แมวเหมียวตัวร้ายกับนายมึนงง

9.3

เขียนโดย zeeto

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.42 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  11.87K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 21.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

5) ความรู้สึกที่อยู่เหนือเหตุผล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “เที่ยงแล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ” “มึงว่าไงนะปริ้นท์พอดีกูไม่ทันฟัง” “กูบอกว่าเที่ยงแล้วไปหาไรกินเถอะ” “เออ...ก็ได้แต่กูมีธุระนิดหน่อยคงกินเสร็จแล้วไปเลย” “เดี๋ยวนะฟลุคกูว่าช่วงนี้มึงแปลกๆนะ” “ไม่มีอะไรหรอก” ใครจะกล้าบอกได้ว่าตอนนี้ผมกำลังหาแฟนอยู่ถึงผมจะสนิทกับไอ้ปริ้นท์มากที่สุดแต่แน่นอนเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้พูดไปใครจะเชื่อนอกจาก... ไม่อยากพูดถึงเลยแค่คิดสภาพตอนที่กันต์เห็นผมแล้วว่าผมไม่ใช่คนปกติผมก็เอาแต่พยายามหลบหน้าตลอดยอมกระทั่งกินอาหารแมวห่อสีม่วงที่เทใส่ถาดไว้ในห้องนอนไม่กล้าข้ามไปห้องของนายกันต์มาหลายวันแล้ว “ไอ้ฟลุคถ้ามึงมีอะไรมึงก็บอกกูนะมึงทำตัวแปลกๆแบบนี้กูเป็นห่วง” “ไม่มีไรหรอกอย่าห่วงกูเลยกูโอเค” ผมฟยิ้มให้ไอ้ปริ้นก่อนจะกอดไหล่แล้วพากันเดินไปที่หาข้าวกิน

               

          ก็เพราะมึงเป็นแบบนี้ไงละกูถึงยังห่วงมึงไอ้ฟลุค เพราะกูกับมึงเป็นเพื่อนสนิทกันไง กูก็ไม่ต่างจากมึงหรอกที่ไม่สามารถบอกมึงได้ว่า อีกไม่นานกูก็ต้องกลับไปเป็นเทพแล้ว เพราะกูเองก็รู้สึกเหมือนมึงนั้นแหล่ะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเกินกว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับกูแล้วยังไงกูก็ต้องหายไป แต่มึงจะอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ได้กูก็ได้แต่หวังนะว่ามึงจะเจอคนที่จะทำให้มึงสามารถกลับไปเป็นคนได้อีกครั้ง

               

          ไหนว่าเป็นคนที่ฮอตที่สุดในคณะวะเดินไปไหนมาไหนมีแต่คนชอบแต่พอไปจีบขอเป็นแฟนด้วยจริงๆทำไมมีแต่คนปฏิเสธทั้งนั้น แถมวันนี้ซวยสุดก็ตรงไปขอน้องรุ่นน้องปีหนึ่งเป็นแฟนแต่ดันไปเจอตีนพวกวิศวะที่เป็นแฟนน้องเขาให้ ดีนะโดนมาแค่มัดสองมัดถ้าหนีออกมาไม่ทันสงสัยตายแน่ เจ็บปากเป็นบ้าเลยผมเดินเอามือลูบปากตัวเองพรางบ่นอยู่คนเดียวก่อนจะมาถึงหน้าห้องที่...  “กันต์” “กลับมาแล้วหรอ” “อือ...แล้วนี้มาทำไรหน้าห้องฉันว่ะ” “เราก็มารอฟลุคไง” “รอ?...รอทำไม” “ก็เราอยากคุยด้วยเรื่องที่ฟลุคเป็น...แมว” “จะยุ่งทำไมว่ะ” “ก็เราเป็นห่วง” “ห่วงทำไม...ไม่ใช่เรื่องของนายกลับห้องไปเลยไป” “เดี๋ยวก่อนดิเราซื้อข้าวมันไก่มาด้วยนะ...อีกอย่างเราอยากรู้จริงๆว่าจะมีทางแก้ไหม” “รู้ไปจะช่วยไรได้ว่ะ...โอ้ย...” “ปากนายไปโดนไรมา” “เออนะไม่ต้องยุ่งหรอกสรุปจะเอาข้าวมาให้โอเครับไว้ก็ได้พอใจนะเสร็จแล้วก็กลับห้องไป ฉันไม่อยากให้ใครเห็นสภาพฉันตอนนี้แล้วฉันก็หวังว่านายจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดที่ไหนด้วย”

