ฉีดโบลดริ้วรอย ตรงไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ยู ? เห็นผลภายในกี่วัน ? อยู่ได้นานไหม ?

-

เขียนโดย GUEST1676279945

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 11.26 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  217 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2567 11.30 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) รวมทุกคำตอบฉีดโบลดริ้วรอย จุดไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ยูนิต ? กี่วันเห็นผล ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉีดโบลดริ้วรอย เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า ด้วยความรวดเร็วในการเห็นผล ความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้หลายคนสนใจทำ แต่ก็อาจอยากรู้อย่างแน่ชัดก่อนฉีดว่า ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร ? ฉีดตรงไหนได้บ้าง ? แต่ละจุดใช้กี่ยู (Unit) ? ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนได้บ้าง ? ทำกี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานแค่ไหน ? ในบทความนี้ รวบรวมทุกคำตอบมาให้แล้วค่ะ

 


 

ฉีดโบลดริ้วรอย คืออะไร ?

การฉีดโบลดริ้วรอย คือ วิธีการทางการแพทย์ที่ใช้สารโบท็อก (Botulinum toxin A) มาทำให้กล้ามเนื้อที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอย ผ่อนคลายลง ทำให้ไม่เกิดการพับหรือย่น ส่งผลให้ริ้วรอยลดลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งจะให้ผลเร็วกว่าการใช้ครีมหรือเซรั่มทั่วไป นอกจากนี้ การฉีดโบลดริ้วรอยยังช่วยป้องกันริ้วรอยใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

 


 

ฉีดโบลดริ้วรอย ตรงไหนได้บ้าง ?

การฉีดโบลดริ้วรอยสามารถทำได้ในหลายบริเวณของใบหน้า ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ บริเวณที่นิยมฉีด มีดังนี้

  • โบท็อกลดริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตา : บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาเป็นจุดที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด มักเกิดก่อนบริเวณอื่น ๆ ของใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนล้าและไม่สดใส การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยรอบดวงตา เช่น รอยตีนกาและริ้วรอยหางตา จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยจะจางลง แต่ควรระวังการฉีดมากเกินไป เพราะอาจทำให้ตาดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ ควรฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น
  • โบท็อกลดริ้วรอยร่องแก้ม : รอยย่นที่แก้มมักเกิดจากความหย่อนคล้อยของผิว การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยร่องแก้มจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้แก้มกระชับและริ้วรอยจางหายไป แต่จะได้ผลดีกับผู้ที่มีร่องแก้มตื้น ๆ เท่านั้น หากมีร่องแก้มลึกมาก ควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแทน
  • ลดริ้วรอยหน้าผาก : ริ้วรอยหน้าผากเกิดจากการแสดงอารมณ์และสีหน้า เมื่อเวลาผ่านไป ปล่อยไว้นาน ๆ จะทำให้ริ้วรอยหน้าผากมีความลึกลงเรื่อย ๆ การฉีดโบท็อกหน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยและทำให้หน้าผากเรียบเนียนขึ้น
  • ลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว : ริ้วรอยระหว่างคิ้วเกิดจากการขมวดคิ้วบ่อย ๆ ซึ่งทำให้หน้าดูแก่และไม่สดใส การฉีดโบท็อกบริเวณนี้จะช่วยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อและทำให้ผิวเรียบขึ้น แต่เนื่องจากบริเวณนี้มีเส้นประสาทจำนวนมาก ถือเป็นจุดที่ยากและเสี่ยง ควรฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้น

การฉีดโบท็อกในบริเวณต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียนมากขึ้น ซึ่งต้องฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

 


 

ฉีดโบลดริ้วรอย แต่ละจุดใช้กี่ยู (Unit) ?

ปริมาณยูนิตที่ใช้ในการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยนั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 25 ยูนิต แต่อาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความรุนแรงของริ้วรอย บริเวณที่ฉีด และยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้ แพทย์ประสบการณ์สูงจะประเมินและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย

 


 

ฉีดโบลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี ?

ในปัจจุบันมีโบท็อกหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ทั้งจากฝั่งยุโรป อเมริกา และเกาหลี สำหรับนำมาฉีดโบลดริ้วรอย ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน

การเลือกว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิว บริเวณที่ต้องการฉีด ประวัติการแพ้หรือการตอบสนองต่อการฉีดโบในอดีต ความชำนาญของแพทย์ผู้ฉีด และงบประมาณ

แพทย์ประสบการณ์สูงจะเป็นผู้แนะนำยี่ห้อโบท็อกตามความเหมาะสมให้กับแต่ละเคส

ตัวอย่างยี่ห้อโบท็อกลดริ้วรอยที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย

  • โบท็อกอเมริกา ( Allergan ) : เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับทั่วโลก มีการศึกษาวิจัยรองรับมากที่สุด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • โบท็อกอังกฤษ ( Dysport ) : มีโมเลกุลขนาดเล็ก กระจายตัวได้ดี และเห็นผลเร็ว เหมาะกับการฉีดโบลดริ้วรอยบริเวณกว้าง
  • โบท็อกเยอรมัน ( Xeomin ) : ไม่มีสารโปรตีนประกอบ ทำให้ลดความเสี่ยงในการดื้อยา เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้โบท็อกมานานและเริ่มมีอาการดื้อยา
  • โบท็อกเกาหลี ( Nabota / Aestox / Neuronox ) : มีราคาย่อมเยา และกำลังได้รับความนิยมในเอเชีย

 


 

ฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?

หลังจากฉีดโบลดริ้วรอย ผลลัพธ์จะเริ่มปรากฏภายใน 3-4 วัน โดยผิวจะค่อย ๆ ตึงขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด จากนั้นผลลัพธ์โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน

สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ควรฉีดซ้ำทุก 3 เดือน และไม่ควรเว้นระยะห่างเกิน 5-6 เดือน เนื่องจากกล้ามเนื้ออาจกลับมาทำงานปกติ ซึ่งอาจทำให้ต้องเพิ่มปริมาณโบท็อกในการฉีดครั้งถัดไป

ทั้งนี้ ระยะเวลาและผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สภาพผิว และบริเวณที่ฉีด

 


 

สรุปเกี่ยวกับการฉีดโบลดริ้วรอย

ฉีดโบลดริ้วรอย เป็นทางเลือกที่ดีในการลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวหน้าดูสดใส เรียบเนียนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบนหน้าผาก รอบดวงตา หรือระหว่างคิ้ว การฉีดโบลดริ้วรอยสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน

สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่คลินิก เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณยูนิตที่เหมาะสมกับแต่ละจุดก่อนฉีดได้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าต้องฉีดแพทย์มากประสบการณ์ ในคลินิกมาตรฐาน ใช้ตัวยาโบท็อกแท้เท่านั้น

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องสั้นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา