สิทธิสำหรับการหลบภัย
สิทธิสำหรับการหลบภัย
ในปี 2493 สองปีภายหลังที่คณะผู้แทนยูเอ็นการันตีปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) ได้ตั้งขึ้นที่ทำการข้าหลวงใหญ่ผู้หลบภัยที่ยูเอ็น (UNHCR) หน่วยงานจะต้องมีเวลาสามปีสำหรับในการช่วยเหลือคนยุโรปหลายล้านผู้ที่หลบซ่อนหรือสูญเสียบ้านในตอนสงครามโลกครั้งที่สองแล้วต่อจากนั้นก็จะถูกยุบดูหนังhd
หลายทศวรรษถัดมาหน่วยงานผู้หนีภัยของยูเอ็นยังคงดำเนินธุรกิจอยู่รวมทั้งปริมาณผู้พรากจากถิ่นในโลกมีมากยิ่งกว่า 68 ล้านคน ในปริมาณนั้น 25 ล้านคนเป็นผู้หลบภัยซึ่งเป็นคนที่หลบซ่อนการขัดกันหรือการกดขี่ข่มเหงซึ่งข้ามเขตระหว่างชาติเวลาที่ 40 ล้านคนจำเป็นต้องพลัดพรากจากถิ่นภายในประเทศของตัวเอง ที่เหลือเป็นผู้ขอหลบภัย - ผู้ที่บางทีอาจถูกกำหนดให้เป็นผู้อพยพหรือไม่ก็ได้สุดท้าย
มาตรา 14 ของ UDHR ให้สิทธิ์สำหรับการสืบเสาะหาแล้วก็ขอหนีภัยจากการกดขี่ สิทธินี้นอกจากสิทธิสำหรับเพื่อการออกมาจากประเทศของตนเอง (มาตรา 13) แล้วก็สิทธิสำหรับการถือชนชาติ (มาตรา 15) สามารถตรวจดูได้โดยตรงกับเหตุความตกต่ำ หลายประเทศที่ผู้ร่างกระทำการเกี่ยวกับ UDHR ใส่ใจดีเป็นอย่างมากว่าพวกเขาได้เมินหน้าผู้หนีภัยชาวยิวซึ่งบางทีก็อาจจะติเตียนพวกเขาจนตาย นอกจากนั้นชาวยิวคนไม่ใช่น้อยโรมาแล้วก็คนอื่นที่ถูกล่าโดยพวกที่นาซีไม่อาจจะออกมาจากเยอรมนีเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาได้หนังน่าดู
ภายใต้ร่มของมาตรา 14 ซึ่งเจาะจงไว้อย่างเห็นได้ชัดเพิ่มขึ้นในอนุสัญญาผู้หลบภัยปี 1951 ในตอนหลายทศวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาผู้คนหลายล้านคนได้รับการป้องกันชีวิตในฐานะผู้อพยพสามารถสร้างชีวิตใหม่รวมทั้งชอบกลับไปอยู่ที่บ้านอีกรอบเมื่อรอดอันตรายแล้ว คนไม่ใช่น้อยได้รับการตั้งรกรากใหม่ในประเทศลำดับที่สามที่มีน้ำใจซึ่งพวกเขาใช้ความถนัดของตัวเองเพื่อช่วยเหลือภูมิลำเนาใหม่ รวมทั้งบางบุคคลสามารถตั้งรกรากถาวรในประเทศที่พวกเขาเจอที่ลี้ภัยได้แก่ชาวบุรุนดีกว่า 170,000 ผู้ที่หนีออกมาจากประเทศในปี 2515 แล้วก็ได้รับชนชาติแทนซาเนียในสิ่งที่มั่นใจว่าเป็นการเปลี่ยนสัญชาติผู้หลบภัยรายใหญ่ที่สุดในโลก
“ พวกเราไม่สามารถที่จะยั้งผู้คนที่หนีเอาชีวิตรอดได้ พวกเขาจะมา. โอกาสที่พวกเรามีเป็นพวกเราจัดแจงการมาถึงของพวกเขาก้าวหน้าแค่ไหนแล้วก็มีมนุษยธรรมแค่ไหน”
-UN เลขาธิการAntónio Guterres
