ปวดหลังร้าวลงขารุนแรง สัญญาณเสี่ยงเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้น รักษาอย่างไรดี?
อาการปวดหลังมีหลายแบบสังเกตด่วน !!! คุณกำลังมีอาการแบบนี้อยู่หรือไม่? ปวดหลัง ปวดบริเวณเอว เป็น ๆ หาย ๆ เดินได้ไม่ไกล มีอาการปวดชาลงไปถึงขาเหมือนเป็นตะคริวร่วมด้วย บางครั้งต้องหยุดพักก่อนแล้วจึงจะเดินต่อไปได้ บางทีมีอาการปวดหลังร้าวลงขารุนแรง อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นได้ แล้วจะรักษาอย่างไรดี? วันนี้เรามีความรู้ดี ๆ ที่เป็นประโยชน์กับคุณอย่างมาก จากทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มาฝากกันค่ะ
หมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับเส้นประสาท
กระดูกสันหลัง จะมีหมอนรองกระดูก และข้อต่อกระดูกสันหลังคอยเชื่อมต่อกับกระดูกหลายชิ้น โดยที่ตัวกระดูกสันหลังทำหน้าที่ปกป้องไขสันหลัง ส่วนหมอนรองกระดูกจะทำหน้าที่ให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นและสามารถรับแรงกระแทกของน้ำหนักตัวจากการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นการใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพได้
หมอนรองกระดูก ที่พบว่ามีปัญหาบ่อยที่สุดก็คือ หมอนรองกระดูกสันหลังในระดับเอวข้อที่ 4-5 เนื่องจากเป็นข้อต่อระดับที่มีการเคลื่อนไหว และรับน้ำหนักมากในร่างกาย ซึ่งเมื่อหมอนรองกระดูกมีสภาพเสื่อม ความสูงของหมอนรองกระดูกจะมีขนาดลดลง และมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหมอนรองกระดูก ทำให้แกนหมอนรองกระดูกหลุดรอดมาภายนอก และกดทับเส้นประสาทไขสันหลังได้
อาการของ โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท
• ปวดหลัง สะโพกและปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างรุนแรง ซึ่งจะมีอาการปวดมากขึ้นเวลาไอ หรือจาม
• กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อสะโพกและขาบางรายมีอาการชาปลายเท้าร่วมด้วย หากอาการรุนแรงมากจะไม่สามารถกระดกปลายเท้า หรือเดินได้
• ปลายเท้าชา โดยเฉพาะบริเวณง่ามนิ้วหัวแม่เท้า
• ระบบขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีความผิดปกติของระบบขับถ่ายร่วมด้วย เช่น ไม่สามารถควบคุมการอุจจาระ หรือ ปัสสาวะได้ ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันระบบขับถ่าย ไม่สามารถฟื้นคืนได้ตามปกติ
การรักษา โรคหมอนรองกระดูกสันทับเส้นประสาท
1. รักษาโดยการลดน้ำหนัก พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการหนักขึ้น
• การยกของหนัก
• การนั่งรถยนต์เป็นเวลานาน
• หลีกเลี่ยงอาการท้องผูกหรือเบ่ง ถ่ายอุจจาระแรงเกินไป เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้เกิดแรงดัน
ในหมอนรองกระดูกสูง ซึ่งเป็นสาเหตุให้หมอนรองกระดูกทนแรงดันไม่ได้ ทำให้เกิดการแตกของหมอนรองกระดูกตามมา
2. ยาต้านการอักเสบ NSAIDS และ ยาคลายกล้ามเนื้อ
3. ใช้กายภาพบำบัดและใช้เสื้อพยุงหลัง เพื่อช่วยในการลดอาการปวด และทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไป ใช้ชีวิตประจำวัน ได้ปกติเร็วขึ้น และทำให้หน้าท้องกระชับขึ้น เพื่อที่จะจะช่วยลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังได้ นอกจากกนี้ยังต้องลดเคลื่อนไหวของ กระดูกสันหลัง ก็จะทำให้อาการปวดลดลง เช่นกัน
4. การผ่าตัด แพทย์จะพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้
• ผู้ป่วยที่มีอาการปวดมากจนทนไม่ได้ แม้จะรักษาโดยรับประทานยา พักและกายภาพบำบัดเต็มที่แล้วก็ยังไม่เป็นปกติ
• มีอาการชา อ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อขาลีบอย่างเห็นได้ชัด
• มีปัญหาระบบขับถ่ายผิดปกติ ที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท เช่น กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ได้
การผ่าตัดส่องกล้องส่องขยาย (Microscopic Spine Surgery)
การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโดยทั่วไป ศัลยแพทย์กระดูกจะใช้เครื่องมือในการตัดกระดูก และเอ็นพังผืดเพื่อขยายโพรงประสาทคลายการกดรัดเส้นประสาท โดยในระหว่างทำการผ่าตัดบางตำแหน่งของโพรงประสาท อาจมีขนาดที่ตีบแคบมาก ทำให้มองเห็นเส้นประสาทได้ไม่ชัดเจนและมีข้อจำกัด ซึ่งการสอดใส่เครื่องมือผ่าตัดอาจเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทได้ ซึ่งการผ่าหมอนรองกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้องขยายนั้น จะสามารถลดขนาดแผลผ่าตัดให้เล็กลงได้ และที่กล้องขยายจะมาช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถ ที่จะมองเห็นรายละเอียดในการผ่าตัดได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง
1. ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ทำให้มีความเจ็บปวดน้อย และลดการเสียเลือด
2. ขนาดของแผลนั้นเล็กเพียง 1-2 ซม. ซึ่งเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้มีแผลกว้างถึง 12-20 ซม. ดังนั้น การผ่าตัดแบบ MIS จะช่วยลดขนาดของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแบบเปิด
3. พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ซึ่งในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด นับว่าเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ที่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเป็นสัปดาห์
4. ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ถือว่าปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
5. ช่วยลดการเกิดพังผืดจากการผ่าตัดแบบเปิด
6. ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีกำลังขยายของกล้อง ซึ่งช่วยให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ
ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง
• มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมพิเศษ
• ยังไม่สามารถใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยในบางราย ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคปอดและหัวใจขั้นรุนแรง และผู้ที่เคยผ่าตัด หรือมีพังผืดจำนวนมาก
วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด
ก่อนการผ่าตัดส่องกล้อง
• เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ
• งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
• แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด
• งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์
• กรณีผ่าตัดลำไส้ แพทย์จะทำการล้างลำไส้ โดยจะให้ยากระตุ้นการขับถ่ายออกมาให้หมด
• ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด
หลังการผ่าตัด
• งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง
• งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์
นับว่าการผ่าตัดด้วย Minimal Invasive Surgery นั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ โดยทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดด้วยวิธี Minimal Invasive Surgery จากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี
ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการ ตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนวัตกรรมการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery - MIS) มาช่วยย่นระยะเวลาการพักฟื้น และลดรอยแผล และความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรักษาได้ หากคุณกำลังเผชิญปัญหาอาการปวดหลัง หรือภาวะเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดำเนินการรักษา อย่าปล่อยให้อาการเรื้อรังนาน คุณสามารถติดต่อขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ด้านกระดูกสันหลังโดยเฉพาะได้
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-363-2000
ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ https://bit.ly/2XulRUr
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้