ระเบียงรัก
เขียนโดย Bush
วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.06 น.
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2559 16.21 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
บทนำ
ใจเอย....ฮืม....หญิงพุดซ้อนนั่งกรองมาลัยไปรำลึกถึงชายใหญ่หรือหม่อมเจ้าตรีทศ ลักษณ์มันตร์ ผู้ชายรูปงามที่เมื่อวานบังเอิญ เธอไปเดินกระทบไหล่เค้า อย่างไม่ได้ตั้งใจ แถมตกใจเสียยกใหญ่ ตัวท่านเอง ได้แต่ หัวเราะอยู่ในลำคอ มองเธอเหมือนตำหนิกึ่งล้อเลียนเห็นเป็นเรื่องขบขันแถมพูดเหมือนกระซิบกระซาบอะไรสักอย่างกันกับเพื่อนชายคือ นายสุเทพที่มาด้วยกัน เสี่ยสุเทพมักมาที่นี่บ่อยๆ พุดซ้อนมาอยู่ที่นี่เดือนเศษยังเห็นมาแทบทุกวัน “หัวกะไดไม่มีแห้งฉันว่าแล้วเทียวเห็นมั้ยหญิงกลับมาเที่ยวนี้พ่อบอกแล้วว่าให้รีบกลับๆ เกือบเสียโอกาสแล้วเห็นมั้ย” คุณหญิงพฤกษ์ภิรมย์ รัศมีวงศ์ นั่งนิ่งมองหน้าปั้นปึ่งใส่ทันทีที่เห็นพุดซ้อนเดินถือถาดใบย่อมใส่ดอกมะลิ และกลีบกุหลาบมอญที่เด็ดออกเป็นใบๆ แล้วจับเป็นจีบกรองเป็นพวงมาลัยงามๆ เสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จักนำมาบูชาพระ ในห้องทำงานของเสด็จในกรมฯ พระบิดาของท่านชายพลวัฒน์ รัศมีวงศ์ ท่านพ่อของหญิงพฤกษ์ ที่ใครๆ ในพระตำหนักนนทบุรีแห่งนี้ เรียกขานเธอกัน ด้วยความยำเกรง ด้วยอารมณ์เธอปรวนแปรขึ้นลงไม่มีสาเหตุ แต่เล็กคุ้มใหญ่ หลายคนโดนเธอตบหน้าเช่นพุดซ้อนเมื่อวานนี้ก็มีหลายคนทีเดียว แต่ไม่มีใครกล้าหาญชาญชัยไปตบหน้าเธอกลับอย่างพุดซ้อนทำเมื่อวานเย็นหลังจากที่ท่านชายตรีหรือท่านใหญ่เสด็จกลับไปแล้ว
“นังพุดซ้อนนี่มันก็ลูกฉันจักทำยังไงได้มันตบหน้าน้องก่อน นังพฤกษ์สันดานมันยังงี้ต้องโดนตบกลับแบบนี้ซะมั่งก็ดีเหมือนกันกับฉันเองยังทำเป็นฝรั่งแหม่มกะปิจิจะๆ มันรู้มันลูกสาวติดท้องเธอมาแค่อาศัยใบบุญและนามสกุลฉันส่วนนังพุดซ้อนมันลูกในไส้ แม่มันนังพลอย เมียฉันแต่หนหลังครั้งอยู่ที่บางปะหันกรุงเก่าบรรลัยจักรแน่ๆ เพราะไอ้ใหญ่มันมาเอง มันมาบอกเรื่องนังพฤกษ์ มันสมคบกับฝรั่งผัวมัน ที่อยู่กินด้วยกันที่เมืองพระนครศรีอยุธยามิใช่ นครลอสแองเจลิส โธ่เธอฉันให้คนรถไปส่งมันให้ถึงมือไอ้กันนั่นเองทำเป็นไปอยู่ที่เมืองมะกันถุยไอ้ใหญ่มันว่าอีนี่ไม่ซื่อหักหลังเราป่นหมดแล้วให้รีบคิดหาทางหนีทีไล่กันไว้แต่เนิ่นๆ”
นิคมอุตสาหกรรมบางกระดีทำพิษเล่นเอาปวดเศียรเวียนเกล้า “หลวงมันมาไอ้กันผัวอีพฤกษ์มันอ้างว่าเงินฝรั่งลงทุน จักมาเอากำไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่เกินควร มาเก็บมานั่นมานี่จัดระเบียบก็จัดไปมันชอบเพราะคนไทยมันมักง่าย แต่ว่าค่าเช่าค่าออนค่าไฟน้ำโทรศัพท์มาเก็บมันทำไม ในเมื่อเงินพวกมันลงทุนกันเอาไว้เอง.... โรงจิวเวลรี่นั่นไง แล้วก็อะไหล่คอมพิวเตอร์ของไอ้จอบบิลนั่นนะ”
นายพลวัฒน์หรือเฮียพลนั่งนิ่งฟังไปพักใหญ่ๆ พลางยกมือขึ้นเหมือนขัดจังหวะให้หยุดพูดแต่ยังไม่วายรักษากิริยาแบบเจ้าผู้ดีเมืองอังกฤษ “นังแม่ของมันนังขวัญภิรมย์มันเจ้ากี้เจ้าการดี มันเป็นคนดูแลในนามหม่อมของฉันคุณแม่ของหม่อมราชวงศ์หญิงพฤกษ์ภิรมย์แต่ว่ามันแกล้งบ้ามากกว่า เพราะมันรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรมายังไงไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันรับเป็นธุระจัดการเองจัดมาเยอะแล้ว ยิ่งกว่านี้ยังจัดการเรียบวุธหมดไม่ต้องห่วง บอกไอ้บิลมันว่า กูขอโทษไม่ต้องจ่าย”
รถคันยาวหรูหราโก้สีดำสนิทจอดนิ่งสักพักกระจกข้างรถเลื่อนตัวลงด้วยระบบอัตโนมัติ “พุดทำอะไรคุยอะไรกันอยู่กับท่านใหญ่ สนุกมั้ยลูก... ท่านเข้ามาคุยกับพี่ข้างในตัวเรือนใหญ่หน่อยไม่ทราบจะขัดจังหวะหรือเปล่า... สักพักก็ได้พี่เพิ่งเข้ามาอย่างที่ท่านเห็น คุยกันไปก่อนแต่อย่าช้านักพี่มีเรื่องสำคัญคุยกับท่านไม่นานสิบนาทีไม่เกินนี้....” กระจกรถเลื่อนขึ้นไปเหมือนเดิม รถเคลื่อนไปข้างหน้าตรงไปจอดหน้าเรือนใหญ่กึ่งยุโรปครึ่งตึกครึ่งไม้สวยงามหรูหราน่าพักอาศัย รอบบ้านร่มรื่น เต็มไปด้วยพฤกษาในวรรณคดี ส่งกลิ่นหอมตรลบไปทั่วบริเวณทั้งทิวาแลราตรี
“สวรรค์ดีๆ นี่เองมิน่าแม่พุดถึงเจริญอาหารอ้วนขึ้นนะแก้มยุ้ยเทียวไหนลองดมสิหอมเหมือนดอกไม้รึเปล่า” ท่านใหญ่จูบแก้มพุดซ้อนดังฟอดอยู่หลายฟอดเล่นเอาสาวเจ้าอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขน “เล่นไม่ยากน่าสงสารวางท่าใช่ว่าไม่รู้ไร้เดียงสาเป็นเด็กดีล่ะมึ้งไอ้พลลูกสาวในไส้เทียว” ตรีทศคิดเข่นเขี้ยวในใจเพราะหาโอกาสแก้แค้นแบบนี้มานานแล้ว เมื่อได้จังหวะจึงต้องรีบชิงลงมือให้มันรวบรัดตัดความ เร็วที่สุดเท่าที่จักเร็วได้ “ไม่มีเวลากับพวกมึ้งมากนักหรอก ทำอย่างอื่น มีคุณประโยชน์กว่าเยอะ ไพร่สะถุน วางท่าซ้า น่าหมั่นไส้” ระเบียงรักก่อเกิดทายาทรักของสาวพุดซ้อนขึ้นมาด้วยเหตุแห่งแค้นเคืองเยี่ยงนี้ในเวลาต่อมาถึงสองหน่อองค์โอรสแลธิดาแน่นอน หม่อมราชวงศ์ตรีเทพ และหม่อมราชวงศ์ตรีนุช ลักษณ์มันตร์ งาม หล่อ สมาร์ท รวย แลสืบทอดเจตนารมย์ท่านบิดา ลึกซึ้ง น้ำนิ่งไหลลึก ลื่นไหลจับไม่ติด แม้กระทั่งธิดาท่านเลยทีเดียว.... “ตามันใครพ่อมันใครไม่ใช่ยังงี้กูให้ฆ่า” หลายคนแกล้งว่า แกล้งท้าทาย....ซ้ำไปอีก....เด็กคลื่นลูกใหม่มันเลวร้ายลง คนสมัยนี้ร้ายกาจมากขึ้น ทุกวันทุกวี่เรื่องธรรมดาสามัญ
ปี ค.ศ 1816 กันยายน วันอาทิตย์ต้นเดือน เสียงเพลงแบบฝรั่งเศสประสานกับเสียงบรรเลงเครื่องสายประสมวงแบบขอมดังผสานเสียงคุยเล่นเย้าแหย่กัน เป็นภาษาฝรั่งเศส สำเนียงกัมพูชา ของท่านหญิงท่านชายในวังพนมเปญ ศาลาประชุมใหญ่ เช้าตรู่อากาศกำลังแจ่มใส แถมเป็นวันหยุด อาหารฝรั่งเศสรสเลิศ บรรจงจัดขึ้นหลายเหลือตรา
“ยามกินอยู่แม้เป็นฝรั่งยังไม่พิถีพิถันเยี่ยงนี้ จักแกะสลักเสลาเสียงาม ไม่กล้าเคี้ยวเทียวรึ ดูสิ มองสิเออร์...แค่ผักสลัดทำเป็นใบไม้เหมือนจังเลย”
เสียงมาดมัวแชลท่านหนึ่ง ท่านพูดขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศสแบบธรรมชาติ ผมยาว เป็นพวงหางกระรอกรวบตึงบนหนังศีรษะ ติดกิ๊บมีพลอยวับแวมประดับไว้พอเรียบๆ แต่ดูเก๋ มีรสนิยม ง่ายๆ สบายๆ ตามแบบฉบับนิสัยของท่านภริยาทูตชาวฝรั่งเศสท่านนี้ เสียงปืนดังกังวานก้องออกมาจากภายในพระตำหนักที่กำลังมีงานเลี้ยงรับรองคณะทูตานุทูต บรรดาทหารมหาดเล็กจำต้องวิ่งกรูกันออกมา เพื่อรักษาความสงบ และปฏิบัติหน้าที่อันควรจะกระทำ แต่ในเวลานั้นท่านหัวหน้ามหาดเล็กกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามนั่นคือ
“เก็บซากมันไปให้หมด....อำพราง...อย่าให้มีการพบเห็นได้แม้แต่ซากเดียว”
เสียงสั่งการของ ท่านชายเขมรินทร์ อินทุรัม ท่านรักษาหน้าที่หัวหน้ามหาดเล็กหุ้มแพรให้กับเหนือหัวแห่งองค์กษัตริย์อังกอร์ที่เพิ่งสวรรคตไปในฐานะพระโอรสที่เกิดแต่นางพระสนมชาววังในอดีต ท่านพระมารดาของท่านมิใช่พระมเหสีเทวีเจ้า เช่น ท่านผู้เพิ่งสิ้นพระชนม์ลงตรงหน้า ทั้งๆ ที่ยังมิได้ เสวยราชย์อย่างถูกต้องตามพิธีการแลธรรมเนียมของที่นั่น
หลายท่านเลยจำต้องเผ่นโผนมาโจนทะยานอยู่ที่เมืองพระนครบางกอกแทน เช่น มิสเตอร์รอยด์ บรัดเล่ย์ พวกแอนเดอร์ ปีเตอร์สัน หรือปิแอร์สัน.... นักเขียน นักข่าว นักเล่านิทานที่มีความสามารถอย่างชนิดหาตัวจับยาก... “ฉันถนัดนักเรื่องเล่านิทานโกหกพวกเจ้าชายเจ้าหญิง....ปราสาทราชวัง....อุ้ยมาเถิดมาฟัง....ขำจริงเว้ย”
ท่านปิแอร์ผู้นี้ท่านมีอารมณ์ขันเวลาพี้ยาเสร็จ ท่านมักจะกระทำการเล่านิทานแบบประหลาดล้ำ แต่เทียบเคียงกันคนในสมัยใหม่อย่างพวกเราแล้ว พวกท่านจัดอยู่ในระดับคนที่ดีมากทีเดียว.... ท่านหญิงท่านชายกัมพูชาหลายท่านย้ายจากที่นั่นมาเจริญพระชนม์ที่นี่ต่อ และมีท่านหญิงลูกครึ่งฝรั่งเศสเลือดประสมกัมพูชาท่านหนึ่งด้วยท่านทรงมีพระอุปนิสัยแก่นเซี้ยวแบบเด็กฝรั่ง เค้าใบหน้าสวยแบบแหม่ม ท่านมีความรู้ พูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีท่านจึงเป็นที่ต้องตาต้องใจในหลวงของเราในสมัยรัชกาลที่ห้านี่ล่ะครับ แล้วท่านมีลูกมีหลานมีเหลนรุ่นเรานี่ล่ะ รุ่นเหลนโหลน ของท่านแล้ว เรียกว่า ออกมางาม หล่อ สมาร์ท นิสัยฝรั่ง มีหลายท่านยังมีชีวิตอยู่แต่มักจักใช้นามสกุลฝรั่งเศสแต่ดั้งเดิมของท่านเอง หลายท่านมักจักสมรสกับฝรั่ง น้อยคราว..นักหนาเอย ที่จะมีคนไทยได้มีโอกาสมาแจมเป็นเขย หรือมาเป็นสะใภ้....ของสายทางท่านผู้นี้.... “คนไทยนิสัยช่างนินทา ริษยา พูดกระแหนะกระแหน ไม่ชอบ.....” พวกท่านเลยไม่ค่อยมาสมรสด้วยสักเท่าไร น้อยมากแทบจักไม่มีเหลือเค้าความเป็นหน้าตาแบบเอเชียด้วยสาเหตุนี้เอง....ทั้งๆ ที่ต้นตระกูลเป็นลูกครึ่งลูกประสม....แต่แรกมาอยู่ที่นี่
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