สิทธิสำหรับในการขอหลบภัยมิได้ถูกขัดขวาง มาตรา 14 กำหนดไว้อย่างเห็นได้ชัดว่าไม่อาจจะอนุญาตให้ผู้คนหนีภัยได้เพียงแค่เพื่อหลบหลีกการเช็ดกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา“ อาชญากรรมที่ไม่ใช่การบ้านการเมืองหรือความประพฤติที่ขัดกับจุดมุ่งหมายและก็วิธีการขององค์การสหประชาชาติ” โดยเหตุนี้อาชญากรสงครามแล้วก็คนที่มีความผิดในอาชญากรรมต่อสันติหรืออาชญากรรมต่อมนุษยชาติก็เลยไม่มีสิทธิ์ได้รับการหลบภัยหนังใหม่
การพลัดพรากจากถิ่นข้ามเขตรวมทั้งผู้หลบภัยผู้ขอหลบภัยและก็ผู้อพยพแปลงเป็นที่แย้งกันอย่างยิ่งทั่วทั้งโลกในตอนไม่กี่ปีให้หลัง เพื่อใช้สิทธิที่ชัดแจ้งในมาตรา 14 ผู้คนจะต้องเดินทางเข้าประเทศอื่นจริงๆรวมทั้งในขณะนี้ประเทศต่างๆทั้งโลกกำลังปิดประตูห้ามผู้อพยพรวมทั้งผู้ลี้ภัยอื่นๆด้วยรั้วลวดหนามกำแพงแล้วก็กองทัพ
ผู้ให้การสนับสนุนบอกว่าผู้คนหนี - รวมทั้งจะหนีถัดไป - เนื่องจากอันตรายที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังพวกเขาโดยไม่นึกถึงอันตรายแล้วก็ปัญหาที่รออยู่ด้านหน้า แม้ว่าจะมีความบากบั่นสำหรับในการสร้าง“ ป้อมยุโรป” แม้กระนั้นผู้หลบภัยและก็ผู้ย้ายที่อยู่ยังคงเสี่ยงอันตรายอยู่ในเรือที่ไม่เหมาะสมโดยบากบั่นผ่านสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนไปยังยุโรป ตั้งแต่ปี 2014 ทุกๆปีมีขั้นต่ำ 3,000 คนตายด้วยวิธีการแบบนี้แล้วก็ในปี 2559 มีคนตายในสมุทรเกือบจะ 5,000 คน อีกคนจำนวนไม่น้อยจำต้องหายนะระหว่างการเดินทางทางบก
ผู้คนที่เคลื่อนยังมีการเสี่ยงเป็นอย่างมากจากคนที่กลายเป็นเหยื่อของความเปราะบางของพวกเขารวมทั้งหน่วยงานของรัฐที่เพียรพยายามเสาะหากำไรแทนที่จะปกป้องรักษาพวกเขาตลอดจนผู้ลักลอบขนย้ายโหดร้ายที่ปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลผลกำไรสูงอย่างที่พวกเขาอุตสาหะ เลี่ยงชายแดนทางบกและก็ทางทะเล
“ พวกเราเป็นจริงเป็นจังที่จะแบ่งปันภาระหน้าที่และก็ความรับผิดชอบสำหรับเพื่อการเป็นเจ้าภาพรวมทั้งส่งเสริมผู้อพยพของโลกอย่างทัดเทียมกันมากขึ้นเรื่อยๆ”
- คณะบุคคลยูเอ็นคำสาบานเกี่ยวกับผู้หนีภัยแล้วก็ผู้อพยพ 19 ก.ย. 2559
ประเทศต่างๆมีสิทธิ์สำหรับการควบคุมอณาเขตของตัวเอง อย่างไรก็ดีเวลาที่ UN ได้แสดงมานานนับเป็นเวลาหลายปีแล้วระบบการโยกย้ายถิ่นฐานที่เป็นระเบียบเรียบร้อยซึ่งมีพื้นฐานมาจากวิธีการสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่ใน UDHR ไม่เพียงแค่ แม้กระนั้นจะพูดถึงข้อตื่นตระหนกด้านความปลอดภัยที่ถูกตามกฎหมายของประเทศเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังให้เกียรติต่อสิทธิของอีกทั้งผู้หนีภัยและก็ผู้ลี้ภัย .
ในปี 2559 เมืองสมาชิก 193 ประเทศขององค์การสหประชาชาติได้รับรองสัญญานิวยอร์กสำหรับผู้หนีภัยและก็ผู้อพยพอย่างเป็นเอกฉันท์ เพื่อป้องกันคนที่ถูกบังคับให้หลบซ่อนและก็ช่วยเหลือประเทศที่ให้บ้านพักอิง เป็นการปูทางไปสู่การใช้กติการะดับนานาชาติใหม่สองฉบับในปี 2018: กติการะดับนานาชาติสำหรับผู้หนีภัยแล้วก็กติกาสุดยอดสำหรับเพื่อการย้ายถิ่นที่อยู่ที่ปลอดภัยเรียบร้อยและก็เป็นประจำ
คนไม่ใช่น้อยที่มีความต้องการการปกป้องที่แจ่มชัดและก็ออกมาจากบ้านด้วยเหตุผลที่อยู่นอกจากการควบคุมจะมิได้รับอนุญาตให้หนีภัยเพราะเหตุว่าพวกเขาไม่อยู่ภายใต้คำอธิบายศัพท์ที่เป็นที่ยอมรับของ 'ผู้หลบภัย' ที่เรียกว่า 'ผู้หลบภัยจากลักษณะภูมิอากาศ' เป็นตัวอย่างที่ดีของช่องว่างรวมทั้งความท้าสำหรับการคุ้มครองปกป้องในตอนนี้ ยังไม่กระจ่างว่ามีกี่ผู้ที่จำต้องพรากจากถิ่นข้ามแดนจากความเคลื่อนไหวลักษณะภูมิอากาศ แต่ว่าสถิติเกี่ยวกับผู้กระทำระจัดด้านในเป็นตัวอย่าง ศูนย์ติดตามการย้ายที่ข้างในประเมินว่าตั้งแต่ปี 2551-2559 เภทภัยที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพภูมิอากาศได้พรากจากถิ่นโดยเฉลี่ยแล้ว 21.7 ล้านคนภายในประเทศของตัวเองทุกปี นี่ยังไม่รวมทั้งปัญหาที่ก่อตัวช้าลงเพราะว่าความเคลื่อนไหวสภาพอากาศในต้นแบบที่ร้ายกาจเพิ่มขึ้นได้แก่ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นน้ำบาดาลกลายเป็นเค็มหรือพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกแล้วก็ทุ่งเลี้ยงสัตว์แปลงเป็นทะเลทราย
ในลักษณะเดียวกันผู้คนที่พรากจากถิ่นจากความยากไร้ในหลายๆกรณีไม่นับว่าเป็นผู้หนีภัยภายใต้ความหมายของอนุสัญญาผู้หลบภัยปี 1951 หรือการป้องกันผู้หนีภัยในลักษณะต่างๆแม้กระนั้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากการคุ้มครองป้องกันแล้วก็ความช่วยเหลือเกื้อกูล - และก็ถ้าเกิดไม่สามารถที่จะหามันกลับบ้านได้พวกเขาก็เป็นไปไม่ได้เลือกอื่นนอกเหนือจากจะต้องไปที่ต่างประเทศ
Global Compact for Migration เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ“ ร่วมมือสำหรับในการกำหนดปรับปรุงรวมทั้งสร้างเสริมวิธีแก้ไขปัญหาสำหรับผู้อพยพที่ถูกบังคับให้ออกจากประเทศต้นทางเพราะว่าภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติที่เริ่มช้าผลพวงจากความเคลื่อนไหวลักษณะของอากาศรวมทั้งความเสียหายของสภาพแวดล้อม” สำหรับคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวไม่อาจจะเดินทางกลับประเทศรกรากได้ทางแก้ไขที่อยู่ในกติกานี้รวมทั้งการย้ายที่อยู่ตามแผนรวมทั้งตัวเลือกวีซ่าใหม่
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้