One Shot - Love be like Magnet
เขียนโดย เพราะเรารักเธอ
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.02 น.
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2559 19.07 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) Cathode&Anode
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความLin Part
ตั้งแต่เด็กฉันมักจะได้เป็นผู้นำอยู่ตลอดอาจจะด้วยหน้าตาที่แสนจะจริงจังกับชีวิตของฉันหรือนิสัยนิ่งๆไม่กล้าปฏิเสธใครกันแน่ฉันถึงได้รับหน้าที่มาโดยปริยายไม่ว่าจะย้ายไปเรียนที่ไหน ช่วงชีวิตไหนก็ตามมักจะได้เป็นหัวหน้าห้อง ประธานนักเรียน ประธานคณะ นั่นทำให้ฉันไม่ค่อยได้รู้จักคำว่าสนุกสนานในวัยรุ่นซักเท่าไหร่ กว่าจะได้สัมผัสกับคำว่า สนุก ก็เป็นช่วงปี 3 ที่เป็นเวลาของเด็กฝึกงานนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้สึกและสัมผัสของความรัก
รักแรกที่แสนหอมหวานฉันแอบรักรุ่นพี่ที่นั่นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้หน้าตาดีมากมายอะไรแต่ฉันก็ชอบนิสัยเขา อบอุ่น ใส่ใจรุ่นน้อง ทำงานเก่ง ฉันอยู่ด้วยแล้วสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เขา ฉันไม่รู้วิธีจีบหรือวิธีเข้าหาเลยไปบอกเขาตรงๆว่าฉันชอบเขา เขาก็ไม่ปฏิเสธฉันและยอมคบกับฉัน ในช่วงเวลาที่คบกันทุกๆวันคือวันพิเศษ ทุกๆนาทีที่อยู่กับเขาคือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด แต่โลกแห่งความจริงไม่ได้สดใสแบบนั้น
ในวันเกิดของเขา เขาขอให้ฉันยอมเป็นของเขาในวินาทีแรกฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ฉันถือเรื่องพรหมจารีมากและด้วยประสบการณ์ความรักอันแสนน้อยนิดทำให้ฉันตัดสินใจยกให้เขาไปทั้งกายและใจ หลังจากที่เรามีอะไรกันเขาก็ชอบมาขอหลายๆครั้งแต่ไม่ค่อยได้มาหากันไม่ค่อยได้คุยกับเหมือนเดิม ทั้งที่รู้ว่าถูกหลอกฉันก็ยังจะรักเขาอยู่เต็มหัวใจกว่าฉันจะตัดสินใจเลิกกับเขาได้ก็ต้องให้เพื่อนที่อยู่โปรแกรมเดียวกันช่วยให้ตัดใจ
หัวใจที่แหลกสลายไปกับรักครั้งแรกทำให้ฉันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากที่เป็นเด็กเรียนๆเนิร์ดๆไม่เข้าผับ/บาร์ กลายเป็นผีเสื้อกลางคืนเมาเหล้าไม่เว้นแต่ละวัน เต๊าะผู้ชายไปเรื่อยคบๆเลิกๆ และทำตัวอย่างนั้นอยู่ครึ่งปีกว่าจะกลับมาเป็นฉันคนเดิมก็โดนพ่อกับแม่ต่อว่าอยู่หลายครั้งจนสุดท้ายฉันก็เรียนจบมาได้ด้วยเกรดสวยๆท้ายปี เลือกบริษัทที่จะเข้าทำงานดีๆ มีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีเจ้านายที่ดี นับว่าเป็นช่วงเจริญรุ่งเรืองของชีวิตเลยก็ว่าได้
แต่ความวุ่นวายในชีวิตของฉันก็ได้พังทลายลงเพราะเด็กสาวที่พึ่งเรียนจบมาหมาดๆและได้ทำงานเป็นที่แรก ฉันลองอ่านในใบประวัติดูเรื่อยๆก่อนที่จะได้สัมภาษณ์ เรียนจบมาได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ฐานะทางบ้านปานกลาง หน้าตาน่ารัก เป็นใบประวัติที่ค่อนข้างใสสะอาด ในวันสัมภาษณ์ที่ฉันได้เจอกับผู้หญิงคนนี้ความรู้สึกนั้นก็ได้กลับมาอีกครั้ง「ความรัก」
“ขอบคุณที่มาให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ฉันหวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันนะคะ”
“ขอบคุณเช่นกันคะ”
เมื่อฉันสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงานจนหมดแล้วเรียบร้อยฉันก็กลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อพิจารณาว่าฉันจะรับใครเข้าทำงาน แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังเลือกอยู่ก็มีจดหมายแนะนำมาให้ฉันเนื้อหาในจดหมายนั้นได้แนะนำ นางสาวปานทิพย์ สืบสกุลรัก ไว้ซะเต็มที่ด้วยความที่มีจดหมายแนะนำและในใบประวัติมีผลการเรียนดีฉันเลยคิดว่าน่าจะเป็นมันสมองให้กับบริษัทได้ฉันเลยเลือกเด็กคนนี้มาฝึกงาน
แต่เรื่องมันกลับไม่ง่ายอย่างนั้นหลังจากรับนางเข้ามาทำงานที่บริษัทในช่วง 3 เดือนแรกที่ฝึกงานเป็นเด็กดี พูดเพราะ ทำงานเก่ง อัทยาศัยดี พอเริ่มรับเข้ามาทำงานอย่างเต็มรูปแบบซักประมาณ 1-2 เดือนก็เริ่มมีข่าวหนาหูว่าควงเพื่อนร่วมงานไปเข้าม่านรูดหลายคนและเริ่มมีคู่อริอยู่ในที่ทำงาน บ้างก็ซุบซิบกันว่าเคยไปเปิดกิจกรรมในร่มเพื่อให้ได้เกรดดีๆจากครูในมหาลัยฯ บ้างก็ซุบซิบว่าชอบไปประจบผู้จัดการจนเขาติดอกติดใจเป็นพิเศษ บ้างก็พูดนินทากันว่าเคยไปแย่งแฟนคนนั้นคนนี้ ฉันเลยจำเป็นต้องมาเคลียร์ปัญหานี้ให้จบๆไป ฉันคิดว่ามันน่ารำคานถ้าจะไม่ทำงานเพราะมัวแต่มาซุบซิบกันอยู่และฉันก็รู้สึกแปลกๆเวลาคนอื่นนินทานาง แต่ถึงฉันพูดไปกี่รอบๆนางก็ไม่ฟังฉันเลยคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะเคลียร์เรื่องนี้ให้มันจบ
หลังเลิกงาน
“เราขอตัวกลับแล้วนะคะพี่ลิน สวัสดีคะ”
“จ้า กลับดีๆนะ”
“บายๆคะพี่ สัปดาห์หน้าเจอกันคะ”
“จ้า เที่ยวเผื่อพี่ด้วยนะ~” พอทุกๆคนพากันทยอยกลับบ้านกันหมดแล้วเหลือเพียงมีนที่นั่งทำงานต่อเพราะในตอนเช้านางแอบเล่นแชทกับหนุ่มๆในคอลแลคชั่นของนางอยู่นั่นทำให้ฉันโมโหฉันเลยโยนงานกองใหญ่ที่มันควรจะได้ทำในสัปดาห์หน้าไปให้นาง แต่ดูเหมือนว่านางจะทำเสร็จได้ภายในวันเดียว
“มีน มาหาพี่ที่ห้องทำงานหน่อยนะพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” ฉันเดินไปบอกนางก่อนที่นางจะเก็บของ นางเลยวางโทรศับไว้ในกระเป๋าแล้วเดินตามฉันมาอย่างเซงๆ พอฉันกับมีนเข้าห้องฉันก็ให้นั่งหน้าโต๊ะทำงานของฉัน
“พี่ลินเรียกมีนมาคุยเรื่องอะไรเหรอคะ”
“ที่เธอไปแย่งแฟนคนในออฟฟิตจะเธอจะเลิกได้หรือเปล่า”
“จะเรียกมาคุยเรื่องไร้สาระเหรอ ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อน” พอมีนทำท่าจะลุกออกจากห้องฉันก็รีบพูดดักไว้ก่อน
“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นหร่อกนะ”
“แล้วเรื่องอะไรอีก?”
“เธอมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหลายคนมากฉันอยากให้เธอปรับตัว”
“ยัยพวกนั่นเอาแต่ถ่วงแข้งถ่วงขาฉันเองฉันก็เลยพูดออกไป ฉันผิดเหรอ” นางพูดขึ้นมาพร้อมยักคิ้วแล้วมองมาหาฉัน
“ไม่ผิดหร่อกนะแต่ฉันขอให้มันออกเป็นแนวแนะนำได้ไหม”
“พอดีพูดอ้อมค้อมไม่เป็น” ยัยเด็กคนนี้ยอกย้อนซะจริง น่าหมั่นใส้! -*-
“ส่วนเรื่องที่เธอชอบไปมีอะไรกับผู้ชายเนี่ยระวังไว้บ้างก็ดีนะ”
“แล้วไง?”
“ฉันอยากให้เธอระวังตัวไว้เป็นผู้หญิงหัดหวงตัวมั่งเธอก็เป็นเด็กในแผนกพี่ พี่เป็นห่วง”
“โอ้ย! ทนไม่ไหวละ ป้าจะถามอะไรมากมายเนี่ยเป็นแม่เหรอ”
“ห๊ะ? ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอโรคภัยปัจจุบันนี้มันกระจอกๆซะที่ไหน แล้วอีกอย่างหน้าตาออกจะสวยดูดีทำตัวแบบนี้มันไม่งามนะ”
“นี่ป้า ป้าทำตัวเหมือนอิป้าแก่ข้างบ้านฉันเลยนะ บ่นๆๆๆ น่ารำคานมากอะ”
“ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอ”
“จะมาเป็นห่วงฉันทำไมละป้า ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”
“ฉันนี่มันบ้าจริงๆที่มาเป็นห่วงคนอย่างเธอ” ฉันนั่งกุมขมับทันทีฉันคิดผิดจริงๆที่เป็นห่วงนาง
“ป้าคะ แทนที่จะมายุ่งวุ่นวายเรื่องของเราเอาเวลาไปหาผัวก่อนดีไหมคะ” พอนางพูดเรื่องนั้นมันทำให้ฉันโมโหขึ้นมาทันที
“ฉันไม่จำเป็นจะต้องมีเหมือนเธอหร่อกนะ ยัยร่าน”
“หรือว่าที่ป้าไม่มีผัวเพราะทำการบ้านได้แย่กันแน่คะ 555555555!!!”
“-*- ถึงเธอจะร่านแต่ฉันสามารถทำให้เธอเสียวซ่านจนลืมร่านได้นะ ยัยเปี้ยก!”
“แค่ทำให้ผัวติดใจยังไม่ได้แล้วจะมาทำให้ฉันเสียวซ่านได้งั้นเหรอ น่าขำสิ้นดี!” พอนางพูดจบฉันก็ใช้มือไปคลิกโปรแกรมปิดกล้องวงจรปิดในห้องอย่างรวดเร็วแล้วค่อยกระชากคอเสื้อนางเข้ามาหาฉันแล้วจูบทันที
“อ.... อื้อ!!” นางอึ้งไปนิดนึงแล้วค่อยพยายามใช้มือพลักจากตัวฉันแต่ฉันจับล็อคแล้ววางไว้ที่โต๊ะและไม่ต้องพูดถึงขา นางเตะฉันไม่ได้แน่นอนเราอยู่คนละฝั่งกันโดยมีโต๊ะคั่นกลางอยู่ สุดท้ายนางตัดสินใจจูบสู้ฉันแต่เด็กน้อยอย่างนางก็ทำได้แค่สอดลิ้นเข้ามาเพื่อติดกับดักของฉันเท่านั้นเอง
“อื้ม....” ฉันเริ่มรุกจูบสไตล์ฝรั่งเศสที่ฉันเคยใช้ทำให้นางเคลิ้มขึ้นเรื่อยๆ
“จุ๊บ... จุ๊บ.... จุ๊บ....” พอฉันเห็นว่านางเริ่มเคลิ้มตามฉันก็ค่อยๆถอนจูบออกมาช้าๆแล้วจุ๊บหยอดส่งท้าย
“แฮ่ก.... แฮ่ก...”
“โดนแค่นี้ก็หอบซะแล้วเหรอแบบนี้จะไปรอดไหมละหืมม” ฉันพูดพร้อมเชยคางของนางให้มองตาฉันทำให้ฉันเห็นใบหน้าที่แดงนิดๆดวงตาที่แสนละห้อยได้อย่างชัดเจน
“อ... อึก....”
“ฉันจะไม่บอกใครว่าเธอแพ้ฉันเรื่องจูบเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทำตัวให้ดีๆซะ กลับบ้านได้แล้วเดี๋ยวไม่มีรถ” ฉันยิ้มนิดๆให้นางก่อนที่จะปล่อยมือแล้วค่อยเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้าน
“ด... เดี๋ยวสิ....” นางก้มหน้าแล้วเรียกฉัน
“หืม?”
“.....อีกสิ”
“ห๊ะ? พูดอะไรนะพี่ไม่ได้ยิน”
“งื้อออ!!” นางเงยหน้าขึ้นมาทำหน้าไม่พอใจแล้วค่อยเดินมาหาฉันใกล้ๆ
“จูบฉันอีกสิ”
‘แม่งเอ้ยยย น่ารักเหี้ยๆข่มขืนแม่งเลยดีไหม’
“อยากจูบอีกรอบเหรอ? ไหนว่าเรื่องนี้ฉันห่วยไงทำไมถึงอยากจะจูบกับคนห่วยๆอย่างฉันกันละ”
“อย่าพูดมากน่า จูบซักทีสิฉันก็อายเป็นนะ”
“ไม่เอาอะขี้เกียจ”
“ได้!”
พลัก! ตึก!
“โอ้ย! นี่เธอจ-”นางพลักฉันให้นั่งลงที่เก้าอี้แล้วจับหน้าฉันให้เงยขึ้นไปประกบปากนางพยายามดุนดันลิ้นเข้ามาจนฉันต้องยอมและปล่อยให้เลยตามเลยไป
ฉันส่งจูบอันแสนหอมหวานไปให้นางลิ้มรสดูเหมือนว่าที่นางอยากจะจูบเพราะอยากชนะนางเลยรุกฉันกลับบ้าง เสียงหอบหายใจระหว่างฉันกับมีนได้ยินชัดกว่าเสียงไหนๆในตอนนี้ความคิดของฉันเริ่มพร่ามัวขึ้นไปทุกทีฉันเลยพยายามคุมสติให้อยู่จนในทีสุดเราทั้งคู่ก็ค่อยๆปล่อยให้พักหายใจ
“หึ ยอมแพ้ฉันแล้วสินะ เห็นกับว่าป้าค่อนข้างเก่งเรื่องจูบเหมือนกันฉันจะทำตัวเงียบๆไว้ละกันนะ”
“......”
“ไว้เจอกันสัปดาห์หน้า” ในขณะที่อารมณ์ฉันกำลังพุ่งพล่านนางก็จะเดินออกจากห้องไปเพราะแค่อยากจะชนะฉันเรื่องจูบ.....
ตึง! แกร๊ก!
“ว้าย! อะไรเนี่ยป้าฉันจะกลับบ้าน เมื่อกี๊ประตูเกือบหนีบมือฉันแล้ว... นะ...” ฉันเดินตามหลังไปก่อนที่นางจะเปิดประตูออกไป ฉันเลยเอามือดันให้ประตูปิดแล้วล็อคห้องทันที
“ได้พิสูจน์แล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันจูบเก่งงั้นไม่ลองพิสูจน์ดูว่าฉันมีเซ็กส์เก่งหรือเปล่า” ฉันจับมีนให้หันหน้าเข้าหาประตูแล้วดึงเนคไทที่คอมามัดข้อมือนางไว้ก่อนที่จะเริ่มซุกไซร้คอเรียวนั่น
“หยุดนะ! ฉันเจ็บ”
“พูดเพราะกับเขาเป็นด้วยเหรอคะน้องมีน” ฉันค่อยๆลูบคล้ำไปทั่วพร้อมกับค่อยๆถอดไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน
“ปล่อยก่อนสิมันเจ็บจริงๆนะ” พอมีนพูดจบฉันก็ได้สติกลับคืนมาแล้วมองที่ข้อมือนางก่อนที่จะแก้มัดให้
“ฉ.... ฉันขอโทษเจ็บมากไหมดูสิแดงเลย ฉันขอโทษจริงๆ” ฉันพูดขอโทษไปซ้ำๆ ฉันดันทำไม่ดีกับมีนไปซะได้ ฉันนี่มันบ้าจริงๆ
“ฉันไม่ยกโทษให้”
“แล้วฉันจะต้องทำยังไงให้เธอยอมยกโทษให้ฉันละ”
“มีเซ็กส์กับฉันสิถ้าเธอทำให้ฉันไม่พอใจฉันจะไม่ยกโทษให้เธอ” พอนางพูดเชื้อเชิญฉันแบบนั้นทำไมคนอย่างฉันจะไม่รับ
เราตกลงกันว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกของเราจะไม่ใช่ที่ห้องนี้ฉันเลยให้นางมาที่คอนโดฉันในตอนแรกนางนึกว่าเราจะทำกันที่นั่นยังไงซะนางก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้วแต่สำหรับฉันมันน่ารำคานถ้าหากมีคนมาพบร่องรอยมันจะยุ่งยากเรื่องแบบนี้มันควรจะได้รู้กันแค่สองคน
พอฉันกับมีนมาถึงที่คอนโดนางก็ดึงตัวฉันเข้าห้องน้ำให้ไปอาบน้ำด้วยทำไมฉันคิดว่านางแปลกๆไปดูน่ารักขึ้นแต่ก็ยังพูดปากหมาเหมือนเดิมและยังเรียกฉันว่าป้าเหมือนเดิมหรืออาจจะเป็นเพราะฉันรักเธอไปแล้วกันแน่
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Meen Part
ฉันสวยและรวยมากฉันไม่เคยสนใจคำนินทาของใครว่าฉันแรดร่านหรืออะไรก็ช่างฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน ฉันไม่ได้ไปฆ่าใครฉันไม่ได้ไปขโมยของใครพ่อกับแม่ฉันรวยเพราะทำอาชีพสุจริตไม่ได้ไปโกงใคร เพราะฉะนั้นฉันไม่แคร์ แต่ถ้ามีสิ่งที่ดีมันก็ต้องมีสิ่งที่แย่ปนกันไปพ่อกับแม่ของฉันรวยเพราะทำงานเลยไม่มีเวลาว่างให้ฉันเลย ในวันเกิดของฉันทุกๆปีก็จะได้ฉลองวันเกิดของตัวเองอยู่คนเดียวจนฉันชินไปแล้ว
เพื่อนอะเหรอ? ฉันไม่ต้องการตัวปัญหาที่มาสร้างความวุ่นวายในชีวิตฉันและฉันไม่คิดว่าเพื่อนที่ซื่อสัตย์ต่อฉันมันไม่มีหร่อกนะ มีแต่คนคบกับฉันเพราะฉันรวยพอฉันได้แฟนหล่อๆก็จ้องจะแย่งไปกินเอง สุดท้ายแล้วฉันก็ปล่อยให้เหี้ยสองตัวไปรักกันอย่างมีความสุขส่วนฉันก็ไปหาคนต่อไป เห็นฉันเป็นอย่างนี้ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจ็บแต่ถ้าจะมาร้องห่มร้องไห่ให้หน้าตาหมองคล้ำฉันไม่ทำอะเปลืองครีมบำรุง
“น้องคะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“มีอะไรก็รีบๆพูดมาฉันไม่ว่าง”
“ทำเป็นเก่งนะอิดอก หาไล่แย่งผัวชาวบ้านเนี่ยเงี่ยนนักรึไงหะ”
“ฉันเปล่า เขาคลานเข่าเข้ามาหาฉันเองผิดที่เธอต่างหากที่จับเขาไว้ไม่อยู่ แก่ๆแบบนี้เค้าคงไม่อยากเอาแล้วอะนะ”
“กรี๊ดดด!!! อิดอกนี่อย่าคิดว่ารวยแล้วจะทำได้ทุกอย่างนะมึง!” และหลังจากนั้นก็คือฉากตบกันอันแสนคลาสสิคแต่เสียใจนะคะไม่ได้ตบหน้าฉันหร่อก
เพราะฉันชอบมีเรื่องแนวๆนี้บ่อยๆฉันเลยชำนาญเรื่องการตบคนเป็นอย่างดีแน่นอนว่าหลังจากที่ยัยรุ่นพี่พวกนั้นรุมฉันแต่ฉันชนะ ก็มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วจนไม่มีใครกล้าหือกับฉันเลยและนั่นคือความสุขที่สุดของฉัน ขี้เกียจที่จะมานั่งทะเลาะตบตีแย่งควยอันเดียว มันไม่ใช่คะมันไม่ใช่ พอขึ้นมหาฯลัยมาชีวิตรู้สึกสนุกมากๆฉันก็แค่ไปนั่งหลับในชั่วโมงเรียนพอเลิกคลาสก็ไปหาเที่ยวพอถึงสอบไฟนอลก็แค่อ่านหนังสือซักรอบสองรอบก็รู้เรื่อง มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก
ส่วนเรื่องเพื่อนฉันก็พอมีแต่ฉันจะไม่สนิดจนถึงขั้นเชื่อใจ แต่ละคนก็ต่างพากันใส่หน้ากากเข้าหากันไปด้วยกันก็ไปเฉพาะไปเที่ยวหรือไม่ก็ไปกินเลี้ยงสายรหัส ฉันเลยได้รับสกิลตอแหลมาได้โดยปริยายแต่พอฉันออกจากมหาฯลัยพ่อฉันก็จัดการสมัครงานให้ฉันไปทำงานในบริษัทที่เป็นบริษัทในเครือของพ่อ ในครั้งแรกที่พ่อฉันบอกให้ไปเข้าสัมภาษณ์ฉันก็ไม่เข้าใจว่าจะไปทำไมทั้งๆที่พ่อจะสั่งให้รับฉันเข้าทำงานเลยก็ยังได้แต่ก็ถือว่าเป็นการลองเชิงดูและในวันนั้นฉันก็ไม่มีแผนจะเที่ยวอะไร
พอไปถึงที่บริษัทฉันก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จัดว่าเป็นผู้หญิงสวยคมคนนึงนั่งจิบกาแฟพร้อมจดอะไรซักอย่างอยู่หน้าร้านกาแฟใกล้ๆออฟฟิสกับผู้ชายอีกคนหน้าตาค่อนข้างดีหุ่นล่ำๆหน่อยๆ ฉันก็เล็งไว้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ฉันจะต้องได้แอ้มซักทีฉันเลยรอคอยวันที่ได้เข้าทำงานในบริษัทก็เริ่มเต๊าะไปเรื่อยๆพอฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้กินเหยือฉันก็เรียกมาแล้วจัดการทันที ในวันต่อมาฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาหาเรื่องฉันแต่กลับไม่ใช่ นางไม่ได้เป็นอะไรกันกับผู้ชายคนนั้นเลยแต่ผู้หญิงอีกคนกลับมาหาเรื่องฉันแทน พอฉันลองสืบดูซักพักก็รู้ว่านางยังโสดฉันอึ้งคะ แก่จนเป็นป้าคนได้แล้วยังไม่มีผัวนึกแล้วก็ขำ หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร พอผ่านมาซัก2เดือนจะ3เดือนแล้วที่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่(ถ้าไม่รวมเวลาที่มาฝึกงาน) ฉันก็โดนผู้หญิงคนนั้นไปคุยหลายครั้ง ในตอนแรกที่ฉันรู้ว่านางเป็นหัวหน้าของฉันฉันก็แอบอึ้งเหมือนกันไม่นึกว่าจะได้เจอกันไวขนาดนี้
และดูเหมือนนางจะเป็นที่รักและเคารพของทุกๆคนเอามากๆคงจะเป็นเพราะอายุซะมากกว่ามั้งที่พากันเคารพกันฉันไม่เห็นว่ายัยนี่มันดูน่าเคารพตรงไหนด็อคเตอร์ที่สอนฉันในมหาฯลัยยังจะดูน่าเคารพกว่าฉันเลยทำตีตัวมึนๆไปและฉันรู้สึกสนุกเมื่อเห็นเวลาเธอแสดงอารมณ์ออกมาที่นอกจากการยิ้มหวานๆคำพูดเพราะสเนาะหูมันทำให้ฉันเลี่ยนและรู้สึกสะอิดสะเอียนเอามากๆฉันไม่ได้กระแดะหรืออะไรนะแต่ฉันไม่ชอบจริงๆมันไม่ใช่แนวฉันจริงๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่นางจงใจแกล้งฉันโดยยกกองงานที่ไปสรรหามาจากไหนไม่รู้มาให้ฉันแต่ก็ไม่เหลือบากกว่าแรงหร่อกคะฉันสามารถพอที่จะทำให้เสร็จภายในวันเดียว
“มีน มาหาพี่ที่ห้องทำงานหน่อยนะพี่มีเรื่องจะคุยด้วย” นางเดินมาหาฉันแล้วเรียกให้ไปหาที่ห้องนาง ฉันละเซงจริงๆว่าจะกลับบ้านไปดูซีรีย์ซักหน่อย
“พี่ลินเรียกมีนมาคุยเรื่องอะไรเหรอคะ”
“ที่เธอไปแย่งแฟนคนในออฟฟิตจะเธอจะเลิกได้หรือเปล่า” นั่นไงนางเปิดประเด็นนี้มาอีกแล้ว
“จะเรียกมาคุยเรื่องไร้สาระเหรอ ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อน” ฉันพูดจบก็ลุกจากเก้าอี้แต่นางก็ดันมาพูดดักไว้ก่อน
“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นหร่อกนะ”
“แล้วเรื่องอะไรอีก?” ฉันนั่งลงแล้วกอดอกพร้อมรอนางบ่นต่อ
“เธอมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหลายคนมากฉันอยากให้เธอปรับตัว”
“ยัยพวกนั่นเอาแต่ถ่วงแข้งถ่วงขาฉันเองฉันก็เลยพูดออกไป ฉันผิดเหรอ” ฉันพูดพร้อมยักคิ้วใส่นาง
“ไม่ผิดหร่อกนะแต่ฉันขอให้มันออกเป็นแนวแนะนำได้ไหม”
“พอดีพูดอ้อมค้อมไม่เป็น” พอฉันพูดจบนางก็เริ่มสำหน้าเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด ให้ตายสิถ้าหยิบกล้องโทรศับมาถ่ายหน้านางตอนนี้ได้คงจะดีฉันดันเอาโทรศับไว้ในกระเป๋าซะนี่
“ส่วนเรื่องที่เธอชอบไปมีอะไรกับผู้ชายเนี่ยระวังไว้บ้างก็ดีนะ”
“แล้วไง?”
