แกล้งรัก [Yaoi/BL] NC
เขียนโดย CST_Effect
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.29 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559 18.57 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) NC ตอนที่ 12 พิษของรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 12 พิษของรัก
จาร์
“แม่งเอ้ย!!” เสียงสบถดังกลางร้านเหล้า เขามาปล่อยใจให้กับน้ำเมาเพื่อลดอาการเจ็บปวดทางจิตใจ เฝ้ามองมาตลอดแต่ไม่กล้าพอที่จะบอกความรู้สึก เลยทำให้ของที่มีค่าที่สุดตกอยู่ในมือของคนอื่น
“ถ้ามึงทำให้ฟ่างเสียใจกูไม่ปล่อยแน่” ผมกำหมัดแน่นนึกภาพที่เจอไปเมื่อตอนที่เจอกัน รอยยิ้มสดใสของฟ่างที่เข้ามาถามทางเข้าคณะ มันยังอยู่ในความทรงจำ ทั้งที่สัญญาไว้กับตนเองว่าสักวันหนึ่งต้องบอกเขาให้ได้
“เฮ้ยๆ ไอ้บาสมาแล้วเว้ย” เสียงดังจากโต๊ะข้างๆ ทำให้ผมหันไปมอง
“นัดแล้วต้องมาสิวะ” แล้วก็หันกลับไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ สิ่งที่ผมสนใจตอนนี้ก็คือเหล้าตรงหน้า
“ไอ้บาสพี่บูมคบกับใครอยู่รึเปล่าวะ? เดี๋ยวนี้แม่งไม่มาเลี้ยงเหล้าพวกกูเลย ติดเมียแน่ๆ”
“ไม่เชิงเมียวะ ฮะๆ” เสียงจากคนที่เพิ่งมาทำให้ผมหันไปมองอีกครั้ง
“ยังไงวะ?”
“เนี่ยดู แล้วจะเล่าให้ฟัง” คนนั้นควักโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดหาอะไรบ้างอย่างให้กับเพื่อนที่นั่งอยู่บนโต๊ะดู
“ชื่อฟ่างเว้ย อยู่ปี 2 เรียนเภสัช ม.เรานี่แหละ” นี่มันชื่อของเพื่อนของเขาไอ้พวกนี้มันรู้จักฟ่างได้ยังไง
“น่ารักว่ะ นี่เหรอเมียพี่บูม”
“ก็เออ แต่พี่กูไม่ได้รักแค่หลอกเฉยๆ แม่งแผนแต่ละอย่างกูจะเล่าให้ฟัง ...” แต่ละอย่างที่มันพูดมาผมกำหมัดแน่นได้แต่อดทนไว้
“ถ้าเขาตอบตกลงเมื่อไร พี่กูจะได้ของพนันแต่กูไม่รู้ว่าเป็นอะไรมันแม่งไม่บอก”
“เชี่ย พี่บูมแม่งอย่างเหี้ยเลยวะ นับถือๆ”
“สัส นั่นพี่กู ยังไงมันก็ช่วยเรื่องที่กูไม่ต้องหมั้น” ผมอดทนจนรู้เรื่องทุกอย่างถ้าฟ่างรู้ความจริงจะเป็นยังไง เมื่อรู้ว่าคนที่เขารักทำกับเขาอย่างนี้ ทนไม่ไว้แล้วเว้ย
“เฮ้ยมึง กูไปก่อนนะงานแม่งยังไม่เสร็จเลยแวะมาหาเฉยๆ”
“เออๆ” หึ บอกลากันให้พอ
“มึง!” ผมสะกิดคนที่อยู่ข้างหน้า
“เฮ้ยทำไรวะ อะไรของมึงวะเนี่ย” มันหันมาคงคิดว่าเป็นเพื่อนตัวเองแต่ผมล็อคคอมันไว้แล้วลากมันขึ้นมาที่รถ
