การนับแคลอรี่ เพื่อสุขภาพที่ดีในการลดน้ำหนัก!!

     หลายคนมีแพลนลดน้ำหนักอยู่ใช่ไหมคะ แล้วเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม อดอาหารก็แล้ว ทานน้อยก็แล้วแต่น้ำหนักไม่ลดลงเลย นั่นอาจเป็นเพราะว่า ร่างกายของเราไม่ได้สนหรอกว่า ถ้าเรากินอกไก่ต้ม ข้าวไรซ์เบอรรี่ และไข่ไก่ 1 ฟองแบบคลีนๆ 3 มื้อต่อวัน แล้วจะปลดล็อคระบบพิเศษที่จะทำให้น้ำหนักลดลง เขาสนแค่ว่าเรากิน “ปริมาณเท่าไหร่”

     ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงการนับแคลอรี่ของอาหารที่เราทานเข้าไปในแต่ละมื้อ ว่ามาก หรือ น้อยกว่าที่ร่างกายเราต้องการมากขนาดไหน

     แคลอรี่ (Calories) คือ หน่วยวัดพลังงานอย่างหนึ่งของอาหาร ส่วนใหญ่แล้ว จะหมายถึงพลังงานที่ได้รับจากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม หรือพลังงานที่ร่างกายใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ มักเรียกว่า "กิโลแคลอรี่" (Kilocalories)

โดยการนับแคลลอรี่ คือการนับตามน้ำหนักตัว ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ต้องการปริมาณแคลอรี่ที่ต่างการ โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้
- สูตรคำนวนของผู้ชายคือ
BMR = 66 + (13.7 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (5 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (6.8 x อายุ)

- สูตรคำนวนของผู้หญิงคือ
BMR = 665 + (9.6 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (1.8 x ส่วนสูงเป็น ซม.) (4.7 x อายุ)

     โดยทั่วไปแล้ว ร่างกายควรได้รับพลังงานในแต่ละวันอย่างเพียงพอและเหมาะสม โดยผู้ชายควรได้รับพลังงานจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในปริมาณ 2,500 กิโลแคลอรี่ (10,500 กิโลจูล) ส่วนผู้หญิงควรได้รับพลังงานในแต่ละวันไม่เกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ (8,400 กิโลจูล) ปริมาณพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันนั้นอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยอื่น เช่น เพศ อายุ น้ำหนักและส่วนสูงของร่างกาย หรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน

     หากใครอยากลดน้ำหนักแบบจริงจังหลักง่าย ๆ ก็คือ ปริมาณที่กิน ต้องให้แคลอรี่น้อยกว่าที่ใช้ หรือที่ร่างกายเผาผลาญนั่นเอง ที่นี้ลองเอาสูตรการนับแคลอรี่ไปลองใช้กันดูได้นะคะ แต่หากมีปัญหาเรื่องสุขภาพในด้านอื่น ๆ ปัญหาการใช้ยา สามารถเข้ามาสอบถามได้ที่คลังยามีนบุรีได้เลยนะคะ

สอบถามสินค้า สอบถามข้อมูลการใช้ยาโดยเภสัชกรโดยตรง
คอยให้คำแนะนำตลอดทั้งวันได้ที่ : http://a0.pise.pw/MTYCT