‘มันก็เรื่องของฉันไม่ใช่รึไงกัน’
“ฉันอยากให้เธอระวังตัวไว้เป็นผู้หญิงหัดหวงตัวมั่งเธอก็เป็นเด็กในแผนกพี่ พี่เป็นห่วง”
“โอ้ย! ทนไม่ไหวละ ป้าจะถามอะไรมากมายเนี่ยเป็นแม่เหรอ”
“ห๊ะ? ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอโรคภัยปัจจุบันนี้มันกระจอกๆซะที่ไหน แล้วอีกอย่างหน้าตาออกจะสวยดูดีทำตัวแบบนี้มันไม่งามนะ”
“นี่ป้า ป้าทำตัวเหมือนอิป้าแก่ข้างบ้านฉันเลยนะ บ่นๆๆๆ น่ารำคานมากอะ”
“ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอ”
“จะมาเป็นห่วงฉันทำไมละป้า ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”
“ฉันนี่มันบ้าจริงๆที่มาเป็นห่วงคนอย่างเธอ” นางจะมาห่วงฉันทำไมวะคะ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดด้วยซ้ำ
“ป้าคะ แทนที่จะมายุ่งวุ่นวายเรื่องของเราเอาเวลาไปหาผัวก่อนดีไหมคะ” พอฉันพูดจบนางก็เริ่มหน้าเคร่งทันที น่าสนุกดีแห่ะ
“ฉันไม่จำเป็นจะต้องมีเหมือนเธอหร่อกนะ ยัยร่าน”
“หรือว่าที่ป้าไม่มีผัวเพราะทำการบ้านได้แย่กันแน่คะ 555555555!!!”
“-*- ถึงเธอจะร่านแต่ฉันสามารถทำให้เธอเสียวซ่านจนลืมร่านได้นะ ยัยเปี้ยก!” พอนางพูดจบฉันก็ของขึ้นทันทีฉันไม่เคยเสียท่าให้ใครคุมเกมบนเตียงซักครั้งเลยนะ!
“แค่ทำให้ผัวติดใจยังไม่ได้แล้วจะมาทำให้ฉันเสียวซ่านได้งั้นเหรอ น่าขำสิ้นดี!” พอฉันพูดกระแทกออกไปนางหันหน้าไปกดอะไรซักอย่างในคอมแล้วดึงคอเสื้อฉันให้เข้าไปหาพร้อมประกบปากจูบฉันทันที
“อ.... อื้อ!!” ฉันตกใจมากพอนางทำแบบนั้นฉันพยายามจะเอามือมาดันตัวนางออกนางก็เอามือออกจากคอฉันแล้วจับข้อมือฉันกดไว้ที่โต๊ะ ซักพักนึงนางดุนลิ้นเข้ามาในปากฉัน ลิ้นนุ่มๆของผู้หญิงปากที่นุ่มและหอมเพราะลิปสติกมันเหมือนฉันกำลังจูบมาชเมลลโล่นุ่มๆที่แสนหวาน ต่างจากเวลาฉันจูบกับผู้ชาย มันมีแต่ความโหยหายทางร่างกายเท่านั้น
“อื้ม....” แย่จริงฉันเผลอส่งเสียงออกไปซะได้... แต่ฉันกลั้นเสียงไม่อยู่จริงๆทำไมถึงรู้สึกดีขนาดนี้กันนะ
“จุ๊บ... จุ๊บ.... จุ๊บ....” พอฉันเริ่มรู้สึกดีนางก็ถอนจูบแล้วจุ๊บปากฉันเพื่อหยอกล้อฉันเล่น
“แฮ่ก.... แฮ่ก...”
“โดนแค่นี้ก็หอบซะแล้วเหรอแบบนี้จะไปรอดไหมละหืมม” นางเอามือมาเชยคางฉันแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้….
“อ... อึก....” เจ็บใจ!
“ฉันจะไม่บอกใครว่าเธอแพ้ฉันเรื่องจูบเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทำตัวให้ดีๆซะ กลับบ้านได้แล้วเดี๋ยวไม่มีรถ” นางปล่อยมือออกจากคางฉันแล้วก็เก็บของเตรียมกลับบ้าน
“ด... เดี๋ยวสิ....”
“หืม?”
“จ.. จูบฉันอีกสิ”
“ห๊ะ? พูดอะไรนะพี่ไม่ได้ยิน”
“งื้อออ!!” ฉันเดินไปหานางแล้วค่อยพูดให้ได้ยินช้าๆชัดๆ
“จูบฉันอีกสิ” โอ้ยยย น่าอายเป็นบ้าทำไมฉันต้องมาทำแบบนี้ด้วยเนี่ย!!
“อยากจูบอีกรอบเหรอ? ไหนว่าเรื่องนี้ฉันห่วยไงทำไมถึงอยากจะจูบกับคนห่วยๆอย่างฉันกันละ” ในสภาวะตอนนี้นางยิ้มได้เกวนส้นตีนฉันมากฉันอยากเอาตีนตบหน้าแล้วจับจูบจริงๆ!!
“อย่าพูดมากน่า จูบซักทีสิฉันก็อายเป็นนะ”
“ไม่เอาอะขี้เกียจ”
“ได้!”
พลัก! ตึก!
“โอ้ย! นี่เธอจ-” ฉันรีบพลักนางให้ไปนั่งบนเก้าอี้พร้อมจูบนางก่อนที่นางจะบ่นไปมากกว่านี้ ให้ทำยังไงได้นางสูงกว่าฉันอีกคนบ้าไรโคตรสูง
ในรอบนี้ฉันจะไม่ยอมให้นางเป็นคนคุมเกมหร่อกฉันรู้ว่านางใช้การจูบแบบฝรั่งเศสถ้าอย่างนั้นฉันก็จะใช้บ้างแต่พอฉันดุนดันลิ้นรุกเข้าไปนั่นทำให้ฉันคิดได้ว่าฉันไม่น่าสอดลิ้นเข้าไปเลย... มันคือกับดักที่ล่อฉันให้เข้าหาแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็พยายามจะต่อสู้กันเสียงหอบหายใจที่สอดประสานกันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนต้องปล่อยจูบเพราะเริ่มที่จะขาดอากาศหายใจ แต่พอฉันถอนจูบออกนางก็เอาแต่ก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไร
“หึ ยอมแพ้ฉันแล้วสินะ เห็นกับว่าป้าค่อนข้างเก่งเรื่องจูบเหมือนกันฉันจะทำตัวเงียบๆไว้ละกันนะ”
“......”
“ไว้เจอกันสัปดาห์หน้า”
ตึง! แกร๊ก!
“ว้าย! อะไรเนี่ยป้าฉันจะกลับบ้าน เมื่อกี๊ประตูเกือบหนีบมือฉันแล้ว... นะ...” ฉันไม่รู้ว่านางเดินตามฉันมาตอนไหนแต่ตอนนี้ใบหน้าของนางดูคมเข้มและเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
“ได้พิสูจน์แล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันจูบเก่งงั้นไม่ลองพิสูจน์ดูว่าฉันมีเซ็กส์เก่งหรือเปล่า” พอนางพูดจบก็จับฉันให้หันหน้าเข้าหาประตูแล้วจับมัดฉันไว้ไม่ให้ขัดขืน ฉันลองใช้ขาเตะนางแล้วนางก็ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
“หยุดนะ! ฉันเจ็บ” ฉันบอกนางไปเพราะฉันเริ่มรู้สึกว่าสติของนางเริ่มไม่อยู่กับตัว
“พูดเพราะกับเขาเป็นด้วยเหรอคะน้องมีน” นางไม่ฟังฉันแล้วเริ่มลูบไล้ไปทั่วตัวพร้อมซุกไซร้ที่คอฉันถึงมันจะรู้สึกดีแต่ตอนนี้
“ปล่อยก่อนสิมันเจ็บจริงๆนะ” พอมีนพูดจบฉันก็ได้สติกลับคืนมาแล้วมองที่ข้อมือนางก่อนที่จะแก้มัดให้
“ฉ.... ฉันขอโทษเจ็บมากไหมดูสิแดงเลย ฉันขอโทษจริงๆ” นางพูดขอโทษซ้ำๆแล้วลูบข้อมือที่เป็นรอยแดงอย่างอ่อนโยน
‘น่าแกล้งจริงๆ’
“ฉันไม่ยกโทษให้”
“แล้วฉันจะต้องทำยังไงให้เธอยอมยกโทษให้ฉันละ”
“มีเซ็กส์กับฉันสิถ้าเธอทำให้ฉันไม่พอใจฉันจะไม่ยกโทษให้เธอ” พอฉันพูดไปนางก็ยิ้มหวานให้จนตาตี่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมองนางแล้วคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่ารัก....
นางบอกว่านางไม่อยากทำที่นี่ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรมากยังไงก็ได้ขนาดไปมีเซ็กส์กับผู้ชายในห้องน้ำสาธารณะฉันยังเคยมาแล้วเรื่องแค่นี้ฉันไม่สะเทือนเลยซักนิดแต่ก็ดีเหมือนกันนานๆทีได้ทำบนที่นอนดีๆก็ดีเหมือนกันนะชักรู้สึกเหมือนหมาข้างถนนขึ้นทุกวัน ฉันนั่งรถไปกับนางซักพักก็ถึงคอนโดหรูแถวนั้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัทมาก วันนี้ค่อนข้างร้อนฉันเลยจะอาบน้ำก่อนที่จะเริ่มกันและฉันอยากให้นางมาอาบน้ำด้วยมันเป็นการเพิ่มอารมณ์อย่างนึงที่ฉันชอบแต่พอนางถอดเสื้อผ้าฉันก็ต้องอึ้งกับขนาดหน้าอกหน้าใจของนาง
หมับ!
“ว้าย! อ... เอ่อ.. มีอะไรเหรอ” ฉันเดินไปจับภูเขาฟูจิของนางแล้วนางก็หันหลังมาถามฉัน
“ป้าเป็นพวกซ่อนรูปรึไงตอนใส่เสื้อผ้าไม่เห็นจะใหญ่ขนาดนี้” ฉันจับไปเรื่อยๆก็มันนุ่มแถวผิวยัยนี่ยังเนียนอีกต่างหากน่าหหงุดหงิดซะจริง
“ฉันจะไปรู้ไหมละเนี่ย อ๊ะ!”
“หืม เสียงอะไรน๊าเมื่อกี๊นี้” พอฉันพูดออกไปนางก็ปัดมือฉันออกก่อนจะพูด
“ช่างฉันเถอะน่าฉันจะออกไปละนะฉันอาบเสร็จแล้วเธอก็รีบๆอาบน้ำได้แล้ว” นางเดินหน้าแดงออกไปจากห้องน้ำ...
‘โอ้ยย ให้ตายเถอะอิป้านี่แม่งน่ารักจริงๆยิ่งแกล้งยิ่งน่ารักคอยดูอินี่ต้องเป็นของกู หึหึหึ’ ฉันรีบจัดแจงอาบน้ำสระผมให้เสร็จแล้วค่อยเดินออกไปเช็ดตัวข้างนอกเพื่อยั่วนางแต่นางดันนั่งเป่าผมแล้วมองกราฟอะไรก็ไม่รู้ในคอม.... ดอกเถอะคะ ฉันอยากจะเดินไปตบแล้วข่มขืนซะจริง -*-
“มานี่สิเดี๋ยวเป่าผมให้” นางเรียกให้ไปนั่งข้างๆโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“หึ!” ฉันทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินไปนั่งหน้าโต๊ะกระจกแล้วใช้ผ้าเช็ดผมค่อยๆเช็ดให้แห้งซักพักนึงนางเดินมาดึงผ้าเช็ดผมของฉันไปแล้วค่อยเอาไดรเป่าผมมาเป่าให้ฉันแทน
“งอนเหรอ”
“ฉันไม่ได้งอน”
“โอ๋ๆ ไม่งอนๆ”
“ฉันบอกว่าฉันไม่ได้งอนเป่าผมไปเลยป้าถ้าฉันเป็นหวัดฉันจะโทษเธอ”
“จ้าๆ”
‘ให้ตายสิฉันแพ้นางอีกแล้วหยุดสิ! หยุดยิ้มสิยัยบ้าเดี๋ยวนางก็รู้หมดหร่อกให้ตายสิ’ พอนางเป่าผมให้ฉันเสร็จก็หวีผมจัดแจงตัวฉันให้พร้อมสรรพเหมือนจะไปออกงานที่ไหนนางบอกว่าเป็นผู้หญิงควรดูแลตัวเองให้ดีตอลดเวลาฉันก็เลยเออ ออตามนางไป
“ถึงเวลาพิสูจน์แล้วนะว่าป้าเก่งจริงหรือเปล่าอย่าทำให้ผิดหวังละ” ฉันเดินไปคร่อมนางที่นั่งอยู่ขอบเตียง
“ไม่ผิดหวังแน่นอน” พอนางพูดจบฉันก็เริ่มประกบจูบกับนางในสภาวะตอนนี้ฉันรู้สึกติดใจจูบของนางอย่างมากผิวอันแสนนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมๆจากครีมอาบน้ำ ริมฝีปากอันน่าจุ๊บนั่นทำให้ฉันเคลิ้มได้ง่ายๆ
นางเริ่มไล่พรมจูบเบาๆจาก กกหูไปถึงไหปลาร้าลมหายใจอุ่นๆเบาๆสัมผัสผิวทำให้ฉันขนลุกซู่ นางไม่ได้เริ่มแบบดุเดือดอะไรค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่อยๆเล้าโลมไปทั่วตัวค่อยๆถอดเสื้อฉันช้าๆให้ฉันผลัดเป็นคนถอดเสื้อนางบ้างแต่จู่ๆนางก็หยุดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน
“เธอไม่รังเกียจฉันเหรอ” นางมองลึกเข้ามาในสายตาฉันแล้วพูด
“แล้วป้าละทำไมถึงไม่รังเกียจฉัน”
“เพราะฉันชอบเธอ” นางพูดออกมาให้ฉันได้ยินชัดๆพร้อมส่งสายตามาให้ฉันเชื่อว่าที่นางพูดนั่นคือเรื่องจริง
“แต่ฉันเกลียดเธอ....”
“นั่นสินะมันแปลกมากเลยสินะ...” นางคอตกทันทีที่ฉันพูดเว้นช่วงจบนั่นทำให้ฉันเจ็บอย่างบอกไม่ถูก
“หยุดฟังที่คนอื่นเค้าพูดให้จบก่อนสิย๊ะ” ฉันจับหน้านางให้เงยหน้าขึ้น
“ฉันเกลียดเธอที่ชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว ฉันเกลียดตอนที่เธอยิ้มให้ยัยพวกนั้นตอนที่ไปปาร์ตี้ฉลองกันทั้งๆที่เธอทำงานเหนื่อยกว่าพวกมันเธอควรได้พัก ฉันเกลียดเธอที่ชอบพยายามทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้พนักงานคนอื่นเห็น เธอรู้อะไรไหมฉันเห็นนะเธอแอบไปกินยาแล้วก็แอบหลับในที่ทำงานเพราะทำงานในวันนั้นไม่หมดเลยต้องทำงานโต้รุ่งถึงสองวัน”
“น... นี่เธอ”
“ฉันยังพูดไม่จบ ฉันไม่อยากให้เธอแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียว.... แต่ฉันชอบนะที่เธอเขินตอนฉันแกล้ง” พอฉันพูดจบแล้วเอานิ้วจิ้มแก้มนางก็ยิ้มจนตาตี่อีกครั้งแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างรัวๆ
“ทำอะไรเนี่ยป้าแก้มจะช้ำหมดแล้วนะ”
“ไม่ต้องพูดมากมาเป็นเมียพี่ซะดีๆน่ารักขนาดนี้จะปี้ให้ร้องขอชีวิตเลยเชียว”
“งั้นก็หยุดพูดแล้วพิสูจน์ด้วยการกระทำซะ”
พอนางได้ยินที่ฉันพูดจบนางก็อุ้มฉันให้ไปนอนบนเตียงแล้วเริ่มจัดการเนินอกของฉันต่อสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความดุดันทำให้ฉันเสียวท้องน้อยเป็นอย่างมากและฉันดันส่งเสียงอันน่าอายให้นางฟังอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าฉันจะเคยมีเซ็กส์กับผู้ชายมาแล้วหลายคนแต่ก็ไม่มีใครทำให้ฉันมีความสุขได้ขนาดนี้มาก่อนแต่ฉันอยากให้นางรู้ว่าฉันชอบทุกอย่างที่นางทำกับฉัน เสียงอันแสนกระเส่าของฉันเป็นเครื่องมือสื่อสารชั้นดีที่ทำให้นางรับรู้ว่าฉันอยากให้นางทำส่วนล่างขนาดไหน
