รักเราลืมตาย
เขียนโดย Kendo_Jirawat
วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.48 น.
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 07.29 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) รักเราลืมตาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโลกที่ผมอยู่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ในเขตใจกลางเมืองที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนที่เคยเดินกันขวักไขว่ในตอนนี้กลับเงียบสงัด ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตราวกับผมนั้นมีชีวิตอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ไม่ใช่สิ...ถ้าจะพูดให้ถูก จริงๆตอนนี้ผมก็เหมือนไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ผมกลายเป็นเพียงแค่ซากศพเดินได้กลายเป็นตัวที่ชอบเขมือบสมองของมนุษย์ หรือที่พวกคุณรู้จักกันดีอยู่แล้วนั่นก็คือ ‘ซอมบี้’
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ก่อน วันนั้นเป็นวันที่ผมกำลังจะมีความสุขที่สุดกับชีวิตแต่งงานของผมกับแอนนาว่าที่ภรรยาของผม แต่มันกลับกลายเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ในฐานะมนุษย์ปกติธรรมดาคนหนึ่ง รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินให้ทุกคนรีบอพยพออกจากเมืองไปทางตะวันตกภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง โดยที่ไม่บอกถึงเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? งานวิวาห์ของเราจึงล่มลง ผมให้แอนนาเดินทางไปพร้อมกับครอบครัวของเธอก่อนโดยเราสัญญากันว่า เราจะไปพบกันเรือนหอของเราที่อยู่ชานเมืองทางด้านตะวันตก ส่วนผมจะกลับไปเก็บข้าวของที่จำเป็นที่บ้านของผมซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมือง
“แจ็คสัญญากับฉันนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณจะต้องกลับมาให้ได้นะ ฉันจะรอคุณ”
“ถ้าเรื่องทุกอย่างจบลง เราจะต้องได้พบกันอีกครั้ง ผมสัญญา”
“ฉันรักคุณนะ”
“ผมก็รักคุณแอนนา”
เรากอดลากันเพื่อหวังที่จะได้พบกันใหม่ และผมก็จุมพิตที่หน้าผากของเธอแทนคำสัญญาว่าเราจะต้องได้พบกันอีกครั้ง
ผมเดินทางกลับมาที่บ้านของผมเพื่อเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าเป้ ก่อนที่จะเดินทางตามไปพบกับแอนนา แต่มันก็ไม่ทันเวลาเสียแล้ว เสียงปืนดังขึ้นที่บริเวณหน้าบ้านของผมเป็นระยะๆ ทหารหลายสิบนายกำลังยิงสกัดซากศพนับร้อยที่กำลังวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมที่จะกัดกินร่างของพวกเขาอย่างไม่ลดละ ผมทำได้เพียงแต่แอบหลบอยู่ภายในบ้าน และหวังให้พวกซากศพเดินได้เหล่านั้นผ่านไป
ไม่นานนักเสียงปืนก็สงบลง ภาพที่เห็นตอนนี้คือซากศพเหล่านั้นกำลังฉีกร่างของทหารทั้งหมดเป็นชิ้นๆ พวกมันกัดกินศพของทหารเหล่านั้นอยู่พักใหญ่ ก่อนที่บรรดาซากศพทั้งหมดนั้นจะพากันเดินต่อไปทางใจกลางเมือง ผมเปิดประตูเดินออกมาและค่อยๆ ก้าวข้ามซากศพที่ถูกทหารยิงจนล้มแน่นิ่งไป แต่แล้วก็มีมือข้างหนึ่งคว้าขาข้างขวาของผมแล้วกำไว้แน่น เมื่อก้มลงไปมองก็ได้พบกับหญิงสาวที่มีรอยกระสุนเจาะทะลุเป็นรูใหญ่ตรงกลางหน้าผาก เธอกัดเข้าที่ขาข้างขวาของผม
ผมใช้กระเป๋าเป้เหวี่ยงเข้าไปที่ใบหน้าของเธอ ก่อนที่จะชักขาขวาออกจากปากของเธอแล้ววิ่งหนีออกมา ผมวิ่งมาหลบอยู่ที่ซอกตึกแห่งหนึ่ง ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ขาทำให้ผมก้าวขาต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว แอนนาผมขอโทษที่ผมคงไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณได้อีกแล้ว แต่ผมขอสัญญาว่าจะรักคุณตลอดไป...ภาพตรงหน้าค่อยๆเลือนลางลง นี่ผมกำลังจะตายจริงๆแล้วใช่ไหม?
**********
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับร่างกายที่ไร้ความรู้สึกนึกคิด ตัวผมในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ป่าที่หิวกระหายโดยไม่มีที่สิ้นสุด ผมกัดกินร่างกายและสมองของมนุษย์ หลายสิบคนภายในเวลาสองสัปดาห์ และไม่มีทีท่าว่าความหิวกระหายนี้จะหมดสิ้นไปแม้แต่น้อยจนกระทั่ง...วันนั้นผมเดินผ่านเวดดิ้ง สตูดิโอ แห่งหนึ่ง ภาพที่เคยเลือนลางจนเกือบจะหายไปจากหัวของผมนั้นได้ย้อนกลับคืนมาอีกครั้งในทันที
ถึงแม้สภาพเวดดิ้ง สตูดิโอ ที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้จะถูกทิ้งร้าง ไม่หลงเหลือสภาพเดิมจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็ตาม แต่ผมก็จำได้ขึ้นใจว่าพวกเราเคยมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ที่สตูดิโอแห่งนี้ ใช่...ผมจำได้แล้ว นี่ผมมัวแต่ทำอะไรอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องทำก็คือไปหาเธอ แอนนาคุณรอผมนะ ผมกำลังจะไปหาคุณ ถึงแม้ตอนนี้ผมจะเป็นเพียงแค่ซากศพเดินได้ที่ไร้ความรู้สึก แต่ผมจะไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณอย่างแน่นอน
ผมเดินจากชานเมืองตะวันออกจนมาถึงบริเวณชานเมืองทางด้านตะวันตกกินระยะทางหลายสิบกิโลเมตร ถ้ามีรถยนต์ใช้เวลาไม่นานนักก็คงมาถึง แต่ร่างกายไร้ความรู้สึกจนแทบจะไม่มีประสาทสัมผัสแบบนี้จะไปขับรถยนต์ได้ยังไงกันล่ะ อีกไม่กี่กิโลเมตรข้างหน้าก็จะถึงจุดหมายแล้ว เรือนหอของเรา...
สภาพเมืองทางด้านตะวันตกนี้แทบไม่ต่างจากเมืองทางด้านตะวันออกเลยแม้แต่น้อย เพราะที่นี่ถูกปล่อยทิ้งร้างเหมือนกัน ผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่คงจะอพยพออกไปจากเมืองกันนี้กันหมดแล้ว เพราะระหว่างทางที่ผมเดินอยู่ตอนนี้ก็เห็นเพียงแค่ซากศพที่เเทบจะเหลือแต่โครงกระดูกบ้าง รวมถึงซากศพเดินได้แบบผมก็ยังคงเดินสวนกันกับผมอยู่บ้างตลอดทาง แต่ผมหวังก็ยังหวังอยู่ลึกว่าๆแอนนาเธอจะยังคงรอผมอยู่ และก็เป็นไปตามที่ผมคาดการณ์เอาไว้ เธอยังคงรอผมอยู่จริงๆ
ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้ ถึงแม้ใบหน้าครึ่งหนึ่งทางด้านซ้ายของเธอผิวหนังจะหลุดลอกออกไปจนเห็นแต่กระดูกแล้วก็ตาม แต่ใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งทางด้านขวาของเธอยังคงเหมือนเดิม ไม่ต่างจากวันนั้นที่เราแยกจากกันเลยแม้แต่น้อย
“ในที่สุดคุณก็มา...แจ็คฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน”
“ผมสัญญากับคนที่ผมรักที่สุดเอาไว้ว่าเราจะต้องพบกันอีกครั้ง จะให้ผมผิดสัญญาได้ยังไงกันล่ะ”
เราโผเข้ากอดกันอีกครั้ง และจูบกันด้วยสัญญาครั้งใหม่ว่าเราจะไม่พรากจากกันอีก เราจะไม่มีวันลืมกัน จะไม่มีอะไรมาพรากความรักไปจากเราได้แม้แต่ความตาย
THE END
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