“ไอ้เหี้ย มึงเป็นใครวะ สัสปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว้ย”
“เงียบ!!” ท่าทางจะกลัวไม่น้อยเลยนี่
“กูจะไม่เอาเรื่องมึงหรอกนะ กะ..กูว่ามึงจำคนผิดหรือไม่ก็จับมาผิดตัว กูไม่เคยมีเรื่องกับใครนะเว้ย”
“ใช่มึงไม่เคยมีเรื่องกับใครหรอก แต่พี่มึงน่ะจะมีเรื่องกับกูแน่!!” จากนั้นผมก็ชกที่ท้องมันจุกมันนิ่งแล้วสลบไป
“อือ” ผมจ้องมันที่นอนอยู่บนเตียงของผมท่าทางจะนอนสบายนี่หลับไปตั้งสองชั่วโมงเลยนี่ ผมยกเท้าเขี่ยที่ตัวมันสองสามทีจนมันรู้สึกตัวและลืมตาขึ้น
“เฮือก มึงเป็นใคร! ทำแบบนี้กับกูทำไม!” ตื่นมาก็หยาบคายเลยนะครับเหมือนพี่มึงไม่มีผิด
“จุ๊ๆ ขอตอบทีละคำถามนะครับ” ผมเดินเข้าไปหามันช้าๆ นั่งลงที่เตียงข้างๆมัน
“กูเป็นใครมึงไม่ต้องรู้หรอกเพราะกูไม่อยากให้มึงรู้จักกูเท่าไร”
“...” ตอนแรกที่มองมันตัวมันก็ไม่ได้เล็กสูงประมาณผมด้วยซ้ำแต่พอโดนจับมัดแบบนี้ตัวมันดูเล็กไปถนัดตา
“อยากรู้ว่าทำไมกูต้องทำกับมึงอย่างนี้ไม่ลองถามพี่มึงหน่อยละ ว่าทำกับฟ่างอย่างนั้นทำไม ทำไมพี่มึงต้องหลอกฟ่าง ไม่รักเขาแล้วไปทำอย่างนั้นกับเขาทำไม!" ผมจับหัวมันกระชากขึ้นมาเพื่อให้มันสบตาผมเวลาพูด
“มองหน้ากู!” ผมพูดเมื่อมันหลบหน้าแต่มันยังไม่คิดจะทำตาม
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย ถ้ามึงอยากรู้มึงก็ไปถามพี่กูเองสิ มึงจะมาทำอย่างนี้กับกูทำไม” เลือดกบปากไปแล้วยังอวดดีได้ เก่งจริงๆ
“ทำไมกูจะทำไมได้ ในเมื่อมึงเกี่ยวข้องกับมันสุดแล้ว” ผมปล่อยมือที่กระชากหัวมันไปอย่างแรง หัวมันชนกับขอบเตียงเสียงดัง
“ไอ้สัส!”
ผมลุกเดินไปเอาโทรศัพท์ที่อยู่นอกห้องมาเพื่อจะโทรหาฟ่างให้มันพูดความจริง แต่เมื่อเดินกลับเข้ามาผมเปลี่ยนใจเอาเป็นบันทึกเสียงไว้ดีกว่า
“ไหนมึงพูดมาสิว่า ทำไมพี่มึงต้องหลอกฟ่าง หลอกคนที่กูรักด้วย!”
“..กูไม่รู้”
“ไม่รู้งั้นเหรอ กูเห็นมึงพูดกับเพื่อนอยู่ปาวๆ เก่งนักนิเรื่องทำร้ายจิตใจคนอื่น พออย่างนี้ทำไมไม่กล้ายอมรับความจริงวะ พูด!”
“พี่บูม..หลอกให้พี่ฟ่างรัก..เพราะพี่ไม้กับพี่ไนซ์มีของพนันให้เป็นอะไรที่พี่บูมอยากได้ ถ้าพี่ฟ่างตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่บูมเมื่อไรถือเป็นการจบเกม แล้วพี่บูมก็จะได้สิ่งที่ต้องการ..” มันพูดก้มหน้าแต่เสียงชัดใช้ได้
“แต่มึง รู้ไหม ตอนนี้เขาเป็นแฟนกันแล้ว ฟ่างตอบตกลงไปแล้วทำไมมันยังไม่จบอีก”
“ไม่รู้..”
