My dear อยากบอกว่ารักเธอ

9.7

เขียนโดย ฝนดาวตก

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.06 น.

  12 ตอน
  6 วิจารณ์
  14.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.41 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

11) 11

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 11

     ณ ดินแดนแห่งเวทมนตร์

          “ที่นี่ไงที่จะทำให้เราสองคนสมหวัง”

          “ที่ไหนกัน ทำไมมันช่างสวยงามอย่างนี้”

          “บ้านเกิดเธอไง ดินแดนแห่งเวทมนตร์”

          “นายพาฉันมาที่นี่ทำไมกัน”

          “เดี๋ยวเธอก็รู้” ผมพูดพร้อมทำหน้าตาจริงจัง

          “ราชา ราชินี ข้ามีเรื่องรบกวนท่าน”

          “เจ้ามีอะไรกันวาเลน ถึงไม่มาเอะอะที่นี่”

          “ข้ามีเรื่องมาขอร้องให้ท่านช่วย”

          “มีเรื่องอะไร เจ้าบอกข้ามาสิ ถ้าข้าช่วยได้ข้าจะช่วยเจ้า”

          “ข้ารักหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังข้า และข้าต้องการจะแต่งงานกับนาง ราชาท่านโปรดอนุญาตด้วยเถิด”

          “นางผู้นี้เป็นลูกผสมไม่ใช่หรือ มันผิดกฎนะวาเลน แล้วข้าจะอนุญาตให้เจ้ารักกันได้ยังไง”

          “แต่นางคือคนที่อดีตราชาทำลายครอบครัวนะพะยะค่ะ”

          “แต่เจ้าไม่มีสิทธิ์จะเอาข้อนั้นมาอ้างเพื่อรักกับนาง” ราชาตวาดเสียงดัง

          “แต่ข้ารักนางอย่างจริงใจ ท่านพอมีทางช่วยข้าได้ไหมพะยะค่ะ”

          “ได้ มี 2 ทางให้เจ้ากับนางเลือก ทางที่ 1 คือ ให้เจ้าเข้าพิธีถอนเวทในร่างกายของเจ้า เพื่อให้เจ้าได้เป็นมนุษย์ แล้วไปอยู่กับนางที่โลกมนุษย์ หรือ ทางที่ 2 คือ ให้นางเข้าพิธีคัดแยกเลือด โดยการนำเลือดส่วนที่เป็นของมนุษย์ออกให้เหลือแต่เลือดส่วนที่เป็นของแม่มด แล้วย้ายมาอยู่กับเจ้าที่นี่ แต่ข้าจะบอกไว้ก่อนนะ ไม่ว่าเจ้าจะเลือกทางไหน เจ้าก็จะต้องรู้ถึงโทษและข้อต้องห้ามของมันก่อนนะ”

          “พะยะค่ะ เชิญราชากล่าวให้หมดเถอะ”

          “ได้ ถ้าเจ้าเลือกทางที่ 1 เจ้าจะไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับมาที่ดินแดนแห่งเวทมนตร์ และสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับดินแดนแห่งเวทมนตร์ไปตลอดกาล แล้วถ้าเกิดความผิดพลาดในพิธีกรรมเจ้ารู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

          “รู้พะยะค่ะ นั่นหมายถึงชีวิตของหม่อมฉัน” ผมตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น

          “แล้วทางที่ 2 ล่ะเพคะ” เอลลี่ที่เงียบมานานถามขึ้น

          “ส่วน ทางที่ 2 ถ้าเจ้าเลือกทางนี้ เจ้าก็จะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับโลกมนุษย์อีกเลย เจ้าจะมีเวทมนตร์พื้นฐานที่แม่มดทุกตนมีมาแต่กำเนิด แต่ของเจ้าต้องเจ็บตัวหน่อยนะ เพราะต้องนำเลือดทั้งหมดในร่างกายเจ้าออกมา เพื่อคัดส่วนที่เป็นเลือดมนุษย์ออก แล้วค่อยนำเลือดกลับไปใหม่ ซึ่งเจ้าต้องมีสติตลอดเวลาที่ทำพิธี แต่ถ้าเจ้าทนไม่ไหว นั่นก็หมายถึงชีวิตของเจ้าเช่นกัน สาวน้อย” ราชาอธิบายทุกอย่างโดยละเอียด และเมื่อผมได้ฟังจบก็ไม่ต้องสงสัยเลย ผมต้องเลือกทางที่ 1 อยู่แล้ว เพราะผมจะไม่มีวันยอมให้เธอเจ็บเป็นอันขาด ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเธอทนไม่ได้เธอคงต้องจากผมไป แล้วผมก็ทนไม่ได้เหมือนกันที่จะต้องเสียคนที่ผมรักไปอีก