               

          อะไรกันพูดๆอยู่คนเดียวแล้วก็จะเดินหนีหรอคนมายืนรอเกือบชั่วโมงจะให้หนีหน้าง่ายๆหรอไม่มีทาง ทันทีที่ฟลุคไขกุญแจเปิดห้องของเขาออกผมก็ดันหลังเจ้าของห้องให้เข้าไปก่อนจะตามเข้ามาแล้วกดล๊อกห้องทันที “ทำอะไรเนี้ย” “เราต้องคุยกันนะฟลุค” “ก็บอกแล้วไงมันเรื่องของฉัน” “แต่เรารู้แล้ว...อีกอย่างเราทนเฉยไม่ได้เราอยากช่วย” “จะช่วยยังไงว่ะยังไงนายก็ช่วยไม่ได้ฉันว่านายอย่ามาเสียเวลาดีกว่ากลับไป” “ไม่...ถึงมันจะช่วยไม่ได้แต่...ตอนที่นายอยู่ในสภาพแมวเราก็ดูแลนายได้ไม่ใช่หรอ” “กันต์” ผมยื่นมือไปจับที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้าให้หันมามองสายตาที่มองมาที่ผมมันมีแต่ความกังวล แล้วแบบนี้จะให้ทิ้งให้อยู่คนเดียวได้ไง อย่างน้อยๆก็ควรจะมีใครซักคนที่คอยรับฟังไม่ใช่หรอถึงแม้อาจจะช่วยอะไรไม่ได้เลย “นายไม่กลัวฉันหรือไงฉันอาจจะโดนคำสาปไม่ก็เป็นปีศาจก็ได้” “ไม่หรอกนายไม่ใช่ปีศาจ...แล้วฉันก็จะหาทางช่วยนายให้หายจากเรื่องนี้ด้วย” นายจะช่วยยังไงในเมื่อฉันพยายามมาหลายวันแล้วแต่ก็ไม่ได้” “หมายความว่านายรู้หรอว่าต้องทำแบบไหนถึงจะหาย” “ใช่ฉันรู้...แต่ฉันไม่สามารถทำมันได้เพราะฉันเป็นคนแบบนี้ไง” “งั้นนายช่วยเล่าให้ฉันฟังได้ไหมว่าต้องทำยังไง”

               

          เป็นไงละพอผมเล่าให้ฟังนายกันต์ก็ได้แต่นิ่งไป นี่แหล่ะผมถึงไม่อยากจะบอกใครเลยซักคนว่ามันเกิดเพราะอะไรและที่แน่นอนไม่มีใครสามารถช่วยอะไรผมได้หรอก “ไงละ...ฟังเรื่องของฉันแล้วรู้แล้วใช้ไหมว่าไม่มีใครช่วยฉันได้...เฮ้ย!!” อะไรของผู้ชายคนนี้อยู่ๆมาดึงผมเข้าไปกอดแบบนี้หมายความว่าไง แล้วทำไมใจของผมมันถึงได้เต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาละ “ไม่เป็นไรนะฟลุคอย่างน้อยๆตอนนี้นายก็แสดงความรู้สึกออกมาแล้วไง นายยอมที่จะเล่าให้เราที่เป็นคนแปลกหน้าที่พึ่งรู้จักฟัง นี่แหล่ะนายเริ่มแสดงความรู้สึกบ้างแล้ว” “นายทำอะไรเนี้ยแล้วแสดงความรู้สึกอะไรของนาย” “ก็เรารู้ว่าตอนนี้นายกลัวนายกำลังกลุ้มใจและต้องการหาทางออกแต่นายไม่รู้จะปรึกษาใคร” “อย่ามาพูดเหมือนรู้ดีนะ” “เราเปล่าแต่เราเชื่อนะว่าฟลุคจะสามารถหายจากคำสาปอะไรนี้ได้แน่” “แล้วถ้าฉันไม่หายละถ้าฉันต้องอยู่ในสภาพครึ่งคนครึ่งแมวแบบนี้ตลอดไปละฉันจะทำไง” “อย่างน้อยๆก็มีเราไงไม่หายก็ไม่เป็นไรเป็นแมวเราก็ดูแลนายได้” “กันต์...อ่ะ...” “ฟลุคหู...” “หันหลังไปอย่ามองนะหันไป” “ไม่ในเมื่อเรารับปากแล้วว่าจะอยู่กับนายเราจะอยู่ข้างนายแบบนี้ตลอด”

               

          ผมนั่งมองร่างของฟลุคที่ค่อยๆกลายร่างจากคนมาอยู่ในร่างแมว แม้ยากเกินกว่าจะเชื่อสายตาแต่ตรงหน้าผมตอนนี้คือฟลุค ผู้ชายข้างห้องที่ค่อยๆกลายร่างมีหูมีหางออกมา และท่าทางที่ดูทรมานไม่น้อย “ไม่เป็นไรนะฟลุคไม่เป็นไรนะ” ผมค่อยๆดึงร่างที่คนตัวค่อยๆกลายเป็นแมวเข้ามากอดไว้เบาๆก่อนร่างนั้นจะเหลือเพียงร่างเล็กๆของแมวเต็มตัว “ฉันจะอยู่กับนายเองไม่ต้องกลัวนะน” เหมี๊ยววว... “หิวไหมเดี๋ยวฉันเอาข้าวใส่จานให้นะ” เหมี๊ยววว... “กินซ่ะนะเศษแล้วกลับห้องกันเดี๋ยวเราเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้นายเองโอเคนะ” ผมยิ้มพร้อมกับเอามือลูบหัวฟลุคในร่างแมวเบาๆก่อนจะเดินไปหยิบเอาเสื้อผ้าของเขามา

               

          อะไรคือการที่ผมต้องโดนคนข้างห้องที่รู้เรื่องของผมทั้งหมดอุ้มมาที่ห้องของเขา นี้ผมมาอยู่จุดนี้ได้ไงขนาดเพื่อนสนิทอย่างไอ้ปริ้นท์กับไม่รู้เรื่องของผมขนาดนี้ แต่กับผู้ชายคนที่อุ้มผมมาวางที่เตียงในตอนนี้กับรับรู้ทุกอย่าง แล้วทำไมผมถึงรู้สึกสบายใจที่เล่าให้เขาฟังละ เหมือนกับว่าผมเชื่อใจเขาแล้วงั้นหรอ?...  “นอนก่อนเลยนะเดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน” เจ้าของห้องหันมายิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป แรมโบ้...ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาแรมโบ้ที่นอนอยู่อีกมุมหนึ่งของเตียงก่อนจะเข้าไปคลอเคลีย จะมีโอกาสไหมนะที่ผมจะเล่นกับแรมโบ้ในตอนที่เป็นคน เหมี๊ยววว...

               

          นี่มันไม่มีอะไรผิดพลาดใช่ไหมผมหันไปมองกราฟชีวิตของเพื่อนสนิทค่อยๆขึ้นสูงแบบนี้มันไม่ผิดพลาดไปหรอ ทำไมอยู่ๆกราฟของฟลุคจึงขึ้นทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลย “มองอะไรอยู่รึลูกพ่อ” “พ่อครับกราฟชีวิตของฟลุคไม่ผิดใช่ไหมทำไมอยู่ๆถึงขึ้นมาได้” “เรื่องนี้นี่เองก็ไม่แปลกนี่ในเมื่อเพื่อนของลูกเขาเจอคนที่เขาพร้อมจะพูดจาและแสดงความรู้สึกออกมาแล้วกราฟชีวิตและพันธนาการที่ยืดติดไปด้วยความไม่แน่ใจของเพื่อนลูกมันเริ่มเปิดออกแล้ว” “หมายความว่า...” “ใช่แล้วละอีกไม่นานเมื่อกราฟผ่านจุดที่เรียกว่าหัวใจมาได้แล้วเขาก็จะเป็นปกติ” “แล้วมันเกิดเพราะอะไรหรอครับถึงทำให้กราฟชีวิตนี้ขึ้นมาได้” “ลูกก็ลองสังเกตดูซิว่าเพราะใคร” “หมายความว่า...ผู้ชายข้างห้องคนนั้น?...เป็นไปไม่ได้นั้นมันผู้ชายนะ” “ปริ้นความรักความรู้สึกมันเกิดขึ้นได้โดยไม่บอกเราล่วงหน้าหรอกนะว่าคนที่เราจะรักจะเป็นแบบไหน” “แต่ว่าแบบนี้...” “อย่าวิตกกังวลไปเลยเชื่อพ่อเถอะผู้ชายคนนี้คือคู่ชีวิตของเพื่อนลูก ไม่เชื่อก็ดูกราฟนี้ซิเส้นต่างๆที่ขึ้นลงมันไปในทิศทางเดียวกับเพื่อนลูกทั้งหมด” “เขาจะสามารถดูแลเพื่อนของผมได้ใช่ไหม” “ได้ซิได้ดีด้วย” ถ้ามันเป็นแบบที่พ่อพูดอีกไม่นานผมคงต้องปล่อยเพื่อนของผมแล้ว

               

          อุ่นจังเหมือนมีคนมากอดเลยแหะ...กอด?...ผมค่อยๆกระพริบตาตื่นขึ้นมาก่อนจะมองไปที่ตัวเองแขน? แขนใครว่ะเมื่อค่อยๆหันหน้ากลับมาใบหน้าที่ห่างกันแค่คืบของผมและนายกันต์ทำเอาผมสะดุ้งตกใจทันที “เฮ้ย!!!....” “มีอะไรหรอฟลุค” “เปล่าๆ...” “อุ้ย...มีหูกับหางด้วยเช้านี้น่ารักจัง” “น่ารัก?...” น่ารักบ้าอะไรสภาพแบบนี้ใช่เวลามาเล่นไหม ผมค่อยๆดึงผ้าห่มมาคลุมท่อนล่างตัวเองไว้ก่อน “ฟลุคเหมาะกับหูแมวมากเลยรู้ตัวไหม” “เหมาะบ้าอะไรเมาขี้ตาหรือไง” “ฮาๆๆๆ...เราชอบนี่มีหูด้วยน่ารักดีออก” ไม่พูดเปล่าคนที่นอนอยู่ค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ แต่แทนที่ผมจะหนีหรือต่อว่าทำไมมันกับรู้สึกดีแบบนี้นะ “ความจริงถ้าฟลุคเป็นแบบนี้ตลอดก็ดีนะ” “ดีตรงไหนว่ะ” “ก็เราชอบ” “ชอบ?” “อือ...เราชอบเวลาฟลุคมีหูเหมือนแมว” “ถ้าไม่มีหูเหมือนแมวนี่ก็คือเกลียดเลย” “ไม่มีเราก็ชอบ” “หมายความว่าไงว่ะ” “ก็ชอบไง...” ตึกตึก ตึกตึก ชอบ? หมายความว่าไง ไม่มั่งผู้ชายด้วยกันจะมารู้สึกแบบนั้นไงได้

               

          ชอบ? พูดไปได้ไงว่ะแล้วผมหมายความชอบอะไรละแบบนี้จะโอเคหรอไม่ใช่ว่าจะถูกเกลียดเอานะ พูดอะไรไม่คิดอีกแล้วไอ้กันต์เอ้ยปากพาซวย “เอองั้นฉันกลับห้องละ” “เดี๋ยวดิวันนี้วันหยุดไม่ใช่หรอ” “เออ...ก็ใช่วันหยุดก็อยากพักผ่อนสบายๆอยู่ห้องดิจริงไหม” “เดี๋ยวค่อยกลับก็ได้เสื้อผ้าก็เอามาให้แล้วอาบน้ำก่อนซิเดี๋ยวเราทำอะไรให้กิน” “เออคือ...” “นะ...ไปอาบน้ำไป” “ก็ได้ๆ...” ทันทีที่ฟลุคเข้าห้องน้ำไปผมได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ นี้ผมชอบฟลุคงั้นหรอ? ก็ไม่ได้อยากจะยอมรับนะแต่มันก็เป็นเรื่องจริง ความรู้สึกของผมมันบอกไปแล้วว่าใช่ แบบนี้จะซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกหรือควรถอยห่างดีละ ถ้าจะเดินหน้าต่อฟลุคจะโอเคไหม แล้วถ้าถอยผมละโอเคหรอ ควรทำไงดีถ้ารู้ความรู้สึกว่าตรงกันซักนิดก็คงจะดีแต่ฟลุคไม่มีท่าทางอะไรที่จะบอกได้เลยว่าเขารู้สึกแบบไหน มันเลยทำให้ผมไม่แน่ใจว่า ควรทำไงต่อดี แต่ถ้าเขาคิดตรงกับความรู้สึกผมตอนนี้มันก็อาจจะช่วยให้ฟลุคหายจากคำสาปก็ได้ไม่ใช่หรอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ฟลุคแล้วละ แต่สำหรับผมคงให้เขาเป็นคนพิเศษไปแล้ว แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ผมเองก็ไม่แน่ใจ เพราะสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา หรือเพราะกลิ่นกาแฟหน้าระเบียงในตอนเช้าทุกๆวันตลอดสามปีที่ผ่านมา หรือเพราะครั้งแรกที่ย้ายเข้ามากันแน่ นี่ซินะความชอบที่อยู่เหนือเหตุผลใดๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา