แกล้งรัก [Yaoi/BL] NC
เขียนโดย CST_Effect
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.29 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559 18.57 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
3) NC ตอนที่ 10 ไม่อยากเป็นลูกแมว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 10 ไม่อยากเป็นลูกแมว
“ฟ่างพี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม” ผมพูดออกไปขณะที่เรากินข้าวกันอยู่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาประมาณที่ยงจากข้าวเช้ามาเป็นข้าวเที่ยงเพราไอ้เหี้ยนั้นแท้ๆ
“ได้ครับ ว่ามาเลย”
“คนที่เจอเมื่อตอนเช้ามันเป็นใคร”
.
.
.
เมื่อได้ยินเสียงของร่างหนาพูดจบร่างเล็กที่กำลังกินข้าวที่ตัวเองเป็นคนทำเองอย่างสุดฝีมือเพื่อคนรัก ก็เงียบลงทันตา
“.....”
“ฟ่างไม่อยากบอกกไม่เป็นไร”
“..เขาเป็นคนที่ฟ่างเคยรู้จัก เขาเป็นคนที่เลวที่สุดตั้งแต่ฟ่างเจอมา..”
“ใจเย็นๆ ไม่เป็นไรไม่ต้องพูดแล้วนะ” ภูริภัทรพูดเสียงเสียงอ่อนเมื่อเห็นว่าตัวของคนที่อยู่ตรงข้ามมีอาการสั่นเทา ไม่ใช่อารมณ์ที่เสียใจเพราะเขาดูออก แต่เป็นความโกรธ และ เกลียด ซึ่งเขาไม่อยากได้ความรู้สึกนี้มาจากร่างบางตรงหน้าของเขาเลย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ร่างเล็กยิ้มรับก่อนจะกล่าวถ้อยคำที่มีความหมายเป็นการเชื่อใจแต่ถ้อยคำเหล่านี้กลับบาดใจแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเหลือเกิน “เพราะว่าผมเชื่อว่าเป็นคนดีและจะไม่ทำอย่างนั้นกับผม ..เหมือนที่เขาทำ”
“เขาชื่อทัพครับ ตอนแรกผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วผมก็ชอบเขาเพราะเขาทำให้ผมคิดอย่างนั้น วันสุดท้ายผมเลยตัดสินใจไปบอกชอบเขา.. รู้ไหมครับสิ่งที่ผมได้กลับมาคืออะไร เขาหัวเราะออกมาแล้วบอกว่าเรื่องทั้งหมดนั้นนะเขาเป็นคนหลอกผมมาตั้งแต่แรก ฮึก..”
“ฟ่าง..”
“ฮึก.. เขาโกหกผม เขาหลอกผม คนในโรงเรียนนั้นเอาแต่หัวเราะเยาะ ว่าผมโง่ บ้า ..ใครจะมาชอบคนอย่างผม ฮืออ..”
“ฟ่าง พอ พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว พี่เข้าใจแล้ว ชูววว หยุดร้องนะ” พี่บูมเข้ามากอดผมไว้อย่างอ่อนโยนพร้อมลูบหัวปลอบประโลมให้ผมนั่นหยุดร้อง
“พี่นี่ไงที่รักฟ่าง อย่าร้องเลยพี่ไม่อยากเห็นน้ำตาของฟ่างที่มาจากความเสียใจ พี่อยากเห็นน้ำตาของฟ่างในวันที่มีความสุข อย่าร้องนะครับลูกแมวของพี่”
“ฮ่ะ ฮะ.. ไม่ร้องแล้วครับ อึก.. ไม่เป็นลูกแมวได้ไหม”
“ทำไมละ พี่ว่าเราน่ะเหมือนลูกแมว” ขอบคุณนะที่ทำให้ผมยิ้มได้ ขอบคุณ
“ไม่เอา ฮะๆ ฟ่างไม่อยากเป็นลูกแมว”
“แล้วลูกแมวของพี่อยากเป็นอะไร” ภูริภัทรพูดพร้อมกับนำนิ้วชี้เขี่ยที่ปลายจมูกของร่างบางเบาๆ
“หือออ...” ร่างเล็กเอียงหน้าหลบเพราะรู้สึกจักจี้ “ฟ่างอยากเป็นแม่แมว”
“ฮ่าๆๆ ได้ อย่างนั้นเราต้องมาทำลูกกันก่อน” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ยิ้มร่ามีความสุข
พูดไปแล้วก็อายแต่ทำไงได้ตัดสินใจไปแล้ว รักคนนี้ไปแล้ว
ร่างสูงช้อนร่างของร่างเล็กเข้ามาที่ห้องนอนของทั้งสองที่ใช้เวลาร่วมกันมาครึ่งปี ในท่าที่ร่างของภูริภัทรคร่อมร่างของชณาณัฐไว้ด้วยท่าทางที่อ่อนโยน มือของร่างสูงเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากของร่างบางนั้นออกพร้อมกับลูบที่ศีรษะเบาๆ
คงเดาถูกกันใช่ไหมครับว่าผมจะทำหน้าตายังไง -//////- นี่มันกลางวันแสกๆเลยนะ
“พี่บูม..ฟ่างว่า”
“ครับ” อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิครับเดี๋ยวผมก็เคลิ้มหรอก
“ฟ่างพูดเล่น พี่บูมอย่าถือสาฟ่างเลยนะ นะ เราไปดูหนังกันดีกว่านะ” ใช้ไม้นี่น่าจะรอดจากสิ่งที่ตัวเองเผลอพูดอะไรบ้าๆเมื่อตอนนั้นได้
“ทำไม ไม่อยากเป็นแม่แมวแล้วเหรอ พี่ทำให้ได้นะ” มันทำกันได้ซะที่ไหนกันเล่า
“ไม่ๆ ฟะ..อืออ” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบพี่เขาก็ชกชิมริมฝีปากของผมไปครองเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่จูบที่พี่เขาเคยจูบทุกครั้งที่พี่เขาทำจะเอาแค่ริมฝีปากมาชนกัน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่พี่เขาเอาลิ้นเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นของผมไว้ด้วยและจูบซับเบาๆ มันทำให้ผมละลายได้เลย เหมือนว่าตอนนี้ผมกำลังเคลิ้มและหลอมตัวเข้ากับตัวเขาอย่างจัง
เมื่อผมเริ่มหายใจไม่ออกผมก็ทุบเข้าไปที่ออกของพี่เขาไปหลายครั้งและเพิ่งสังเกตได้ว่าตอนนี้พี่เขาไม่ได้มีเสื้อที่ใส่บนตัวเลย
“อืออ..อื้ออ” ผมครางท้วงพี่เขาอีกครั้ง
“ไม่ต้องกลัว พี่จะอ่อนโยนกับเรา” เมื่อขาพูดจบเขาก็เริ่มถอดเสื้อผมออกเมื่อเสื้อหลุดออกผมก็เลยจับบ่าของเขาไว้ เกาะเหมือนกับว่าที่ตรงนี้เป็นที่พึ่งที่สุดท้าย
ผมเชื่อใจเขา..
ร่างกายของผมเหมือนจะหดเล็กลงไปถนัดตาทำให้เขาสามารถถอดกางเกงที่ผมใส่อยู่ถอดออกไปได้อย่างง่ายดาย เขาเริ่มจากการก้มลงมาจูบที่หน้าผากแล้วไล่ลงมาตามจมูก แก้ม ปาก และลำคอ ทำให้ผมรู้สึกจักจี้จึงเอียงคอหลบไปมา มือพี่เขาก็ไม่อยู่นิ่งซึ่งลูบขึ้นมาเบาๆตั้งแต่ข้อเท้าจนตอนนี้เขาหยุดอยู่ที่ต้นขาแล้วผละเป็นเชิงว่าให้ผมแยกขาออก
“ไม่ต้องเกร็ง” ผมได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ
ภูริภัทรมองร่างเล็กที่เขากับลังคร่อมอยู่ตอนนี้ด้วยสายตาที่อ่อนโยน มองภาพร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังตาเยิ้มด้วยน้ำตาที่คลอดเบาออกมาเพราะความกลัว ร่างกายที่สั่นเทาเหมือนลูกแมวที่เพิ่งคลอดใหม่
เขาใช้มือคลึงที่ช่องทางรักของร่างบางอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยดันนิ้วกลางเข้าไปอย่างช้า
“อื้ออ..พะ..พี่บูม เจ็บ” คนตัวเล็กจิกเข้าที่ไหล่ของร่างสูงไว้อย่างแรกเพราะตกใจกับสิ่งที่มาลุกล้ำช่องทางที่ไม่เคยมีผู้ใดมาทักท้วง
“ ผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็ง” แล้วเขาก็หมุนวนนิ้วกลางนั้นเพื่อให้เจอจุดกระสัน
“จะ..เจ็บ...อื้ออ อะ” ร่างสูงส่งนิ้วที่สองเข้าไปในช่องทางรักอีกนิ้วพร้อมกับหมุนวนหาจะที่จะทำให้ร่างเล็กครางเหมือนเดิม
“อืออ อะ อ่า” เมื่อเห็นว่าร่างกายของร่างเล็กเริ่มพร้อมแล้วเขาก็ถอนนิ้วทั้งสองนิ้วออกแล้วส่งแกนกายเข้าไปแทน
“อื้มมมมม” เขาพึงพอใจกับร้างกายของร่างเล็กแม้เพียงเข้าไปแค่ส่วนแรก
“อือ พออ.. เจ็บ” ร่างเล็กพูดขึ้นเมื่อรู้สึกเจ็บเมื่อมีสิ่งที่ใหญ่โตลุกล้ำเข้ามา
“ให้พี่หยุดไหม” คนตัวโตถามด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากเสียงที่ร่างเล็กเปล่งออกมามันทำให้เขาสงสาร แต่คำเป็นจริงแล้วเขาก็ไม่อยากหยุดเพราะตอนนี้เขาทนไม่ได้แล้ว แม้ว่าเจ้าลูกแมวของเขาตอนนี้จะดูน่าสงสารแต่เสียงกระเส่า เสียงหอบหายใจกับมือเล็กที่จับบ่าเขาอยู่ตอนนี้เหมือนกำลังยั่วกันอยู่อย่างไงอย่างนั้น
“อือออ..มะ ไม่” เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็เริ่มขยับแกนกายเข้าไปสุดลำตัว
“อึก!” เขาขยับร่างกายไปตามจังหวะที่เนิบนาบ แต่ทำให้ร่างเล็กที่อยู้ภายใต้ร่างของเขาครางเสียงหวานๆได้
“อ่ะ..อ่า อืออ” จังหวะการขยับตัวที่ร่างสูงได้มอบให้ทำให้ร่างเล็กรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อะ..อืออ พี่บูม”
“เรียกบูมสิ บูมเฉยๆ”
“..บะ บูม บูม อื้ออ” เมื่อได้ยินเสียงเล็กพูดชื่อตัวเองเขาก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น
“บูม ..อะ อ่า..รัก” เมื่อสิ้นสุดคำนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดออกมาพร้อมกัน
“หื้ม..เหนื่อยแล้วเหรอ” พี่เขาจ้องหน้าผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเจ้าเล่ห์
“...”
“อีกสักสองสามรอบนะ” อยากพูดออกไปดังๆว่าพอได้แล้วแต่ห้ามตอนนี้คงไม่ทันซะแล้ว
“อือ..โอ๊ยย” เมื่อจะขยับตัวก็รู้สึกเจ็บที่ช่วงล่าง นี่นอนไปกี่ชั่วโมงแล้วเนี่ย หิวจัง
“ฟ่าง เป็นไรรึเปล่า เจ็บมากไหม” พี่เขาโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ รู้สึกว่าเขาจะทำความสะอาดตัวให้ผมด้วยเพราะรู้สึกไม่ได้เหนียวตัวและหลับได้สบายมาก
ถามอย่างนี้จะให้ตอบยังไงเล่า..ไม่ ไม่ ไม่ ยังไม่ชินกับพี่เขาตอนนี้เลย อยู่ๆก็รู้สึกอายมาซะงั้น
ผมไม่ตอบพี่เขาออกไปแต่ก้มหน้างุดจนคางจะชิดกับคออยู่แล้ว ได้โปรดออกไปก่อนเถอะครับ ตอนนี้ผมอายจะแย่อยู่แล้ว
“...”
“เจ็บเหรอ ขอโทษนะ พี่จะไม่..” ผมรู้ว่าพี่เขาจะพูดอะไรออกมา ไม่อยากให้เขาคิดมากเป็นเพราะผมเองนี่แหละที่ทำตัวเอง
“เปล่าครับ” ถึงจะตอบอย่างนั้นออกไปแต่พอจะก้าวขาลงจากเตียงความเจ็บก็จี๊ดขึ้นมาซะได้ “อะ..”
“อย่าดื้อน่าแม่แมว” -//////- “นอนอยู่นี้แหละ พี่สั่งข้าวขึ้นมาแล้ว” รู้สึกไม่ชินจริงๆแหะ ทำไมร้อนแปลกๆ
ตอนแรกพี่เขาจะเอากับข้าวมาทานที่ห้องนอนเลยครับแต่ผมห้ามเอาไว้ก่อน ผมไม่ได้อ่อนแอหรือเจ็บอะไรมากขนาดนั้นที่จะลุกออกไปไหนไม่ได้ ถึงครั้งแรกที่เขาพูดกันมาว่าเจ็บมากแล้วยิ่งผมเป็นผู้ชายด้วย แต่มันก็ค่อนข้างแปลกใจสำหรับผมเหมือนกันเพราะไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแต่รู้สึกดีมากกว่า คิดถึงเรื่องนั้นแล้วก็อายขึ้นมา
“พี่บูมฟ่างกินเองได้น่า”
“พี่อยากป้อน”
“ฟ่างไม่ได้ป่วยนะ หยุดเลย”
“ไม่ได้ป่วยหรอกแต่ครางบ๊อยบ่อย”
“พี่บูม!” เพี๊ยะ เพี๊ยะ “นี่แหนะ หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลย” ผมตีที่แขนเขาแบบไม่ยั้งมือ ใครบอกให้พูดจาลามกเวลากินข้าวอยู่ (เกี่ยว?)
“โห้ มือหนักนะเนี่ย พอแล้วจ่ะเมีย” เมีย คำพูดสุดท้ายของคำพูดทำเอาผมหน้าชาไปสักพักไม่ใช่เพราะโกรธแต่เป็นเพราะแปลกใจและเขินอายกับคำพูดของเขามากกว่า เพราะเขาไม่เคยพูดคำนี่มาก่อน
“อ่าว เงียบเลย งั้นพี่ไม่พูดแล้วก็ได้”
“ดีแล้วครับ” ผมตอบกลับพี่เขาด้วยรอบยิ้มกวนซึ้งเมื่อพี่เขาที่หน้าผมทำอย่างนั้น เขาก็ทำหน้าตางอนผมอีกทีไม่วายที่จะส่งมือเจ้าเล่ห์มาหักนิ้วผมให้เกิดเสียงดัง เป๊าะ!
“พี่บูม ฟ่างเจ็บน๊า”
“ฮะ ฮะๆ” เขายิ้มจนไม่เห็นแม้แต่แววตาที่ใครๆต่างหลงเสน่ห์ มีความสุขมากสินะ
“เลิกเล่นได้แล้วครับ ฟ่างมีเรื่องจะพูดด้วย”
“โอเคๆ หยุดแล้วครับ” รู้สึกว่าตั้งแต่ที่เราเพิ่ง เอ่อ..มีอะไรกัน เขาจะยอมและฟังผมมากขึ้นซึ่งเพิ่งผ่านมาไม่นานและยังไม่ผ่านไปถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ
เขานี่..แปลกจริงๆเลย
“อีกสองวันฟ่างจะกลับบ้านนะครับ”
“อีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยไปไม่ได้เหรอ” เขาว่าแต่ผมอ้อนเหมือนแมว แต่ตอนนี้ท่าทางของเขาไม่ต่างจากแมวตัวโตที่กำลังอ้อนเจ้าของเลย
“ไม่ได้ครับ”
“...” เห็นเขาเงียบแบบนี้แล้วใจคอไม่ค่อยดีเลย
“..พี่บูม”
“งั้นพี่ไปด้วยนะได้ลูกสาวเขามาเป็นแฟนแต่ไม่ไปหาพี่แม่เขานี่ก็ยังไงอยู่” เขานี่จริงๆเลย
“จะไปจริงเหรอครับ” ที่ผมถามแบบนี้เพราะไม่คิดว่าเขาจะไปจริง ผมคิดว่าเขาคงพูดเล่นไปอย่างนั้น ถ้าไปจริงแม่คงดีใจมากแน่ๆเพราะบ่นอยากเจอพี่เขาตอนที่ผมโทรไปหาบ่อยๆ แต่กับพ่อนี่ไม่มั่นใจเอาซะเลยถึงพ่อของผมจะยอมรับแต่เขาก็โหดและหวงผมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
“จริงสิ ไปกันวันนี้เลยดีไหม” เขาพุดจบก็เขามาหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว
“อื้อ อย่าพูดเล่นสิครับ”
“พี่พูดจริงนะ พี่อยากไปเที่ยวด้วย”
“งั้นฟ่างจะเป็นไกด์ให้พี่บูมเลย ฮะๆ”
“ได้ครับ พาพี่ไปเที่ยวทุกที่เลยนะ”
ตืดดดดด ตืดดดดด ตืดดดดด
[ เพียว ]
“เพียว ว่าไง”
“สบายดีเว้ย จะถามว่าจะกลับบ้านวันไหน”
“เราว่าอีกสองวันจะกลับ กลับด้วยกันไหมเพียว”
“ก็อยากไปด้วยนะ แต่เสียใจด้วยครับกระผมมาถึงที่บ้านแล้วเรียบร้อย”
“อ่าว กลับวันไหนอ่ะ ไม่บอกกันเลย”
“นานแล้วละตั้งแต่ปิดเทอม ..คิดถึง”
“อย่าทำเสียงเศร้าสิ เป็นอะไรรึเปล่า”
“ปะ...เปล่า ไม่มีอะไร เอ่อ แล้วจะกลับมาคนเดียวรึไงจะหิ้วใครมาด้วยรึเปล่าไอ้ตัวดี”
“พูดเหมือนรู้เลย ฮะๆ พี่บูมเขาจะไปเที่ยวด้วยน่ะ”
“ว่าแล้วไง งั้นถ้ามาถึงแล้วบอกนะจะไปหาที่บ้าน”
“โอเคคร้าบบ”
“คุยกับใคร ฟ่าง” เสียงเข้มมาเชียว
“คุยกับเพียวครับ”
“จะกลับกับเราด้วยเหรอ”
“ตอนนี้เพียวเขาอยู่ที่บ้านแล้วละครับตั้งแต่ปิดเทอมเลย เพียวจะไปเที่ยวกับเราด้วยนะครับ”
“ดีเลย เมื่อกี้ไอ้ไม้โทรมาชวนพี่ไปเที่ยวแต่พี่บอกไปว่าจะอยู่กับเมีย มันด่ามาชุดใหญ่พี่ก็เลยชวนมันไปเที่ยวด้วยกัน” มะ..เมีย หลังจากที่ได้ยินคำนี้หูผมก็เหมือนดับไปเลยครับ ไม่ได้ยินอะไรที่พี่เขาพูออกมาเลย
“อ่อ..คะ..ครับ -/////-”
“เพื่อนพี่ไปด้วยได้ใช่ไหม”
“..คะ ครับ”
“ฟ่าง! ฟ่าง เป็นไร”
“เปล่าครับ” ผมไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่เขินพี่เท่านั้นเอง
เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เจอกับครอบครัวของผม หวังว่าจะเรื่องเรื่องราวที่ดี และการที่เราไปเที่ยวด้วยกันครั้งนี้มันคงจะเป็นความทรงจำที่ดีมากเลยทีเดียว
..ผมหวังว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้น
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