          “พวกเจ้าจะเลือกทางใดดีล่ะ” ราชาพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าพวกเราเงียบกันอยู่นาน

          “ทางที่ 1 / ทางที่ 2” ผมและเอลลี่ตอบพร้อมกัน

          “พวกเจ้าตกลงกันก่อนจะตอบข้าดีกว่าไหม” ราชาเอ่ยบอก

          “เอลลี่ ฉันจะไม่ยอมให้เธอเสี่ยงเด็ดขาด ฉันทนไม่ได้ถ้าจะต้องเสียเธอไป เพราะเธอคือคนที่ทำให้ฉันเข้าใจว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร”

          “ฉันก็ไม่ยอมให้นายเสี่ยงเหมือนกัน นายมีครอบครัวที่นี่ นายต้องลืมทุกคนเพราะฉัน ฉันเห็นแกตัวแบบนี้ไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ ให้ฉันเสี่ยงได้ไหม” เอลลี่ร้องขอทั้งน้ำตา และแน่นอนที่สุดผมไม่มีวันยอม

          “แต่เธอก็มีครอบครัวของเธอเหมือนกันนะ”

          “แต่นายลืมไปหรือเปล่าว่าครอบครัวของฉันตายหมดแล้ว แม้แต่แม่ตังค์ แม่ที่เก็บฉันมาเลี้ยง ท่านก็เพิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง และถ้าฉันมีโอกาสที่จะลืมเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ฉันก็อยากจะทำ หรือนายไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับฉันแล้ว” เอลลี่วอนขอ แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิม ที่จะไม่ยอมให้เธอเสี่ยง

          “ไม่ ฉันไม่ยอม เธอได้ยินไหม” ผมพูดเสียงหนักแน่น

          “ในเมื่อพวกเจ้าตกลงกันไม่ได้ งั้นข้าจะเป็นคนเลือกให้พวกเจ้าเอง” ราชาที่เห็นพวกเราเถียงกันอยู่นาน จึงตัดสินใจที่เป็นคนเลือกทางเดินให้กับพวกเรา

          “ทางที่ 1 ใช่ไหมพะยะค่ะ” ผมถามขึ้นทันที และหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น

          “ไม่ใช่” ราชาตอบเสียงเย็น

          “ทางที่ 2 ใช่ไหมเพคะ” เอลลี่ถามขึ้น และผมหวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น

          “ไม่ใช่” พอสิ้นคำตอบของราชาพวกเราสองคนหันมามองหน้ากันแล้วหันไปถามราชาพร้อมกันว่า

          “แล้วทางไหนล่ะเพคะ/พะยะค่ะ” ราชาไม่มีคำตอบใดๆ กลับคืนมา พวกเราได้แต่คุกเข่าอยู่อย่างนั้น โดยหวังลึกๆ ว่าราชาจะใจดียอมให้พวกเรารักกัน

          “ทางที่ข้าเลือกให้พวกเจ้าก็คือให้เอลลี่เข้าพิธิล้างความทรงจำเกี่ยวกับโลกมนุษย์ เพื่อให้นางลืมความเจ็บปวดที่ท่านพ่อของข้าได้สร้างไว้กับนาง และมาอยู่ที่ดินแดนเวทมนตร์เพื่อเรียนรู้เวทมนตร์พื้นฐานที่แม่มดควรมีตั้งแต่กำเนิด โดยไม่ต้องเข้าพิธีคัดแยกเลือด และให้เจ้า วาเลนกลับไปยังโลกของดวงวิญญาณ เพื่อไปตามหาเอล่า และชดใช้ให้กับนาง ที่นางต้องสิ้นชีพก่อนวัยอันควร เพียงเพราะความประมาณของเจ้า นี่เป็นทางออกเดียวที่ข้าพอจะช่วยพวกเจ้าได้ พวกเจ้าตกลงไหม” ราชายื่นข้อเสนอให้พวกเรา

          “แล้วเอลลี่จะเป็นแม่มดหรือมนุษย์ หรือเธอต้องเป็นลูกผสมต่อไป”

          “นางจะเป็นลูกผสมต่อไป แต่นางจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับโลกมนุษย์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือนางจะเป็นลูกผสมที่คิดว่าตัวนางเป็นแม่มดตั้งแต่กำเนิด”

          “แล้วพ่อมด แม่มดตนอื่นล่ะ พวกนั้นจะยอมรับได้หรือ”

