WE

6.7

เขียนโดย zeeto

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.28 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,833 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2560 19.07 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) เหตุเกิดเพราะแมว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ตั้งแต่งานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่มาผมก็ไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าไอ้ผู้ชายผิวขาวคนหนึ่งในคณะซักเท่าไร และที่ซวยกว่านั้นผมไม่รู้ว่าทำไมผมกับมันยังต้องมาเจอกันอีกทั้งๆที่อยู่คนละสาขากันก็ตามเถอะ อาจจะเพราะอยู่คณะเดียวกันด้วยละมั่งผมเลยต้องมาเจอขี้หน้าไอ้นี้ ก็จะไม่ให้ผมมั่นไส้ได้ไงก็มันเป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนของมหาลัยเข้ามาเรียน แถมมันทั้งเก่งบวกกับหน้าตาที่...หล่อละมั่งก็หล่อนั้นแหล่ะสูงขาวสไตล์โอปป้าขนาดนั้นคงไม่แปลกหรอกที่เดินไปไหนจะมีทั้งเพื่อนๆสาวๆไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่เข้ามารายล้อมมันเยอะขนาดนั้น แล้วดูผมซิเพื่อนหรอแทบจะไม่มีแค่ผมมองเฉยๆทุกคนก็คิดว่าผมคอยแต่จะหาเรื่อง  ตกลงหน้าตาของผมมันดูมีปัญหากับคนรอบข้างด้วยหรอเฮ้ออออ... ผมได้แต่คิดกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่สนามบาสหลังมหาวิทยาลัยเพราะบริเวณนั้นคงเป็นบริเวณที่ผมคิดว่าสงบสุขที่สุดแล้ว ไอ้ผู้ชายที่คนอื่นๆกลัวอย่างผมมันก็เหมาะกับที่ปีกวิเวกแบบนั้นแล้วละ และที่สำคัญมันมีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่ถูกเอามาทิ้งไว้ด้วยไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างหิวแย่แล้วมั่ง “โอ้ย...เดินยังไงว่ะไม่เห็นรึไงว่าคนเดินมา” ผมก้มลงไปเก็บถึงปลาทอดที่ซื้อมาจากโรงอาหารเพื่อจะนำไปให้แมวที่หลังมหาลัย “ขอโทษ...ว่าแต่นายจะรีบไปไหน” เสียงนี้มันคุ้นๆแห่ะ ผมค่อยๆเงยหน้าจากถุงปลาทอดมองไปยังเจ้าของเสียง ก็จะไม่ให้คุ้นได้ไงก็ไอ้เจ้าของเสียงนั้นคือไอ้หน้าหล่อโอปป้าที่ผมพึ่งบ่นเมื่อกี้นี้เอง “นี่มึง?...” ผมพูดพร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าคนตรงหน้า “นายรู้จักเราด้วยหรอ?” “ใครจะไม่รู้จักพ่อเดือนคณะพ่อเดือนมหาลัยบ้างว่ะ” “อ๋อ...ว่าแต่นายเป็นไรหรือเปล่าอะไรเสียหายไหม” “ไม่เป็นไรโว้ย...” “ว่าแต่นายมาทำอะไรหลังมหาลัยแบบนี้จะโดดเรียนหรอ?” “ตลกละนี้มันยุคไหนแล้ว...อีกอย่างนี้ไม่ใช่มัธยมทำไมกูต้องหนีเรียนว่ะ” “ก็เราจำได้ว่าคาบบ่ายวิชาเรียนรวมเราเรียนกับนาย” “ห่ะ?....” ตกลงไอ้หมอนี้มันจำผมได้งั้นหรอแล้วสรุปคือ... “อย่าบอกนะว่ามึงแอบตามกูมา” “เปล่าๆ...เราแค่จะผ่านมาเฉยๆ...แล้วนั้นนายจะเอาปลาทอดไปไหนอ่ะ” “มึงนี้สอดรู้สอดเห็นกว่าที่คิดนะ...อันนี้หรอกูจะเอาไปให้แมวที่ข้างสนามบาส” “แมวหรอ?” เดี๋ยวนะก่ะอีแค่แมวทำไมมันต้องทำตาวิ๊งอะไรขนาดนั้นด้วย ไอ้นี้มันเพี้ยนกว่าที่คิดอีก...นี้หรอเดือนคณะเดือนมหาลัย...เท่าที่ดูผมว่ามันติ๊งต๊องแน่ๆ ท่าทางก็ดูพูดไม่ค่อยรู้เรื่องไม่รู้สาวๆทั่วทั้งมหาลัยกรี๊ดไปได้ไง ก็อย่างว่าแหล่ะพออยู่ต่อหน้าคนเยอะๆมันก็วางมาดซ่ะเท่ห์เลย “เราขอไปดูแมวด้วยได้ไหม” “จะยุ่งทำไมเนี้ย” “นะๆๆๆ” “โถ่โว้ย...เออๆจะไปก็ไปแล้วห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครละ” “สัญญา” มีใครเขายังชูสามนิ้วสัญญาอีกว่ะสมัยนี้