“ถ้ามันยังหลอกฟ่างไม่เลิกกูก็มีสิทธิ์จะทำอะไรมึงก็ได้เหมือนกัน” ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันผิดแต่สิ่งที่พี่มันทำมันยิ่งกว่า
“ปล่อยกู ยะ..อย่า”ผมรวบแขนที่ถูกมัดไว้ขึ้นเหนือหัวกัดไปที่เนื้อลำคอสีขาวของมัน
“หยุด มึงทำอย่างนี้ก็เลวไม่ต่างจากพี่กูหรอก”
“กูไม่ไม่เคยบอกว่ากูดีอยู่แล้วนี่” เสียงด่าดังอยู่ข้างๆ หูตลอดที่ผมซุกไซ้
“ปล่อยกูได้ยินไหม ไอ้เหี้ย..กูทำอะไรให้มึง” เท้าของมันถีบขาผมออกตลอดผมกดมันนอนราบลงกับเตียง
“ปล่อย ถึงมึงจะทำอย่างนี้เขาก็ไม่รักมึงหรอก!”
“อะเหรอ แต่ทำอย่างนี้แล้วกูสะใจวะ หึ!” แม้มันจะค้านยังไงตอนนี้ผมก็ไม่สนแล้ว ผมกระชากเสื้อมันออกแม้ว่ารูปร่างมันจะไม่เหมือนอย่างที่ผมชอบ แต่หน้าท้องที่มีลูกคลื่นเล็กๆ นั่นก็ทำให้ร่างกายนี่น่าสนใจไม่น้อย
“ปล่อย อืออ” ผมปิดริมฝีปากมันด้วยมือ ส่วนอีกข้างก็ปลดเข็มขัดมันและเท้ามันก็ยังถีบผมอยู่อย่างนั้นเลยจัดการแทรกตัวเข้าไปแยกขาอยู่ตรงกลางลำตัวของมัน จะว่าไปการท่าทางการตะเกียกตะกายของมันก็ทำให้ถอดกางเกงได้งานขึ้น
“หรือว่ามึงก็อยากวะ” ผมเองก็ดึงกางเกงเพียงแค่พอเอาส่วนที่อยากระบายออกมารับลมเท่านั้น
“ทำให้มันแข็งดิ อยู่กับมึงแล้วมันไม่มีอารมณ์ว่ะ” ผมจับส่วนอ่อนไหวเข้าไปใกล้ใบหน้านั่น
“ไอ้ทุเรศ ปล่อยกู” มันสะบัดหน้าหนี
“นา ช่วยกูหน่อยไม่งั้นมึงได้เจ็บตัวแน่ หรือไม่กูอาจจะถ่ายคลิปมึงไว้ประจาน” พอพูดไปอย่างนี้มันดูจะเชื่องแต่ก็ยังไม่ยอมทำตามที่ผมพูดอยู่ดี
“มึงจะซ้อมกูจนตายก็ได้แต่อย่าทำแบบนี้” ตาของมันแดงก่ำสงสัยจะกลัวมาก แต่ถ้าฟ่างรู้ความจริงก็ต้องเสียใจไม่ต่างกับมันตอนนี้พี่มันเองก็จะต้องเจ็บไม่แพ้น้องของมันตอนนี้เหมือนกัน
“ศักดิ์ศรีของมึงกูว่าอย่ามีมันเลย อมสิว่ะ” จับหัวมันเข้ามาใกล้ท่อนเอ็นแล้วบีบที่คางมันให้มันเจ็บและอ้าปากแล้วก็ยัดเข้าปากมันทันที
“อือ..อะ ฮืออ”
“อ่า..” จากที่อ่อนตัวตอนนี้เริ่มแข็งขึ้นเพราะตอนนี้ผมจิตนาการว่าเป็นฟ่างที่อยู่กับผมตอนนี้ เลยจับมันพลิกคว่ำขณะที่ตัวเองหลับตาแล้วสอดส่วนที่แข็งแล้วเข้าไปที่รอยแยกโดยไม่เล้าโลมมันแต่น้อย
