เป็นโรคกรดไหลย้อน รีบรักษาอย่าปล่อยให้เรื้อรัง
คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันดีกับโรคกระเพาะอาหาร ฉะนั้นเมื่อเกิดอาการ เรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปาก ปวดแสบร้อนในช่องท้องส่วนบน ปวดบริเวณหน้าอก ก็จะคิดไว้ก่อนว่าตนเป็นโรคกระเพาะอาหาร ทั้งที่ความจริงแล้วอาจจะเป็นโรคกรดไหลย้อนจากกระเพาะสู่หลอดอาหารก็เป็นได้
"โรคกรดไหลย้อน" เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยของที่ไหลย้อนส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก โดยอาจมีหรือไม่มีหลอดอาหารอักเสบก็ได้
อาการกรดไหลย้อน
1.อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก ซึ่งจะเป็นมากหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก, การโน้มตัวไปข้างหน้า ,การยกของหนัก, การนอนหงาย
2.ผู้ป่วยมักมีอาการเรอ และ มีน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก จนทำให้เกิดพยาธิสภาพในหลอดอาหารขึ้น ได้แก่ หลอดอาหารอักเสบ มีเลือดออกจากหลอดอาหาร กลืนติด กลืนลำบาก
3.ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร
4.เจ็บหน้าอก จุกคล้ายมีอะไรติดหรือขวางอยู่บริเวณคอ ต้องพยายามกระแอมออกบ่อยๆ
5.หืดหอบ ไอแห้งๆ เสียงแหบ เจ็บคอ อาการเหล่านี้เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง ทำให้เกิดกล่องเสียงอักเสบ
6.ในเด็กเล็ก อาการที่ควรนึกถึงโรคนี้ ได้แก่ อาเจียนบ่อยหลังดูดนม โลหิตจาง น้ำหนักและการเจริญเติบโตไม่สมวัย ไอเรื้อรัง หืดหอบในเวลากลางคืน ปอดอักเสบเรื้อรัง ในเด็กบางรายอาจมีปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับ
โรคกรดไหลย้อน รักษาได้อย่างไร
เมื่อสงสัยว่าจะเป็นโรคกรดไหลย้อน อันดับแรกแพทย์อาจจะต้องซักถาม เพราะโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังไม่ใช่แค่เรอวันเดียว คลื่นไส้วันเดียวแล้วจะเป็นอาการกรดไหลย้อน หากวินิจฉัยแล้วว่าอาการแสดงเสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อน แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาปรับการหลั่งน้ำย่อยก่อน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ การรับประทานยาเป็นทั้งการรักษาและวินิจฉัย เพราะปกติกรดไหลย้อนมักจะดีขึ้นด้วยการรับประทานยา รีบรักษาอย่าปล่อยให้โรคนี้เรื้อรัง
หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาได้ที่ คลังยามีนบุรี
สอบถามสินค้า สอบถามข้อมูลการใช้ยาโดยเภสัชกรโดยตรง
คอยให้คำแนะนำตลอดทั้งวันได้ที่ http://a0.pise.pw/MTYCT
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้