               

          ผมไม่ได้อยากจะเป็นตัวเด่นและเท่าที่ผมจะพยายามได้ก็คือทุกครั้งผมต้องคอยหาที่สงบสุขเพื่ออยู่อย่างสบายอารมณ์บ้างแต่ไม่ว่าผมจะไปที่ไหนก็เหมือนเป็นเป้าสายตาของคนทั้งมหาลัยไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว หาที่จะพักแบบสงบอยู่นานก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งเท่าที่ผมจำได้เขาอยู่คณะเดียวกับผมเพียงแต่เราเรียนกันคนละสาขาเท่านั้นเองแต่ถ้าจำไม่ผิดผมมีวิชาเรียนรวมกับเขาแน่ๆ เขามักจะนั่งท้ายสุดของห้องที่ติดกับหน้าต่าง ไม่ก็ที่ไหนซักที่ที่สามารถแอบหลับได้ ผมก็อยากเป็นเหมือนเขาเช่นกันดูเหมือนชีวิตจะสงบสุขดีเหลือเกิน แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันไม่สามารถทำให้ผมเป็นเหมือนเขาได้ หลายครั้งที่ผมแอบมองเขาผมกับรู้สึกอยากเป็นเพื่อนกับคนคนนี้เหลือเกินแต่...เหมือนท่าทางเขาดูไม่อยากมีเพื่อนอย่างผมเอาซ่ะเลย แต่วันนี้ผมเห็นเขากำลังเดินหลบมุมตึกไปที่หลังมหาลัยผมเลยค่อยๆเดินตามเขามา  “จะไปไหนของเขานะ” แต่เหมือนจะเดินคลาดสายตาไปนิดหน่อยผมหาเขาไม่เจอเลยได้แต่มองซ้ายมองขวาก่อนจะถอยหลังไปชนกับใครบางคนเข้า และนี้แหล่ะครับจุดเริ่มต้นที่ผมจะได้พูดคุยกับเขา “นายมาที่นี้บ่อยหรอ”  “ก็ทุกวันมาเล่นบาสบ้างเอาอาหารมาให้จะเหมี่ยวบ้าง” “แล้วไหนละเจ้าเหมียว” “ใจเย็นดิว่ะ...เหมียวๆๆๆมากินข้าวเร็ววันนี้พี่ชายธีเอาปลาทอดมาฝากนะ” “นายชื่อชายธีหรอ” “เปล่า” “อ้าว...แล้วนายชื่ออะไร” “จะอยากรู้ไปทำไมว่ะ” “ก็จะได้เป็นเพื่อนกันไง...” “คนอย่างมึงเนี้ยนะจะมาเป็นเพื่อนกู...รอพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกก่อนไหม” “ทำไมอ่ะ...นายไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราหรอ” “มันก็ไม่เชิง...แต่มึงดูสภาพกูกับมึงนะต่างกันคนละโลกเลย...มึงกับไปเป็นเดือนที่คนชอบเยอะๆเถอะกูว่าเหมาะกับมึง” “ขอร้องละ...อย่าพูดแบบนั้นเลยนายรู้ไหมเราไม่ได้อยากเป็นเดือนอะไรนี่เลยนะวันๆไม่เคยได้มีความเป็นส่วนตัวเลย” “กูก็ไม่เห็นมึงจะอึดอัดตรงไหนก็ยิ้มหน้าบานตลอด” “ก็มันต้องฝืนทำไปวันๆแต่เดี๋ยวนะ...นายรู้ได้ไงว่าเรายิ้ม” “ก็...อ้าวเจ้าเหมียวมาแล้วนี้ครับปลาทอดกินไหม” คนตรงหน้าผมย่อลงไปอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมาลูบหัวเล่นด้วยความเอ็นดู “นี่นะพี่ชายธีแกะให้เอาก้างออกให้ด้วยหิวไหม...ทำไมไม่กินเลยละ” “เราว่าจมูกมันดูแห้งๆนะ” “เออ...แล้วมันเกี่ยวไรกับที่มันไม่กินปลา” “ก็พวกสัตว์อย่างน้องหมาน้องแมวถ้าจมูกแห้งมันหมายความว่าไม่สบายไง” “มึงรู้เรื่องแบบนี้ด้วยหรอ” ผมพยักหน้าให้คนตรงหน้าก่อนจะอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมาดูอีกที “เราว่าพามันไปหาหมอดีกว่าไหม” “มึงอย่ามายุ่งเรื่องของกูจะได้ไหมไหนบอกมีเรียนบ่ายไม่ใช่รึไง” “ก็เจ้าเหมียวไม่สบาย” “อันนี้มันเรื่องของกูมึงไม่ต้องยุ่ง” “จะเถียงทำไมไปเหอะ” “เฮ้ย!!..” ผมไม่รอให้คนหัวรั้นบ่นต่อก่อนจะอุ้มเจ้าแมวแล้วคว้าแขนอีกคนให้เดินออกจากหลังมหาลัยตรงไปที่รถของผมที่จอดใกล้ๆกับคณะทันทีโดยไม่ได้สนใจคนที่มองตามเลย นี้มันเหมือนกับว่าผมได้ทำอะไรตามใจตัวเองครั้งแรกเลยก็ว่าได้  ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยนี้มา

               

          ไอ้นี้มันบ้ารึไงอยู่ๆก็จับข้อมือผมลากให้เดินตามมาขึ้นรถว่าแต่มันจะพาผมไปไหนของมัน ใช่ซิมันบอกจะพาเจ้าเหมียวไปหาหมอ แล้ว...อะไรของมันว่ะเนี้ยแล้วดูสายตาคนที่มองตามผมกับมันมาซิเขาคงสงสัยว่าคนอย่างผมมากับเดือนอย่างมันได้ยังไงก็มันเล่นลากผมมาไม่แคร์สายตาคนเลย “ไอ้บ้านี้มึงจะลากกูไปไหน” “ก็พาเจ้าเหมียวไปหาหมอไง” “กูรู้แล้ว...แต่มึงจะจับข้อมือกูทำไมเนี้ยคนมองเต็มหมดแล้ว” “ก็กลัวนายไม่ไปด้วยไง” “แล้วไหนว่ามีเรียน” “โดดซักคาบคงไม่เป็นไรมั่ง” “ห่ะ?...” นี่แน่ใจนะว่าคนที่พึ่งต่อว่าผมเรื่องจะโดดเรียนแต่ไหงกลายเป็นมันละที่พาผมหนีเรียนซ่ะเอง “ขึ้นไปนั่งซิเดี๋ยวเราพาไป” “กูไปเองได้” “จะดื้อทำไมเนี้ยแถวนี้ไม่มีโรงพยาบาลสัตว์ใกล้ๆนะถ้าไปเองก็หลายซั่วโมงเดี๋ยวเราพาไปขึ้นทางด่วนหน่อยก็ถึงแล้ว” “มึงรู้จักพวกโรงพยาบาลสัตว์ไรด้วยหรอ” “ของพี่เราเองเป็นคลินิกเล็กๆเร็วเถอะ” “เออๆ...ใจเย็นๆนะเจ้าเหมียวเดี๋ยวพี่ชายธีพาไปหาหมอ” ไม่นานมากนักพอรถของไอ้หน้าหล่อลงจากทางด่วนได้ก็เลี้ยวเข้าซอยที่มีคลีนิคสัตว์เล็กๆอยู่ก่อนที่ผมจะอุ้มเจ้าเหมียวเดินตามมาลงไปที่คลีนิค “อ้าวไอ้กันต์น้องรักเป็นไงมาไงถึงมาหาพี่ได้ถึงที่ว่ะ” “พี่ออฟหวัดดีครับพอดีเจ้าเหมียวไม่สบายนะพี่” “ห่ะ?...แมวของมึงหรอว่ะ” “เปล่าพี่อันนี้แมวที่มหาลัย” “แมวที่มหาลัย?” “คือมันไม่สบายพี่ช่วยดูให้หน่อยนะ” “เออๆ...เอามานี้เดี๋ยวดูให้” “นั้นพี่ชายมึงจริงๆหรอ” ผมหันไปกระซิบถามคนที่พามา “เปล่าแค่ลูกพี่ลูกน้อง” “อ๋อ...” “เออชายธี” “ห่ะ?...เมื่อกี้มึงเรียกกูว่าไงนะ” “ก็ชายธีไง...เห็นนายแทนตัวเองตอนคุยกับเจ้าเหมียวอีกอย่างเราก็ไม่รู้จักชื่อนายด้วย” “ฟลุ๊ค” “ห่ะ?..” “กูชื่อฟลุ๊ค...” “ฟลุ๊ค...แล้วทำไมนายไม่เอาเจ้าเหมียวไปเลี้ยงที่บ้านละ” “กูอยู่หออีกอย่างเขาห้ามเลี้ยงสัตว์ด้วยกูเลยเอามันไปเลี้ยงไม่ได้” “อ๋อ...