นินไหน ไม่เห็นเคยได้ยิน

     สำหรับชีวิตของนักศึกษาปีสามอย่างนิน คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่เรียนรู้เรื่อง มีเงินพอใช้สบาย ๆ มีเพื่อนที่สนิทและไว้ใจได้สักคน มีความมั่นใจ

เวลานำเสนอในชั้นเรียน บาลานซ์ชีวิตเรียน เที่ยว เพื่อนและครอบครัวได้ อยู่ห้องของตัวเองในวันหยุด มีคนคุยหรืออาจจะพิเศษกว่านั้นที่สามารถแบ่ง

ปันเรื่องราวซึ่งกันและกัน นี่แหละคือชีวิตของนักศึกษาในอุดมคติของเธอ แต่ว่าอุดมคติก็เป็นได้เพียงอุดมคติจริง ๆ เพราะในความจริงนั้น ชีวิตของนิน

ไม่ค่อยใกล้เคียงกับมันสักเท่าไหร่ เธอคือนิน นักศึกษาปีสามคณะวิทยาศาสตร์เอกเทคโนโลยีชีวภาพที่เรียนไม่ค่อยจะรู้เรื่อง พอแค่เอาตัวรอดไปได้

ในแต่ละเทอมก็เท่านั้น เงินมีใช้ก็จริง แต่ก็ไม่สามรถใช้แบบตามที่ใจอยากได้ เพราะเธอรู้ว่าอนาคตไม่แน่นอน เรียนจบแล้วอาจจะไม่ได้งานทำเลยในทันที

 เนื่องจากยุคสมัยนี้การแข่งขันมันสูงลิบลิ่ว อีกทั้งครอบครัวของเธอก็ไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากมายที่จะให้เธอทำตัวลอยชายไปวัน ๆ ระหว่างรอหางาน

หรือมีกิจการของที่บ้านรองรับ นินมีเพื่อนสนิทสองคนในมหาวิทยาลัย คนหนึ่งเป็นผู้ชาย ตอนนี้ไปเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติ อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิง สนิท

กันในระดับหนึ่ง นินเล่าเรื่องส่วนตัวให้เพื่อนสนิทคนนี้ฟังรวมถึงเรื่องความรัก นินชอบเพื่อนคนนี้เพราะรู้สึกว่าเคมีเข้ากัน แต่เวรกรรม ทุกวันนี้นินยังไม่รู้ว่า

เพื่อนสนิทของเธอคนนี้หายไปไหนเลย จู่ ๆ เธอก็เลิกมาเรียน ขาดสอบ ติดต่อไม่ได้ไม่ว่าจะช่องทางไหน สิ่งที่รู้ล่าสุดคือเพื่อนร่วมคณะบอกว่า เพื่อน

สนิทของเธอดรอปเรียนและกลับบ้านไปแล้ว นินก็ได้แต่ขอให้เพื่อนสนิทของเธอปลอดภัยและสบายใจดี เรื่องความมั่นใจ ตัวเธอเองไม่ใช่คนที่มีความ

มั่นใจสูง เธอเป็นคนขี้ลังเล ตัดสินใจไม่เก่ง แต่หนึ่งคำถามที่เธอพร้อมตอบแบบไม่ต้องคิดคือ ความกลัวอันดับในชีวิตของคุณคืออะไร เธอจะตอบว่า

เป็นการพูดในที่สาธารณะ การนำเสนอหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เธอต้องแสดงความคิดเห็นของเธอให้คนอื่นรับฟัง หรืออาจจะเสแสร้งแกล้งทำว่าฟังอยู่

เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากนักขนาดที่คนอื่นจะมารับฟังเธอหรือให้ค่ากับความคิดเห็นของเธอ และกลัวเป็นอย่างมากที่จะถูกตัดสินว่า โง่

หรือฉลาดไม่พอ ถึงแม้ว่าคนที่รู้จักเธอในระดับหนึ่งจะพูดกันเป็นเสียงเดียวว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย นินรู้ตัวว่าเธอจัดการเวลาได้ไม่ค่อยดี เธอขี้

เกียจ มักเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเท่าไร เธอมีเวลาให้ครอบครัวก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขามากนักเวลาที่เธอกำลัง

จดจ่อหรือมีความสุขกับสิ่งอื่นมากกว่า เรื่องความเป็นส่วนตัว นินอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย มีรูมเมทเป็นรุ่นพี่ ไม่ได้สนิทกันมากกนักทั้ง ๆ ที่ก็พูด

ภาษาเดียวกัน แต่ยังดีที่ไม่ได้มีปัญหากัน เวลาเดียวที่เธอรู้สึกสบายใจก็คือตอนที่รูมเมทของเธอออกไปเที่ยวในเมืองนั่นล่ะ ส่วนสุดท้ายเรื่องความรัก

นินเพิ่งผ่านจากห้วงอาการอกหักมาได้เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงสับสนว่าเธอต้องการอะไรกันแน่ระหว่าง หนึ่ง หาคนคุยให้ใจ

กระชุ่มกระชวย สอง เธอไม่ได้ต้องการใครที่จะมาเติมเต็มตัวเธอ เธอสามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง สาม หรือเธอจะกลับไปคุยกับคนคุยเก่า เพราะเขายัง

มาวอแวกับเธออยู่ หลังจากที่เธอจับได้ว่าเขานอกใจเธอ ซึ่งที่จริงแล้วเธอกับเขาก็ไม่เคยพูดกันให้ชัด ๆ ถึงสถานะของพวกเขาเลย สี่ หรือเธอจะคุย

กับรุ่นพี่สมัยเด็กที่บางทีก็ชอบทำเหมือนมาหยอดเธอดีนะ ลองเล่นด้วยกลับไปบ้าง เผื่อจะมีความสุขมากขึ้น หรือ ห้า เพื่อนชายที่คบกันอยู่ตอนนี้ ถึง

ปากจะบอกว่าไม่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์กับใคร แต่ทำไมต้องคอยกรอกหูเธออยู่เสมอว่าชอบคนแบบไหน และบอกว่าเธอเป็นเพื่อนที่คุยด้วยแล้ว

สบายใจ และตอนนี้เขาก็ต้องการคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ เขาแอบชอบเธออยู่หรือเปล่านะ นั่นแหละ คร่าว ๆ ของชีวิตของนินในตอนนี้ มันทั้งเรื่อย ๆ

เบื่อ ๆ สบายใจแต่ก็เหงา บางทีก็ชอบบางทีก็ไม่ชอบ บางทีก็เศร้า ชีวิตของคนเรานั้นมันคืออะไรกันแน่ นินตั้งคำถามกับการมีอยู่ของเธอเองและทุกคน

บนโลกใบนี้ ทำไมเราต้องเกิดขึ้นมา เพื่อผจญกับความแปรปรวนของอารมณ์และสภาพอากาศ ความเศร้าและความเหงา หรือเธอแค่ว่างและฟุ้งซ่าน

เกินไปกันแน่ ไม่มีใครรู้ได้ แต่จริง ๆ แล้ว เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้ว่างขนาดนั้น การบ้านมากมายที่กองอยู่รอให้เธอไปจัดการ หนังสือเรียนที่ไม่เคยเปิด

อ่าน ต้องรอให้ถึงช่วงสอบก่อนถึงจะได้ฤกษ์ ย้ำอีกครั้ง ว่านี่แหละ ชีวิตคร่าว ๆ ของนิน