และนางก็ไม่ปล่อยให้ฉันรอนานมือที่เคยขย้ำเนินอกของฉันอย่างชำนาญได้เลื่อนลงไปส่วนล่างเพื่อสานต่อกิจกรรมของเราจูบอันแสนเร้าร้อนได้ส่งมาให้ฉันอีกครั้งก่อนที่นางจะสอดนิ้วเข้าไป
“หูว ผ่านศึกมาเยอะแต่ยังฟิตอยู่ใช้ได้เลยนะเนี่ย”
“แน่นอน ถ้าไม่ฟิตใครจะเอาละ”
“ฉันไง”
“ยัยป้าแก่เอ้ย” พอฉันพูดจบนางก็เริ่มขยับนิ้วที่เรียวยาวของนาง
นางเริ่มขยับนิ้วเร็วขึ้นเรื่อยๆความเสียวซ่านที่ฉันได้รับก็เพิ่มขึ้นเรื่องๆเช่นกัน เสียหายใจที่สอนประสานกันและเสียงครางดังไปทั่วห้องเราผลัดกันจูบผลัดกันขยับแต่จู่ๆนางก็ค่อยๆลดความเร็วลงแล้วคว้านนิ้วเหมือนหาอะไรซักอย่าง หีคนนะคะไม่ใช่ถ้ำสมบัติจะได้มีเงินมีทองไว้ให้ค้นหา
“ป้ากำลั- อ๊าส์~!” ฉันกำลังจะถามนางว่านางกำลังจะทำอะไรแต่จู่ๆก็รู้สึกเสียวขึ้นมาทันทีมันเป็นความเสียวที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อนและมันเป็นความเสียวที่สุดยอดมากฉันแทบจะเสร็จกิจไปแล้ว
“ใจเย็นนะๆไม่ต้องเกร็งมันจะเจ็บเอา”
“น... นี่ป้าทำอะไรอะ ซี๊ด~~”
“เทคนิคของฉันหน่ะค่อยๆผ่อนคลายนะตอนนี้มีนเกร็งเกินไปแล้วนะคะ” นางพูดด้วยเสียงหวานๆกรอกหูฉันให้ฉันผ่อนคลายลงแต่ฉันจะผ่อนคลายได้ยังไงกันเธอทำฉันเขินมากเกินไปแล้วน่าหมั่นใส้ที่สุด!! Q////*////Q
“จะต่อละนะ” พอนางพูดจบนางก็เริ่มขยับวันข้างในฉันช้าๆมันทำให้ฉันเสียวมากในตอนนี้ฉันไม่อยากจะคิดอะไรแล้วฉันต้องการนิ้วของนางฉันอยากให้นางทำฉัน ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วลาก่อนผู้ชายทั้งหลายพวกนายทำให้ฉันมีความสุขได้ไม่เท่ายัยป้าคนนี้เลยซักนิด ฉันไม่รู้ว่าฉันร้องดังขนาดไหนฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความทรมานนี้จะจบแต่เซ็กส์ครั้งนี้จะเป็นเซ็กส์ที่ฉันจะจดจำไปตลอดชีวิต
“อ... อ๊า! อ๊ะ! อ๊าส์! ลิน... อ๊า ช่วยเค้าทีเค้าทรมาน... อื้ม~ จุ๊บ...” นางค่อยๆเพิ่มจังหวะขึ้นเรื่อยๆและฉันก็เด้งเอวรับนิ้วเรียวนั้นก่อนที่จะ..
“ลิน.... อ๊า! ฉันรักเธอ! อื้ออออ!!!” ฉันกอดรัดนางไว้แน่นจนฉันเสร็จกิจไปเป็นที่เรียบร้อย
“อึก... ฮ๊า... ”
“เธอรักฉันไหม”
“ห๊ะ?... เธอจะมาถามฉันทำไม” จู่ๆนางก็มาพูดถามข้างหูฉัน
“ฉันอยากได้ยินอีก พูดให้ชัดกว่าเมื่อกี๊หน่อยสิ” นั่นไงมามุขนี้อีกแล้ว ส่งสายตาหวานผ่านแววตาคมๆนั่นอีกแล้ว!
“โลภเกินไปแล้วนะป้าฉันขยับตัวไม่ไหวแล้วเนี่ยเห็นไหม” ฉันพยายามเบี่ยงหน้าเพื่อไม่ให้นางเห็นใบหน้าของฉันเพราะฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันทำหน้ายังไงแล้ว
“งื้ออ เค้าอยากได้ยินอ๊ะ พูดให้ฟังหน่อยย” นางเอียงตัวลงมานอนด้านข้างแล้วกอดฉันพร้อมเอาหัวซุกไซร้ที่คอเพื่ออ้อน มันทำให้ฉันจั๊กจี้มาก
“งื้อออ อย่าเอาหัวถูสิมันจั๊กจี้”
“ก็ตัวมีนนุ่มนิ่มนี่นา แถมหอมอีกต่างหาก ตรงนี้ก็หอม... จุ๊บ ตรงนี้ก็หอม.. จุ๊บ.... ตรงนี้ก็หอม.... จุ๊บ” นางพูดไปพร้อมจุ๊บทิ้งไว้3ที่ หลังคอ หลังหูและบ่า
“อ... เอาที่สบายใจเลยก็แล้วกันย๊ะ”
“แล้วจะบอกรักเค้าได้ยัง”
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้แก่จะหลัก4แล้วนะ”
“แต่ก็รักใช่ไหมละ” ฉันไม่พูดตอบอะไรแต่พยักหน้าให้นางรู้
“หันหน้ามาหาฉันหน่อยสิ” นางค่อยๆช่วยฉันพลิกตัวให้หันหน้าไปหานางแล้วนางค่อยพูดขึ้นด้วยดีหน้าจริงจัง
“ลินรักมีนนะคะ” คำๆนั้น น้ำเสียงนั้น ที่นางพูดออกมาทำให้ฉันอบอุ่นไปทั้งหัวใจความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีนี่มันอะไรกัน มันใช่ความรู้สึกที่พ่อกับแม่ฉันมีให้กันรึเปล่านะ...
“มีนรักลินเช่นกันคะ”
ความเขินอายได้หายไปหมดสิ้น ความสุขได้เข้ามาแทนที่ คำพูดคำนี้ที่ออกมาจากปากฉันในชีวิตนี้ฉันไม่คิดว่าจะได้พูดกับใครแบบนี้ มันเป็นคำที่แสนธรรมดาไม่ได้สวยหรูอะไร เป็นแค่ 3 อักษรที่เอามาประกอบกันก็เท่านั้นและไม้หันอากาศในคำๆนี้ความหมายมากเลยมันคือสระที่เชื่อมต่อตัวอักษร2ตัวเข้าด้วยกันเปรียบเสมือนความรักของเราที่มีฉันและเธอเชื่อมต่อกันด้วยความรักยังไงละ <3
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