ช่วงนี้ฝนตกด้วยเจ้าเหมียวมันเลยไม่สบาย” “ก็คงงั้นมิหน้าละสองสามวันมานี้เอาอะไรให้กินถึงไม่ค่อยกิน” “แล้วแบบนี้นายจะปล่อยเจ้าเหมียวไว้อย่างนั้นหรอ” “ก็คงต้องฝากไว้ที่คลินิกรอมันหายดีค่อยพากลับไปที่เดิม” “ถ้างั้น...” “ไอ้กันต์ยังไงคงต้องพักแมวของมึงไว้ที่นี้ก่อนรอหายดีค่อยมารับมันกลับแล้วกัน...ว่าแต่นี้...????” “นี่ฟลุ๊คเพื่อนผมเองพี่” “เพื่อน?...ปกติกูไม่เห็นมึงมีเพื่อนที่ไหน” “หมอครับสรุปแมวผมเป็นอะไร” “แมวของน้องไม่เป็นไรมากหรอกแค่ไม่สบายเลยเบื่ออาหารแต่พี่ฉีดยาบำรุงให้แล้วเดี๋ยวสองสามวันก็คงดี” “ขอบคุณหมอมากนะครับ” “เฮ้ยไม่เป็นไรว่าแต่ทำไมแมวน้องถึงไม่สบายได้ละ” “ความจริงมันเป็นแมวจรจัดในมหาลัยครับผมแค่ไปคอยให้ข้าวให้น้ำเฉยๆ” “อ้าวหรอ...แล้วไม่เอาไปเลี้ยงที่บ้านละ” “พอดีฟลุ๊คอยู่หอนะพี่ออฟเขาห้ามเลี้ยงสัตว์” “งั้นมึงก็เอาไปเลี้ยงดิไอ้กันต์มึงก็ชอบแมวนี่” ผมหันไปมองคนข้างๆที่คุยกับลูกพี่ลูกน้องที่เป็นสัตวแพทย์ก่อนจะหันไปมองหน้าคนพี่อีกครั้ง “ไม่รบกวนดีกว่ามั่งครับ” “รบกงรบกวนอะไร...ถ้าน้องอยากไปหาเจ้าเหมียวเมื่อไรก็แค่ไปหามันที่บ้านไอ้กันต์แค่นั้นเอง...เอาละไปลงทะเบียนก่อนไปตกลงใครจะรับเป็นเจ้าของแล้วแมวชื่ออะไร” “ผมรับเป็นเจ้าของก็ได้พี่ออฟว่าแต่ลงทะเบียนนี้ต้องใช้ชื่อแมวด้วยหรอ” “อ้าวไอ้นี่มึงไปโรงพยาบาลยังต้องลงแล้วทำไมหมาแมวจะไม่ลงว่ะ” “ครับ...เออฟลุ๊คว่าแต่จะให้เจ้าเหมียวชื่ออะไรดีอ่ะ” “แล้วแต่ดิ...ก็ตอนนี้มึงเป็นเจ้าของมันแล้วนี่อยากให้ชื่อไรก็เรื่องของมึง” “งั้น...แรมโบ้แล้วกันมันจะได้ดูแข็งแรงด้วย” “เดี๋ยวๆมึงตั้งชื่อเนี้ยมึงรู้แล้วหรอว่ามันเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย” “รู้ดิก็เราจับโดนปีกาจูน้อยๆของมันตอนที่อุ้มดู” “มึงนี้มันจุ้นจ้านจริงๆเลยนะ” “จะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะ” ผมละงงกับชีวิตจริงๆทำไมตอนนี้ผมถึงต้องมาอยู่กับคนที่ผมไม่คิดว่าจะได้สนทนาด้วยเลยสักนิดที่สำคัญตอนนี้ผมกับมันเป็นเพื่อนกันแล้วหรอเนี้ย ไม่อยากจะเชื่อเล๊ยยยยยย..... 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา