดหย่อนภาษีได้จริง หากผู้มีรายได้รู้จักวางแผนและ คํานวณภาษี ก่อนซื้อกรมธรรม์ จะทำให้การเลือกประกันคุ้มค่าและตอบโจทย์ทั้งปัจจุบันและอนาคต
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้