“อ๊า!! เจ็บ .. พอ ..เจ็บ พอ” ได้ยินสิ่งที่มันพูดแต่ไม่สามารถตอบสนองได้เพราะตอนนี้ในหัวมีแต่คนที่ทำให้ผมหลงรักตั้งแต่วันแรกที่เจอ ชอบเขามากจริงๆ
“ฟ่าง อืม..ฟ่าง” ขยับเข้าออกตามจังหวะอารมณ์ยิ่งนานไปยิ่งร้อนแรง แรงอารมณ์มีมากขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เมื่อฟ่างรู้ความจริง ความโกรธปะทุขึ้นมาไม่ขาดสาย ปลดปล่อยกี่ครั้งก็ยังไม่พอ
“เจ็บ ฮือออ พอ พอได้แล้ว” เสียงร้องยังดังไม่หยุดแต่ค่อยๆหายตามเวลาเบาจนน่าใจหาย
“ฟ่าง..เรารักฟ่างนะ ฟ่าง อ่า”
“ไอ้เหี้ย กูทำอะไรให้มึง ไอ้สัส ฮืออ” เสียงร้องบ่นด่ากับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับเขา ทำไมต้องเป็นแบบนี้ พี่บูมมาช่วยกูด้วย
“พูดเหี้ยไรวะ กว่ากูจะได้นอนมึงรู้ไหมว่าตอนไหน” ใครมันจะไปรู้กูหลับไปตอนไหนกูยังไม่รู้เลย
“กูไปได้รึยัง?”
“ลุกไหวก็เชิญ” มันพูดออกมาอย่างไม่สนใจไม่รู้เลยรึไงว่าที่ผมลุกไม่ได้ก็เพราะมัน
ผมไม่มีอะไรที่จะพูดอะไรกับมันอีกสิ่งที่มันทำก็ไม่ต่างจากที่มันพูดถึงพี่ของผมเท่าไร สิ่งที่มันทำยังไงก็ต้องได้รับโทษไม่ทางใดก็ทางหนึ่งถ้าฟ้าไม่เป็นใจ
ผมก็จะเป็นคนลงโทษมันเอง
แต่ร่างกายที่กำลังจะลุกขึ้นกลับไม่เป็นใจที่เตียงมีแรงโน้มถ่วงไม่อยากให้ผมลุกอกขนาดนั้นเลยรึไง จะลุกขึ้นทีไรเป็นให้ต้องล้มลงทุกที
“ฮืออ เหี้ย! เหี้ย! ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย” ความอดกลั้นครั้งสุดท้ายไม่สามารถต้านน้ำตาที่ไหลออกมาได้ หมดแล้วความหวังผมกลายเป็นคนอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไร
“หึ สุดท้ายก็ไม่ออกไปสักทีหรือยากอยู่ให้กูเอาวะ”
“มึงคิดได้แต่เรื่องต่ำๆ คนอย่างมึงสู้พี่กูไม่ได้ด้วยซ้ำ” ผมหันไปมองหน้ามันแล้วพูด
“เหรอ แล้วมึงอยากดูพี่มึงแพ้สักครั้งไหมละ” มันพุ่งเข้ามาบีบคางผมอย่างไม่ทันตั้งตัว แผลจากเมื่อวานที่มันทำไม่ได้หายไปเลยสักนิดยิ่งเจ็บซ้ำกว่าเดิม
“อึก.. ปล่อย”
“ทีเมื้อกี้ทำปากดี” มันปัดหน้าสะมือของมันออกอย่างแรงจนหนาผมหันไปอีกทาง
“กูไม่กลัวมึงหรอก ยังไงมึงก็ต้องได้รับกรรมในสิ่งที่มึงทำมึงจำไว้” ผมพูดขึ้นก่อนที่มันจะเดินออกนอกห้องไป
“ออกไปจากห้องนี้ให้ได้ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมาแก้แค้นกูทีหลังกูจะรอ” มันปิดประตูเสียงดัง
“อย่าให้กูหนีไปได้แล้วกัน”
“ปากดีเหมือนพี่มันไม่มีผิด” ผมหันไปมองโทรศัพท์ที่ตกอยู่พื้นคิดว่าน่าจะตกตั้งแต่เมื่อวานและคงเป็นของคนที่ลุกออกจากห้องไม่ได้แน่
“หึ ไม่ได้ล็อคซะด้วย” ผมกดเข้าไปในรายชื่อผู้ติดต่อเห็นเบอร์ของพี่มันแล้วนึกสนุก แล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเพื่อบันทึกเบอร์ไว้ ผมเลื่อนไปดูเบอร์ของฟ่าง
คิดว่าบอกถ้าบอกฟ่างตอนนี้จะเร็วไปไหม ถ้ารอไปมากกว่านี้จะช้าไปรึเปล่าเรื่องที่ผมคิดมากที่สุดคือความรู้สึกของฟ่าง เขาเป็นเหมือนรักแรก ไม่อยากให้เขาเสียใจเลยจริงๆ แต่มันเป็นเพราะไอ้เหี้ยนั่นแค่เห็นหน้ามันครั้งแรกผมก็ไม่ถูกชะตาด้วยแล้ว
ผมปิดโทรศัพท์มันลงแล้วหันไปสนใจโทรศัพท์ในมืออีกข้างแทน ผมกดโทร
[ฟ่าง]
“สวัสดีจาร์ว่าไง”
“สวัสดีฟ่าง”
“มีอะไรรึเปล่า โทรมาตั้งแต่เช้าเลย”
“ฮะๆ โทรมาบอกว่าอย่าลืมของฝาก”
“เห็นเราขี้งกเหมือนเพียวตั้งแต่เมื่อไร ไม่ลืมหรอก”
“ไอ้ฟ่าง พูดอะไรใครงก”
“มึงไง เพียว” เหมือนว่าฟ่างจะเปิดลำโพงเพื่อให้เพื่อนอีกคนได้ยิน
“จาร์ แม่งคิดถึงว่ะ ทำไมไม่มาเที่ยวด้วยกันวะ”
“จะไปได้ไงว่ะ ก็เขาไม่ชวน”
“อย่านอยด์สิ ถ้าจาร์จะมาก็ได้นะ เดี๋ยวเราไปรับที่สนามบินก็ได้” เสียงรู้สึกผิดจากฟ่างดังไกลมาเลย
“พูดเล่นน่า คิดมากจัง”
“ถ้างั้นก็อย่าพูดอย่างนี้อีกรู้ไหม เราเป็นเพื่อนกันนะงั้นคราวหน้าถ้าเราชวนจาร์มาเที่ยวที่บ้านเรา จาร์ต้องมานะ”
“ครับ จะไปให้ได้เลย” ใช่ เราเป็นเพื่อนกันนี่
“ฟ่าง!” เสียงไอ้เหี้ยนั่น มันไปกับฟ่าง
“พี่บูม... เอ่อจาร์”
“เที่ยวให้สนุกนะ วางแล้วครับ” ผมกดวางสายไปก่อนที่ฟ่างจะพูดอะไร ตอนนี้เขาดูมีความสุขดีต่างจากผมที่คิดมากกลัวจริงๆว่าเขาจะเสียใจหลังจากที่รู้ความจริง อย่างน้อยก็ต้องมีแผนอื่นที่ฟ่างต้องไม่รู้เรื่องบัดซบนี้
ตุบ!
“เก่งนี่ ออกมาได้” ผมลุกเดินเข้าไปใกล้มันนั่งนั่งขลุกอยู่กับพื้นเพราะล้มเมื่อกี้
มันไม่พูดอะไรออกมานั่นทำให้ผมได้ใจจับมันลุกขึ้นแล้วพามันเข้าไปที่ห้องดังเดิม
“นี่ ปล่อย ไหนบอกว่าจะให้กูบอกไปไงไอ้เหี้ย!”
“แต่กูไม่ได้บอกว่าตอนนี้” เนื้อตัวมอมแมมตั้งแต่เมื่อวานเสื้อผ้าที่มันหยิบมาใส่คงจะเบลอไปหน่อยที่เอาเสื้อของผมใส่แทนที่จะเป็นเสื้อของตัวเอง
“ขอกูเอาอีกสักรอบสิวะ เมื่อก็กูโมโหพี่มึงว่ะ” ผมโยนมันขึ้นเตียงท่าทางจะเจ็บไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกสงสารขึ้นมาเลยแฮะ
“โอ๊ย เจ็บ ปล่อยกูมึงจะทำอย่างนี้กับกูไม่ได้นะ”
“มีสิทธิ์อะไรมาห้ามกู”
“แล้วมึงมีสิทธิ์มาทำกับกูอย่างนี้!!” เสียงจากคนใต้ร่างดั่งลั่นน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นเบ้าเตรียมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ
“ปล่อยกูไปเถอะ... กูจะไปบอกพี่ฟ่างเอง” และแล้วน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมา
“เรื่องทุกอย่างกูจะเป็นคนบอกพี่ฟ่างเอง” มันหลบหน้าผมไปอีกทางแต่น้ำตาที่ไหลออกมามันหยดลงที่มือลงหยดแล้วหยดเล่า
“กูจะรู้ได้ไงว่ามึงจะไม่โกหกกู”
“พูดจริง สัญญา ปล่อยกูไป...อย่าทำแบบนี้อีก”
“กูไม่เชื่อเพราะสันดานทั้งมึงและพี่มึงมีแต่หลอกคนอื่น” ผมจับหน้ามันให้เงยขึ้นมามองกับผม
“กูจะทำให้พี่เขาเลิกกับพี่กู จริงๆ.. กูทำได้พวกเขาต้องเลิกกัน ปล่อยกูไป”
“ถ้ามึงทำไม่ได้ กูเอามึงตาย ออกไป!!” ผมไล่มันออกจากห้องมันกระเสือกกระสนออกไปทันที ท่าทางเหมือนมันจะเดินไม่ไหวล้มบางไปตามทางนั่นก็เรื่องของมัน
“ฟ่าง!”
“พี่บูม...เอ่อจาร์” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจาร์ก็วางไปเรียบร้อยแล้ว
“คุยกับใครฟ่าง”
“กับจาร์ครับ” นั่นไง เขาทำหน้าอย่างนั้นอีกแล้ว “จาร์เขามาทวงเรื่องของฝากครับ ไม่มีอะไรนอกจากนั้น”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” เขาตอบผมก็จริงครับแต่หันหน้าไปอีกทาง
“หน้าพี่บูมฟ้องหมดแล้วครับ” ผมเอื้อมมือไปจับแขนพี่เขา “ไปทานข้าวกันเถอะครับ พี่บูมต้องหิวแล้วแน่ๆ หน้ายุ่งหมดแล้ว” ผมแกล้งแย่พี่เขาเล่น
“โอ๊ย พี่บูมเจ็บนะ” เขาบีบที่จมูกผมแรงๆ หนึ่งครั้ง
“หมั่นไส้ ถึงว่าทำไมโดนแกล้งบ่อยเพราะฟ่างแกล้งคนอื่นก่อนใช่ไหม”
“เปล่านะครับ คนอื่นแหละชอบแกล้งฟ่างโดยเฉพาะคนหน้ายุ่งตรงนี้ ฮะๆ” ผมรีบวิ่งออกมก่อนที่พี่เขาจะวิ่งมาไล่ผม
ผมมาถึงที่บ้านกันตั้งแต่เช้ามืดครับตอนแรกพอมาถึงขอพักผ่อนกันก่อนเพราะพวกพี่เขาครับรถกันมาเหนื่อยมาก
“พ่อครับ แม่ครับ” ผมวิ่งเข้าไปกอดพ่อกับแม่ทันทีที่ประตูบ้านเปิด
“สวัสดีครับคุณพะ..ลุงคุณป้า” เสียงพี่เขาสั่นเล็กน้อยตอนที่เจอพ่อกับแม่ผมครั้งแรก ตอนนี้หน้าพ่อของผมหน้ากลัวมากเลยครับเพราะมารบกวนเวลานอนของพ่อรึเปล่านะ
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า” พี่ไม้ลงรถแล้วเข้ามาทักทายพ่อกับแม่ผม
“สวัสดีจ้าลูก มาๆ เข้าบ้านก่อนเร็วไปพักผ่อนนอนหลับเอาแรงกันสักหน่อย ขับรถกับมาเหนื่อย” แม่ผมพูด
ผมนอนพักได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งได้เพราะตอนที่มาถึงประมาณตอน ตี 3 ตอนนี้ก็ตีสี่ครึ่งแล้วได้ยินเสียงจากห้องครัวคิดว่าแม่คงตื่นขึ้นมาทำอาหารแน่ ผมนอนอยู่ห้องตัวเองครับ ส่วนพี่บูมกับพี่ไม้นอนอยู่ห้องสำหรับแขกเพราะบ้านผมมักมีญาตมาหาบ่อยจึงได้ทำห้องไว้เผื่อด้วย
ผมลงมาห้องครัวเพื่อมาทำอาหารช่วยแม่แต่เห็นเหมือนเงาใครนั่งงอยู่ตรงระเบียงฝั่งบันได ผมเลยค่อยๆเดินเข้าไปใกล้นี่บ้านตัวเองไม่รู้ว่าจะกลัวทำไมเหมือนกัน สูดหายใจเข้าลึกๆทำใจกล้าเข้าไปใกล้อีก
“แม่!!!!!!!!!!” ผมตะโกนเรียกแม่ลั่นคนที่หันมาทำผมตกใจจริงๆ
“ฟ่าง ฟ่าง นี่พี่เอง”
“พี่ไม้?”
“ใช่ ตกใจอะไรอ่ะ คิดว่าผีเหรอ” ก็แน่สิครับนั่งอยู่ตรงที่มืดๆแถมยังเล่นโทรศัพท์ไปด้วยแสงจากโทรศัพท์พี่เขาส่งเข้าที่หน้าทำให้น่ากลัวไปอีก
“กลัวสิครับ พี่ไม้มาทำอะไรตรงนี้เหรอครับ”
“พี่นอนไม่หลับน่ะ” พี่เขาเอาโทรศัพท์ลงใส่กระเป๋าแล้วหันมาพูดกับผม
“งั้นไปทำกับข้าวกับผมไหมครับ แม่ผมทำอยู่ข้างล่าง”
“เอาสิ”
พอลงมาเหมือนจะไม่ใช่มีแค่แม่ผมทำกับข้าวอยู่ เสียงพูดไปเรื่อยขณะที่ทำกับข้าวพูดคุยกับแม่ผมอย่างสนุกสนาน
“แม่ครับฟ่างมาถึงแล้วเหรอครับ” เพียวถามแม่ของผมขณะที่ซอยผักไปด้วย
“มาแล้วลูก สงสัยจะหลับอยู่ สงสัยจะเหนื่อยนั่งรถมาตั้งไกล”
“เหนื่อยกายคงใช่ แต่เหนื่อยใจคงไม่ใช่หรอกครับ”
“รู้อะไรมารึเปล่าเพียว ฮะๆ”
“นิดหน่อยครับแม่ ให้ฟ่างเขาเล่าเองดีกว่า”
“เล่าอะไรเหรอเพียว” ผมเดินเข้าไปข้างหลังแล้วแกล้งให้สองคนที่อยู๋ห้องครัวตกใจกัน
“มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย” เพียวถามผม
“วางมีดก่อนดีไหม” ในมือของเพียวถือมีดที่ซอยผักอยู่แต่จะเข้ามากอดผมเลยบอกเตือนเอาไว้ก่อน
“ว่าจะเอาคืนสักหน่อย ฮะๆๆ” เพียววางมีดแล้วเข้ามากอดผมเบาๆ
“ไม่นอนพักละลูก มาเหนื่อยๆ”
“พักพอแล้วครับแม่ มาช่วยกันทำกับข้าวดีกว่า วันนี้ในครัวคงคึกน่าดูพี่ไม้มาช่วยด้วย”
ฉึบ!
“โอ๊ย”
“เป็นไรรึเปล่าเพียว” เสียงเพียวทำเอาผมตกใจ เห็นเลือดที่นิ้วของเพียวด้วย
“เปล่า..”
“เพียวไปล้างมือก่อนลูกหา พลาสเตอร์อยู่หลังตู้ทีวีลูกเอามาปิดไว้”
“ครับ” เพียวเดินออกไปตามที่แม่ผมบอก เพียวมาเลล่นที่บ้านผมบ่อยจนแม่และพ่อผมเองมองว่าพียวเป็นลูกคนหนึ่งแล้วครับ
“แม่ครับ นี่พี่ไม้นะเป็นเพื่อนพี่บูม” ผมแนะนำพี่ไม้ให้แม่รู้จัก
“สวัสดีครับ”
“ทำตัวตามนะสบายลูก พักแล้วเหรอ”
“ผมนอนไม่หลับครับ เลยมาช่วยคุณป้าทำอาหารดีกว่า”
พวกเราทำอาหารกันอย่างง่ายๆ ส่วนมากเป็นอาหารพื้นบ้านที่แม่ผมชอบทำปกติ พอทำเสร็จแล้วก็ออกมารับอากาศข้างนอกบ้านครับตอนเช้านี่อากาศดีจริงๆ ผมมาเดินล่นกับเพียวว่าจะถ่ายรูปสักหน่อย ส่วนพี่ไม้น่าจะไปปลุกพี่บูม
อยู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ใครโทรมาตั้งแต่เช้าเลยพอเปิดดูก็เป็นจาร์เราคุยกันปกตินะครับ จาร์ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกับผม
“ฟ่าง!”
“พี่บูม...เอ่อจาร์” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อจาร์ก็วางไปเรียบร้อยแล้ว
“คุยกับใครฟ่าง”
“กับจาร์ครับ” นั่นไง เขาทำหน้าอย่างนั้นอีกแล้ว “จาร์เขามาทวงเรื่องของฝากครับ ไม่มีอะไรนอกจากนั้น”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” เขาตอบผมก็จริงครับแต่หันหน้าไปอีกทาง
“หน้าพี่บูมฟ้องหมดแล้วครับ” ผมเอื้อมมือไปจับแขนพี่เขา “ไปทานข้าวกันเถอะครับ พี่บูมต้องหิวแล้วแน่ๆ หน้ายุ่งหมดแล้ว” ผมแกล้งแย่พี่เขาเล่น
“โอ๊ย พี่บูมเจ็บนะ” เขาบีบที่จมูกผมแรงๆ หนึ่งครั้ง
“หมั่นไส้ ถึงว่าทำไมโดนแกล้งบ่อยเพราะฟ่างแกล้งคนอื่นก่อนใช่ไหม”
“เปล่านะครับ คนอื่นแหละชอบแกล้งฟ่างโดยเฉพาะคนหน้ายุ่งตรงนี้ ฮะๆ” ผมรีบวิ่งออกมก่อนที่พี่เขาจะวิ่งมาไล่ผม
พอได้รักแล้วทุกอย่างดูสวยงาม เขาทำอะไรกับเราไว้ เราก็จำแต่เรื่องดีๆ ส่วนเรื่องร้ายๆ เรามองไม่เห็น พอเลิกรักไปอะไรๆ ที่ร้ายๆ ก็จะเป็นเราเองที่รู้ดี
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