          “ได้สิ ถ้าข้าร่ายเวทให้ทุกคนในดินแดนลืมเกี่ยวกับเรื่องนี้ซะ แต่ข้าจะไม่ทำให้เจ้าลืมนะว่านางเป็นลูกผสม เรื่องนี้จะมีแต่ข้ากับเจ้าที่รู้เรื่องเท่านั้น เจ้าว่ายังไง”

          “ถ้าเธอปลอดภัย หม่อมฉันยอมพะยะค่ะ”

          “แต่หม่อมฉันไม่ยอมเพคะ”

          “เจ้ายังต้องการอะไรอีก”

          “หม่อมฉันไม่ต้องการให้วาเลนต้องตายเพคะ” เอลลี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง นี่เธอคงรักผมเข้าแล้วสินะ

          “ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้านี่มันอ่อนต่อโลกจริงๆ แม่สาวน้อย” ราชาหัวเราะในสิ่งที่เธอพูด เพราะเธอคงจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของภาษาพ่อมด แม่มด แต่นางก็พอฟังได้เพราะนางเป็นลูกผสม

          “ท่านขำอะไรกัน” เอลลี่ถามราชาด้วยความสงสัย

          “ก็ขำเจ้านั่นล่ะ ข้าไม่ได้ให้วาเลนไม่ตายเสียหน่อย”

          “แล้วท่านให้วาเลนไปโลกของดวงวิญญาณทำไมกัน” เอลลี่เริ่มโมโหแล้ว เธอช่างน่ารักอะไรอย่างนี้

          “ข้าหมายถึงให้วาเลนไปตามหาเอล่า และชดใช้ให้กับนางก็เท่านั้น”

          “แล้วยังไง วาเลนจะได้กลับมาไหม”

          “ได้สิ แต่เจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะข้าต้องการพิสูจน์ว่าพวกเจ้าเป็นรักแท้ของกันและกันหรือไม่”

          “อย่างไรเพคะ” ดูเอลลี่ใจเย็นลง เมื่อได้ยินว่าผมจะได้กลับมา เธอดูเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสาจริงๆ

          “ก็วาเลนต้องไปอยู่กับเอล่า และเจ้าต้องอยู่คนเดียวที่นี่ เป็นเวลา 3 ปี ถ้าพวกเจ้ายังมั่นคงต่อกัน ข้าก็จะไม่ขัดขวางที่พวกเจ้าจะรักกัน แต่ถ้าพวกเจ้าทำไม่ได้พวกเจ้าจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดกาล”

          “ตกลงเพคะ” เอลลี่ตอบตกลงทันที ในที่สุดเธอก็รักผมจริงๆ

          “เอลลี่ฉันจะรอวันที่เราได้มาเจอกันนะ แล้วฉันมีอะไรจะบอกเธอ”

          “ฉันก็จะรอวันที่นายกลับมานะ วาเลน” เอลลี่ และผมบอกลากัน หลังจากนั้นผมก็ถูกราชาส่งไปยังโลกของดวงวิญญาณ ซึ่งการที่จะไปยังโลกของดวงวิญญาณได้นั้นผมต้องไปด้วยดวงวิญญาณของผม ซึ่งเอลลี่มารู้ทีหลังว่าผมอาจจะไม่กลับมาก็ได้ เพราะดวงวิญญาณของผมอาจจะผูกติดกับโลกของดวงวิญญาณจนไม่สามารถจะกลับมาได้ ซึ่งผมรู้กฎข้อนี้ดีอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่อยากบอกเธอ เพราะนี่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา และก็มีบางอย่างที่ผมไม่รู้ คือราชาไม่ได้เปลี่ยนความทรงจำของพ่อมด แม่มดในดินแดน เพราะราชาต้องการให้เอลลี่อยู่กับความเป็นจริง และเป็นที่ยอมรับในฐานะลูกผสม เอลลี่เธอตั้งใจเรียนเวทมนตร์ต่างๆ จนตอนนี้เธอก็สามารถร่ายเวทมนตร์พื้นฐานต่างๆ ได้แล้ว ส่วนผมก็หาเอล่าจนเจอ และได้ชดใช้ให้กับเธอจนพวกเราไม่มีอะไรที่รู้สึกติดค้างกัน นอกจากความทรงจำดีๆที่มีต่อกัน ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ในโลกของดวงวิญญาณ เอล่าคอยหาข่าวของเอลลี่มาเล่าให้ผมฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ผมนี่สิจะได้กลับไปหาเธอหรือเปล่านะ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา