ป.ป.ช. รวม 2 คดีเข้าด้วยกันและใช้พยานหลักฐานชุดเดียวกัน
คดีนี้เริ่มต้นจากฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว สำหรับรายละเอียดข้อกล่าวหาเป็นอย่างไรผมขอข้ามไป เพราะนั่งฟังการอภิปรายอยู่ในสภายังงงมาจนถึงวันนี้ว่าตกลงอภิปรายกล่าวหานายกฯยิ่งลักษณ์หรือใครกันแน่
ไม่ได้เข้าข้างใครนะครับ ลองเปิดยูทูบการอภิปรายย้อนหลังแล้วฟังกันให้ชัดๆ ท่านผู้อ่านจะพบว่าเขาอภิปรายเรื่องความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการการระบายข้าว ซึ่งมีตัวละครที่ถูกระบุถึงอย่างชัดเจน และแน่นอนถ้ามันเป็นจริงอย่างที่พูด ผมเชื่อมั่นว่าเราสามารถจัดการกับกลุ่มบุคคลที่ทุจริตในเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอนประเด็นอยู่ตรงนี้แหละครับที่มองเห็นไม่ตรงกัน นั่นก็คือ ถ้ามีการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยทุกครั้งหรือไม่? และการทุจริตในบางขั้นตอนของโครงการที่เป็นการกระทำเฉพาะตัว ทำให้โครงการทั้งโครงการต้องแปดเปื้อนจนต้องล้มเลิกไปเลยใช่หรือไม่?ก็บ่นไปอย่างนั้นแหละครับ เพราะทุกท่านคงทราบคำตอบดีอยู่แล้วว่า งานนี้ ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ได้ดำเนินการไต่สวนนายกฯยิ่งลักษณ์ตามกระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง และเป็นผู้กล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีมีความผิดทางอาญาด้วย รวมเป็น 2 คดี ส่วนโครงการรับจำนำข้าวก็ยกเลิกไปหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจ
สำหรับรายละเอียดการดำเนินคดี ท่านผู้อ่านต้องตั้งใจอ่าน เพราะความพิลึกพิลั่นอยู่ตรงนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาทั้งเรื่องถอดถอนและคดีอาญา ซึ่งทั้ง 2 คดีมีกระบวนการในการดำเนินคดีไม่เหมือนกัน เพราะมาจากกฎหมายคนละฉบับ ดังนั้น การทำสำนวนและรวบรวมพยานหลักฐานก็ควรที่จะแยกคดีออกจากกัน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อ่านต่อได้ที่ http://www.lokwannee.com/web2013/?p=10537
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้