resilience คืออะไร

resilience คืออะไร

ปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตให้มีสมดุลเป็นเรื่องที่หลายๆ คนถวิลหาอย่างยิ่งเพราะเราจะพบว่ายิ่งเราอยู่กับความเจริญทางด้านวัตถุมากเท่าใด เราก็ยิ่งไม่มีความสุขมากเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้เป็นลักษณะนิสัยของการชอบซื้อของหรือเป็นวัตถุนิยมด้วยแล้ว ยิ่งต้องเลือกใช้วิถีชีวิตให้แตกต่างจากคนอื่น โดยวิธีที่หลายๆ คนอยากรู้นั้นมีอะไรบ้าง มาดูพร้อม ๆ กันเลย

สำหรับคำว่า rq หรือ resilience คือ

 สามารถแปลได้แบบตรงตัวก็คือความยืดหยุ่นนั่นเอง หรือคำว่าล้มแล้วลุก เพราะว่าทุกครั้งที่เราประสบกับปัญหาไม่ว่าในรูปแบบไหนๆ ก็ตาม การพบเจอสถานการณ์แย่ๆ หรือว่าสถานการณ์เครียดๆ ความยากลำบาก สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการฟื้นตัวแล้วมองไปยังจุดหมาย ทำให้รวดเร็วและแข็งแกร่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยทักษะของความยืดหยุ่นหรือการล้มแล้วลุกเร็วนั้นเป็นนามประธรรมแต่ทักษะนี้มีขั้นตอนกระบวนการคิดฝึกฝนให้ตนมีความสามารถในการยืดหยุ่นไม่แพ้ทักษะอื่นๆซึ่งแบ่งได้ดังต่อไปนี้

Face Down Reality : การยอมรับความเป็นจริง

การยอมรับความเป็นจริงคือสิ่งสำคัญมากทุกครั้งที่เราเจอกับปัญหาเราจะต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้เสมอไปงั้นเราจะต้องกล้าที่จะทบทวนตัวเองเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าการยอมรับความเป็นจริงคือสิ่งที่สำคัญอย่างมากและที่สำคัญที่สุดก็คือการมองหาง่ายดีสำหรับตัวเราเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้พยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีเท่านี้ก็พอแล้ว

Search For Meaning : ความกล้าที่จะทบทวนตัวเอง

การกล้าที่จะทบทวนตัวเองคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันโดยเราจะต้องพยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรามีเสียก่อนเพื่อให้การทบทวนนั้นเป็นสิ่งที่ง่ายมากยิ่งขึ้นการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีคือสิ่งสำคัญอย่าลืมการยอมรับความเป็นจริงและการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีที่จะทำให้เราก้าวข้ามทุกอุปสรรคผ่านพ้นไปได้

ช่วงที่ทุกคนมีปัญหาอาจจะเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีหรือตั้งตัวไม่ทันการยอมรับความจริงจะช่วยทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจของเราเราไม่ควรคิดว่าอดีตนั้นเป็นอย่างไรแต่ต้องคิดทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตให้ได้

นอกจากนี้อาจจะรวบรวมไปถึงการยอมรับความจริงคิดเทียบเคียงสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดและอยู่รอดให้ได้ในปัจจุบันมองอยู่เสมอว่าเราจะใช้ความเร็วร้ายได้อย่างไรและเราจะใช้วิธีการกระจายความเสี่ยงได้อย่างไรกันแน่ ทุกปัญหามีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะดีหรือแย่เราก็ต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้เราอาจจะใช้วิธีการกระจายความเสี่ยงการบริหารหากทำได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามก็จะเป็นภูมิต้านทานให้กับชีวิตของเรานั่นเอง

โดยปัญหาที่รุมเร้าจะกลายเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดสิ่งที่ควรทำคือการที่จะทบทวนตัวเองค้นหาความหมายบางสิ่งที่หายไปและมองอดีตวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นว่าจุดอ่อนของเราคืออะไรจุดแข็งของเราคืออะไรบางครั้งเราอาจจะไม่รู้อยู่แล้วเผลอลืมไปก็ได้สิ่งใดที่เราเคยใส่ใจหรือยังไม่เคยใส่ใจยอมรับความจริงทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกล้าที่จะค้นหาความหมายของตัวเองอย่าลืมการต่อสู้ทุกสิ่งที่เรามีหลังจากที่เราได้รู้ความหมายจุดแข็งข้อดีและจุดด้อยของตัวเองอย่าลืมการมองไปข้างหน้าต่อสู้ด้วยสิ่งที่ตัวเองมีพร้อมกับการต้มไปกับมันมองหาลู่ทางใหม่ๆแตกต่างไปจากเดิมไม่ต้องอยู่ในระเบียบหรือขั้นตอนแบบแผนเหมือนแต่ก่อนอย่าลืมที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลาเช่นการเรียนรู้เรื่องตลาดรูปแบบใหม่การทำงานรูปแบบใหม่เมื่อมีครบทั้ง 3 4 ก็จะสามารถมีทักษะล้มและได้อย่างรวดเร็วแข็งแรงมากกว่าเดิมอย่างสมบูรณ์แบบง่าย