เกมพลิก
เขียนโดย ปั้นปึ่งยิ้ม
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.51 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2564 17.47 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) -
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแม้แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ภาระงานใช่ว่าจะสิ้นสุดลง บัณฑิตายังคงหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ นิ้วเรียวนวลกดแป้นพิมพ์รัว หวังให้งานที่ได้รับมอบหมายเสร็จทันมื้อค่ำคืนนี้ เธอละเซ็งจริง ๆ ทำไมหัวหน้าของเธอชอบป้อนงานให้เธอหลังสี่โมงเย็นแทบทุกครั้ง หรือเธอกำลังถูกหัวหน้ากลั่นแกล้งกันล่ะเนี่ย เธอไม่ได้ทำตัวโดดเด่นจนใคร ๆ ต้องรุมกันอิจฉาเสียหน่อย จะรังแกเธอนั่นก็ไร้เหตุผลเกินไป...
บ่นไปก็เท่านั้น...
"เฮ้ออออออออออออ!" เพราะงานที่สั่งนั้นเสร็จแล้ว
เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกบังคับให้พักผ่อน หลังไฟล์งานถูกบันทึกข้อมูลเรียบร้อย หญิงสาวจัดแจงเอกสารในความรับผิดชอบไว้อย่างเป็นระเบียบ พลางเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้าน บรรยากาศรอบกายช่างวังเวง ด้วยเลยเวลาเลิกงานมานานร่วมสองชั่วโมงกว่าแล้ว นอกจากลุงยามเฝ้าบริษัทเวรตอนกลางคืน และตัวเธอซึ่งถูกป้อนงานตอนใกล้เลิกงาน คงไม่มีใครมาออกเดทกันในบริษัทในเวลานี้ เธอลงลิฟต์อย่างร้อนใจ ไม่ใช่ว่าเธอกลัวผีในเรื่องเล่ายามบ่าย แต่เธอหวั่นจะไปไม่ทันนัดดินเนอร์วันเกิดหลานชายเธอต่างหาก
เหมือนโชคช่วย พอบัณฑิตาเดินมาถึงประตูรั้วบริษัท ก็มีรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านมาพอดี เธอร้องเรียกพลางโบกมือเป็นสัญญาณ และบอกลาลุงยามที่นั่งอยู่ในป้อมยาม "กลับก่อนนะคะลุง สวัสดีค่ะ"
"ทำไมกลับช้าจังวันนี้"
"ทำงานเพิ่งเสร็จค่ะลุง" วันไหนมีงานวันนั้นต้องมีภาระ (กิจ) เป็นอุปสรรค
"จ้าาาาา กลับดี ๆ ล่ะ"
"ค่ะลุง" เธอรับคำพลางขึ้นรถ
รถจักรยานยนต์รับจ้างออกรถทันทีที่บัณฑิตานั่งเรียบร้อย วิ่งไปยังจุดหมายที่เธอบอก... บ้านของเธอ บ้านเธอนั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ทำงานเท่าไร ค่ารถจึงไม่แพงนัก เธอขอลงยังร้านค้าหน้าปากซอยซึ่งเป็นบ้านน้าของเธอ ครั้นเธอได้ซื้อของที่ต้องการ เธอก็เดินกลับบ้าน ด้วยคุ้นชินเส้นทางเธอจึงไม่รู้จักกลัวอะไร แม้เส้นทางไปบ้านของเธอ เธอจำต้องผ่านป่าเปลี่ยวก็ตาม
ตึก....ตึก...ตึก...!
ตึก ๆ ๆ
บัณฑิตาเดินไปได้ครึ่งทางเธอก็รู้สึกได้ถึงเสียงฝีเท้าอีกเสียงหนึ่งกำลังย่างใกล้เข้ามา เธอหยุดเดิน ก้มลงแนบหูกับพื้น กลับไม่ได้ยินเสียงอะไร เธอส่ายหัวกับความคิดมากของตัวเองแล้วลุกเดินต่อ แต่เพราะเป็นคนช่างสงสัย เธอหันหลังกลับไปมองแวบหนึ่งก็พบเพียงความว่างเปล่า เธอรีบจ้ำเท่าเดินหวังจะให้ตนเองกลับถึงบ้านโดยไว
ตึก ๆ ๆ
ตึก ๆ ๆ
'มีคนตามเรามาแน่ ๆ ผีที่ไหนมีขา' เธอมั่นใจในโสตประสาทของเธอ
บัณฑิตาจงใจเดินแบบไม่รู้ไม่ชี้ จนมาถึงป่าเปลี่ยว รีบแอบหลังต้นไม้ทันที ยืนกดปรับแสงสว่างในโทรศัพท์มือถือให้มืดสลัวที่สุด เธอไม่อยากแหวกพงหญ้าให้งูตื่น เปิดเสียงหมาหอนให้ดังระดับสุด แล้วโยนโทรศัพท์ลงบนกองเศษใบไม้หนาเบา ๆ โดยแหงนด้านที่มีลำโพงขึ้นด้านบน ไม่ให้เสียงสุนัขเทียมเบาลง โบ๊ะหน้าให้ขาวเท่ากระดาษเอสี่ หยิบเสื้อกันฝนตัวยาวสีขาวสวมทับร่าง แล้วจงใจเดินออกมาจากพุ่มไม้อย่างยาตราอ่อนช้อย มือไม้จีบขึ้นจีบลง โชว์สกิลการรำตามที่เคยเรียนมา ร้องขับเสภาอยู่กลางถนน
ขณะนั้น ยอดชายที่ลอบตามหลังมาหมายจะยัดเยียดความเป็นสามีให้หญิงสาวก็ยืนขยี้ตาอย่างกริ่งเกรง ตอนแรกเขาเห็นเธอเดินปกติ ถัดมาเธอก้มทำอะไรสักอย่าง ทางเดินก็มืดสลัวขึ้นทุกที ทำให้มองไม่ถนัดตา หญิงสาวรีบซอยเท้าเดิน คิดว่าต้องรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกเขาสะกดรอยแน่นอน เขารีบเดินตามเพราะกลัวเธอจะหนีไป พอเขาระแวดระวังตนไม่ให้ไก่น้อยตระหนก เขาก็ไม่เห็นเธอแล้ว "หายไปไหนวะ"
เขายืนเพ่งมองอยู่อย่างนั้น จู่ ๆ เสียงหมาหอนก็ดังขึ้น แล้วหญิงสาวที่เขาตามหาก็เดินออกมาจากแมกไม้ป่าเปลี่ยวข้างทาง เธอร่ายกลอนร้องรำอย่างอ่อนหวานงดงาม แสงจันทร์สาดส่องลงมาพอช่วยให้เขามองเห็น แต่เขาในตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะชื่นชมเธออีกแล้ว เขาหวาดกลัวหญิงสาวตรงหน้ามากกว่า
บัณฑิตาเห็นยอดชายตัวสั่นเทายิ่งย่ามใจ ปรี่เข้าไปหาชายหนุ่มที่กำลังยืนหลับตาท่องพุทโธสลับกับนะโมตัสสะอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะความกลัว เธอปล่อยผมสยายปิดบังใบหน้า "มึงท่องบทสวดมนต์ขอให้พระช่วย ทั้ง ๆ ที่มึงกำลังจะทำร้ายคนอื่น มึงคิดว่าพระจะช่วยมึงมั้ย"
"ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ"
"มาตามหาฉันไม่ใช่หรือจ๊ะ ฉันก็อยู่นี่แล้วไง" บัณฑิตาย่างเท้าเข้าไปใกล้เขา พูดออดอ้อน ยื่นใบหน้าขาวแนบชิดเขาแทบได้ยินเสียงหายใจติดขัดของคนตรงหน้า ยอดชายไม่มีสติรับรู้ได้เลยว่าผีที่เขาเห็นคือเหยื่อกามารมณ์ของเขาเอง
"กลัวแล้วครับ ๆ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยครับ"
"กลับไปซะ! ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ มึงจะมา"
"ครับ ๆ ไปแล้วครับ"
ยอดชายลืมตาขึ้นมาและก็ต้องตกใจคนตรงหน้า ใส่เกียร์หมาวิ่งกลับไปทางเก่าด้วยอาการสติหลุด "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
"เป็นไงล่ะมึง..." อยากเจอดีนัก ถูกใจไหม
แผ่นหลังยอดชายพ้นสายตา หญิงสาวก็สะบัดผมให้กลับไปอยู่ในที่ของมันและรวบผมอย่างเป็นระเบียบ เดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าข้างต้นไม้พลางบ่นคนเดียว "อย่าทำให้เสียเวลาสิ"
เธอเดินผิวปากกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี
"ไง เป่าเค้กไปแล้วหรือยังหลานน้า"
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