ข้อเปลี่ยนแปลงสำหรับการ เช็คราคาประเมินคอนโด 2563 ที่ต้องรู้

ข้อเปลี่ยนแปลงสำหรับการ เช็คราคาประเมินคอนโด 2563 ที่ต้องรู้

            สำหรับราคาประเมินคอนโดนั้นมีทั้งของส่วนกลางจากราชการและเอกชน ที่มีทั้งราคาประเมินห้องชุด ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง โดยในอดีตราคาส่วนกลางจากราชการนั้นจะถูกกำหนดขึ้นโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ได้มีพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการในพิจารณาประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 นั่นเอง

ในปัจจุบันบัญชี ราคาประเมินห้องชุด แบบใหม่ยังไม่ได้กำหนดใช้ จึงยึดราคาเดิมที่กรมธนารักษ์กำหนดไว้ก่อน โดยสามารถ เช็คราคาประเมินคอนโด2563 ได้ที่ http://property.treasury.go.th/pvmwebsite/search_data/s_condo_price.asp ซึ่ง เช็คราคาประเมินคอนโด ได้แบบง่าย ๆ เพียงแค่เลือกจังหวัดและใส่ชื่ออาคารชุดเข้าไป ก็จะมีข้อมูลราคาต่อตารางเมตรของพื้นที่แต่ละชั้นออกมา

สำหรับการ เช็คราคาประเมินคอนโด แบบใหม่ยังไม่ได้มีข้อกำหนดออกมา จึงยังไม่สามารถลงรายละเอียดถึงข้อเปลี่ยนแปลงว่าแตกต่างจากราคาประเมินคอนโดแบบเดิมมากน้อยแค่ไหน แต่มีแนวโน้มว่าจะมีราคาสูงขึ้นจากการ เช็คราคาประเมินคอนโด2562 ที่จะกระทบกับผู้ที่ใช้ราคาราชการเป็นราคาอ้างอิง เช่น ในขั้นตอนการจ่ายภาษี การโอนกรรมสิทธิ์ และภาษีบุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งต้องจ่ายเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น เป็นต้น สำหรับใครที่คิดว่าจะต้องโอนห้องชุดหรือจะตกลงซื้อขายคอนโด ถ้าสามารถทำให้สำเร็จก่อนที่บัญชีราคาใหม่จะมีผลบังคับใช้ช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 ก็จะดีกว่า เพราะไม่แน่ว่าราคาประเมินใหม่จะสูงมากกว่าราคาเดิมมากแค่ไหน แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

            หากใครที่ต้องการขอ ประกันสินเชื่อบ้าน จากธนาคาร จะไม่ได้รับผลกระทบจากการประเมินราคาแบบใหม่นี้ เพราะว่าโดยปกติแล้วการประเมินราคาของธนาคารจะไม่ได้อ้างอิงจากราคาราชการเพียงอย่างเดียว แต่จะใช้ข้อมูลจากหลาย ๆ ส่วน เช่น สถิติราคาซื้อขายของพื้นที่บริเวณนั้น และ ราคาล่าสุดที่ธนาคารปล่อยกู้ เป็นต้น เพื่อให้ได้ราคาที่สะท้อนถึงความต้องการในพื้นที่บริเวณนั้นได้ดียิ่งขึ้น โดยราคาประเมินของเอกชน หรือราคาตลาดมีความแตกต่างจากราคาประเมินของราชการอยู่มาก ซึ่งมีค่าความต่างตั้งแต่ระดับ 1% ไปจนถึงมากกว่า 100% เลยทีเดียว

            เมื่อเราทราบเรื่องของราคาที่ประเมินเรียบร้อยแล้ว ก็จะช่วยให้เราได้วางแผนในการลงทุน และดูแนวโน้มในการพัฒนาพื้นที่ในบริเวณต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุน แต่ต้องการที่อยู่อาศัยนั้น การเลือกพื้นที่ที่ดูเหมือนจะมีราคาสูงขึ้นในอนาคต ก็จะตามมาด้วยประโยชน์มากมาย ไม่ว่ะจเป็นการได้มีพื้นที่ถนนตัดใหม่ในอนาคต หรือการก่อสร้างรถไฟฟ้านั่นเอง