แช่แข็งไข่ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากมีลูกในวัยที่อายุมากขึ้น
ด้วยสภาวะสังคมและเศรษฐกิจทำให้สมัยนี้คนมักจะแต่งงานช้า บางคู่แต่งงานกันเร็วแต่กลับมีลูกช้า ปัจจุบัน ผู้หญิงยุคใหม่แต่งงานช้าลง โดยเฉลี่ยที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ถึงจะแต่งงาน ส่วนมากทุ่มเทกับงาน การเที่ยว และการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ห่วงแหนความโสด รอสร้างอนาคตครอบครัวกับคนที่ใช่ในวันข้างหน้า แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป ความเสื่อมของร่างกายก็มากขึ้นทำให้โอกาสในการมีลูกก็ยากเช่นกัน ผู้หญิงที่เลยวัย 35 ปีไปแล้ว หากมีลูกอาจทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่ลูกจะมีภาวดาวน์ซินโดรตามมาได้ ดังนั้นวงเวลาทองที่เหมาะสมจะมีลูกคืออายุ 20-30 ปี ทำให้ผู้หญิงยุคใหม่จึงหันมาสนใจในเรื่องฝากไข่และแช่แข็งไข่เพิ่มมากขึ้น
วันนี้เรามีข้อมูลความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการแช่แข็งเซลล์ไข่ รวมถึงขั้นตอนการเก็บและการตรวจร่างกายก่อนฝากเซลล์ไข่ จากนพ. องอาจ บวรสกุลวงศ์ ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร โรงพยาบาลนครธน มาฝากกันค่ะ
การแช่แข็งเซลล์ไข่ (Oocyte freezing) คืออะไร
การแช่แข็งเซลล์ไข่ (Oocyte freezing) คือ การที่ผู้หญิงเก็บเซลล์สืบพันธุ์หรือที่เรียกว่า “ไข่” ที่ได้จากกระตุ้น เก็บออกมาภายนอกร่างกายและนำมาแช่แข็งเอาไว้ในอุณหภูมิที่เย็นจัด -196 องศาเซลเซียส จำนวนไข่ที่เก็บได้ ขึ้นกับปริมาณรังไข่สำรองอยู่ในผู้หญิงของแต่ละคน โดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ใบ แต่สำหรับผู้หญิงที่มีจำนวนไข่มาก อาจเก็บได้มากถึง 20-30 ใบได้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคน แต่หากประสบกับภาวะรังไข่เสื่อมอายุ อาจเก็บไข่ได้เพียง 3-5 ใบเท่านั้น ซึ่งโอกาสประสบความสำเร็จจากการต้องการในอนาคต ขึ้นกับจำนวนฟองไข่ที่เก็บได้
ขั้นตอนการเก็บเซลล์ไข่มาแช่แข็ง
ขั้นตอนของการแช่แข็งไข่ ใช้กระบวนการเดียวกันกับการกระตุ้นไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว โดยผู้ที่ต้องการฝากเซลล์ไข่ จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายและตรวจเลือด หากไม่พบปัญหาใด จึงจะสามารถดำเนินการกระตุ้นไข่ต่อไปได้ เมื่อถึงขั้นตอนเก็บไข่ออกมาภายนอกร่างกาย โดยดูดผ่านทางช่องคลอดคัดเอาไข่ที่มีความสมบูรณ์ เพื่อเก็บรักษาไว้ในน้ำยาเลี้ยงและแช่แข็งในไนโตรเจนเหลว ในห้องปฏิบัติการณ์ที่มีอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาละลายออกมาใช้งานในอนาคต
การตรวจร่างกายก่อนฝากเซลล์ไข่
1.ตรวจเลือด
2.ตรวจโรคติดเชื้อต่างๆ เช่น โรคเอดส์ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไวรัสตับอักเสบซี ซิฟิลิส เป็นต้น
3.ตรวจโรคที่เกี่ยวกับพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย
4.เตรียมตัวกระตุ้นไข่ โดยใช้ยาฮอร์โมนเพื่อให้ได้ไข่จำนวนมาก และทำการเก็บไข่หลังจากฉีดยากระตุ้นไปประมาณ 8-12 วัน
การแช่แข็งไข่เหมาะกับใคร
1.ผู้หญิงที่ยังไม่วางแผนที่จะมีลูก โดยเฉพาะเมื่ออายุใกล้ 35 ปี
2.ผู้ป่วยที่กำลังจะได้รับยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง ที่กระทบต่อจำนวนและคุณภาพเซลล์ไข่
3.ผู้ที่มีความผิดปกติของโครโมโซมที่อาจทำให้ประจำเดือนหมดเร็วกว่าปกติ หรือมีประวัติประจำเดือนหมดเร็วในครอบครัว
4.ผู้ที่ต้องผ่าตัดรังไข่ เช่น ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ ช็อคโกแลตซีสต์
อายุเท่าไรควรมาแช่แข็งและฝากเซลล์ไข่
สามารถทำได้ทุกช่วงอายุ โดยพบว่าเมื่อทำการแช่แข็งไข่ เมื่ออายุน้อยกว่า 35 ปี จะทำให้ได้จำนวนไข่และคุณภาพสูง หากอายุมากขึ้นเท่าไร อัตราการความสำเร็จของการมีบุตรจากการแช่แข็งไข่ จะลดน้อยลง และอาจจำเป็นต้องได้จำนวนไข่มากขึ้น เนื่องจากคุณภาพที่ได้ก็จะลดลงด้วย โดยจำนวนไข่ที่แนะนำให้แช่แข็งขึ้นกับอายุของผู้หญิง ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-15 ใบ
ประสิทธิภาพของการเก็บรักษาเซลล์ไข่
การแช่แข็งไข่เปรียบเสมือนกับการหยุดอายุไข่ไว้เท่าอายุตอนที่เก็บไข่ ไม่ให้มากขึ้นไปตามอายุจริง ยิ่งอายุน้อยโอกาสสำเร็จยิ่งสูง โดยเฉลี่ยหลังละลายสามารถนำไข่มาใช้ได้ 80-90% ซึ่งอายุของผู้หญิง ณ วันที่แช่เข็งไข่เป็นตัวแปรสำคัญในการบอกโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์
สามารถเก็บแช่แข็งเซลล์ไข่ ไว้ใช้ได้นานเพียงไร
ตามหลักการ สามารถแช่แข็งไข่ไว้ได้นาน ตราบเท่าที่ยังมีสารรักษาความเย็นที่เพียงพอ ปัจจุบันข้อมูลที่เก็บแช่ไข่ไว้นาน 14 ปี เมื่อนำมาใช้ก็ประสบผลสำเร็จดี โดยทั่ว ๆ ไปแนะนำให้ใช้ไข่แช่แข็งเพื่อตั้งครรภ์ก่อนอายุ 40-45 ปี เนื่องจากอายุเกินกว่านี้ตั้งครรภ์อาจพบภาวะแทรกซ้อนมาก
ผลข้างเคียงของการรักษาไข่
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้เกิดจากการกระตุ้นไข่และเก็บไข่ ไม่ต่างกับการทำเด็กหลอดแก้ว ได้แก่ อาจเกิดภาวะรังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นมากเกินไป (Ovarian Hyperstimulation Syndrome) หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ จากการเก็บไข่ ซึ่งโอกาสเกิดผลข้างเคียงนั้นมีน้อย ในขณะที่ความผิดปกติของเด็ก ในแง่ของโครโมโซมหรือความพิการแต่กำเนิดไม่ต่างจากการตั้งครรภ์ธรรมชาติ
Did you Know
การแช่แข็งไข่ที่ได้ผลดีที่สุด คือ การแช่แข็งแบบ Vitrification อายุที่เหมาะสมต่อการฝากไข่ คือ 28-37 ปี เพราะอายุที่มากกว่านี้ปริมาณและคุณภาพไข่จะลดลง ค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บเซลล์ไข่เทียบเท่ากับการทำเด็กหลอดแก้วและยังมีค่าฝากรายปี โดยปกติต้องใช้ไข่ประมาณ 12-15 ใบ เพื่อจะให้ได้ลูก 1 คน
ดังนั้น การกระตุ้นไข่ 1ครั้ง อาจได้ไข่ไม่เพียงพอเซลล์ไข่ที่ถูกแช่แข็ง เปลือกไข่จะหนาและแข็ง จึงจำเป็นต้องใช้วิธี “อิ๊กซี่” (ICSI) ช่วยปฏิสนธิ โดยวิธีนี้คือการเอาเซลล์อสุจิ 1 ตัว ใส่เข้าไปในเซลล์ไข่ (อสุจิ 1 ตัวต่อเซลล์ไข่ 1ใบ) ตามกฎหมายไทย การฝากไข่ไม่จำเป็นต้องใช้ทะเบียนสมรส แต่หากจะนำมาใช้ปฏิสนธิจำเป็นต้องใช้ทะเบียนสมรส
การวางแผนการมีลูกนั้น เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากวางแผนมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็จะมีมาก โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมและมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มาก คือในช่วงอายุตั้งแต่ 20-30 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายมีความสมบูรณ์เต็มที่ และหากตั้งครรภ์ในช่วงนี้ เด็กส่วนมากจะมีความสมบูรณ์และมี โอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้น้อยมาก แม้วิธีการแช่แข็งไข่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่พร้อมมีลูกในวัยที่เลย 35 ไปแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและพร้อมเสมอก็เป็นเรื่องสำคัญด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลนครธน : https://www.nakornthon.com/article/detail/แช่แข็งไข่-อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากมีลูก
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้