ผีเสื้อสีดำ
เขียนโดย กระบี่ใบไม้
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.00 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2558 20.08 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเธอคือรักแรกของเขา และเขาก็คือรักแรกของเธอ
เขาเคยคิดอย่างนั้น
ยังจำวันนั้นได้ดี ในวันที่เขาสารภาพรักกับเธอที่เนินเขาแห่งนั้น
เธอชี้ไปที่ดอกไม้ดอกหนึ่ง “พี่จ๋า ดูนั่นสิ ผีเสื้อ ผีเสื้อสีดำกำลังเกาะที่ดอกไม้”
เขามองไปที่ดอกไม้ดอกหนึ่งที่มีผีเสื้อสีดำเกาะอยู่ ดอกไม้สวยมาก ผีเสื้อก็สีดำมากเช่นกัน
เขาบอกไม่ได้ว่ามันดำขนาดไหน บอกได้แต่เพียงว่าเห็นปีกที่กำลังไหว ๆ ของมัน เหมือนสีดำของหมึกที่สะบัดแต้มไปที่ดอกไม้แดงดอกนั้น
เขาไม่ชอบใจเลย ก่อนที่จะโบกมือสะบัดไล่มัน มือเล็ก ๆ ของหญิงสาวก็พลันมากุมมือไว้
“อย่าไล่มันเลยพี่ มันสวยดีออก”
เขาชะงักค้าง “มันไม่เข้ากันเลยนะ”
เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน หันมาซบที่ไหล่เขา
“พี่จ๋า ถ้าวันหนึ่งหนูดูไม่เข้ากันกับพี่ พี่ยังจะรักหนูไหม”
“พี่จะรักเธอ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไงก็ตาม เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
เขาจำได้ว่าเขาตอบเธอไปอย่างนั้น แล้วเขาก็จำได้ว่า คำตอบในขณะนั้นมันกลั่นออกมาจากหัวใจที่สุด
นั่นคือคำสัญญา ก่อนที่เขาจะได้แต่งงานกับเธอ
เขามองดูมือที่ซีดขาวของเขา มันสั่นน้อย ๆ แต่ความรู้สึกหนาววูบมันมาอยู่ในขั้วหัวใจ
วันนี้เขาอยู่ในชุดเจ้าบ่าว แต่เจ้าสาวกลับไม่ใช่คนที่เขาเคยรักคนนั้น
“เธอหนีเขาไปแล้ว” นั่นเป็นสิ่งที่เขาบอกใครต่อใครไปอย่างนั้น
ใช่สิ เธอหนีเขาไปแล้ว ไปสู่โลกอื่นที่ไกลแสนไกล
เธอหนีเขาไปวันนั้น วันที่เขากระชับมีดจ้วงแทงเธอ ไม่ยั้ง ภรรยาที่รักยิ่งของเขา มือน้อย ๆ ที่ค่อย ๆอ่ อนแรงพยายามยื้อมีดในมือของเขาเอาไว้ เสียงหวีดร้องที่ดังเยือกยาวในคืนอันเศร้าสลดคืนนั้น
เธอจากเขาไปด้วยถ้อยคำถามสุดท้าย พร้อมด้วยแววตาไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นสุดสุด
“พี่จ๋า พี่ฆ่าหนู” ทำไม?
เขาจำได้ว่าเขายืนนิ่งอึ้งอย่างไม่มีคำตอบ เธอจากไปแล้ว
ต่อให้เขาตอบเธอไปเธอก็ไม่ได้ยินอีกแล้ว
“เพราะเราไม่เหมาะสมกันยังไงล่ะ”
ชายหนุ่มกินเหล้าเมามายในวันแต่งงานใหม่ของเขา แขกผู้มีเกียรติทยอยชนแก้วกับเขาด้วยความยินดี
“ใช่แล้วล่ะ เราไม่เหมาะสมกัน เหมือนผีเสื้อดำกับดอกไม้แดงดอกนั้นไงล่ะ”
“เจ้าสาวคนใหม่ของฉัน ถึงจะสวยไม่เท่าเธอ แต่เขาก็รวยมาก หล่อนมีเงินและคนในตระกูลของหล่อนก็มีอำนาจ เธอไม่ผิดอะไรหรอกนะ แค่เราไม่สมกันเท่านั้นเอง”
เขากรอกเหล้าอึกสุดท้ายก่อนเดินโซเซ เข้าไปสู่ห้องหอ
ในความเมามายนั้นเขาเห็นผีเสื้อสีดำตัวหนึ่งบินตัดผ่านหน้า เขาชะงักนิดนึง อยากจะขยี้มันทิ้ง แต่เขาก็ปล่อยมันบินผ่านไป
“วันนี้เป็นวันมงคล ฉันจะปล่อยแกไปคราวหนึ่งแล้วกัน”
ชายหนุ่มพึมพำก่อนเดินโซเซ เข้าไปในห้อง
เขาได้ยินเสียงพึมพำดังมากับสายลมนอกหน้าต่าง เสียงมันเบาหวิวแต่สายลมกลับเย็นเยือกเกาะไปถึงไขสันหลัง
“พี่จ๋า พี่ฆ่าหนูทำไม?” เขาขนลุกซู่ แต่ก็พยายามสะบัดหน้าเรียกสติตัวเอง
“หูฝาดอีกแล้วเรา”
ชายหนุ่มเดินตรงไปหาเจ้าสาวที่นั่งบนเตียงอยู่ตรงหน้า ร่างกายสั่นน้อย ๆ สะเทิ้นอายอยู่อย่างนั้น
มืออันสั่นไหวค่อย ๆ เอื้อมมือไปเปิดผ้าที่ปกคลุมใบหน้าของเจ้าสาว
ฉับพลันนั้นเอง เขาก็ต้องตกใจสุดขีด ใบหน้าที่เห็นอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เจ้าสาวของเขา มันขาวซีดเผือดเหมือนไม่เคยมีเลือดหล่อเลี้ยงมาก่อน ริมฝีปากของเธอแห้งผาก และตกสะเก็ด สาบานได้ว่าเขาได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของเธอ
“พี่จ๋า พี่ฆ่าหนูทำไม?” เขาผงะถอยกรูดไปติดที่มุมห้อง ขณะที่ร่างของผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินเข้ามาใกล้
“ไม่นะที่รัก ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” ในความลนลานช็อคสุดขีด เจ้าสาวคนใหม่ของเขาเคลื่อนกายลอยเลื่อนมาหาเขาช้า ๆ
เขาเห็นปีกสีดำของผีเสื้อขนาดใหญ่กำลังกระพือจากด้านหลังของเธอ
“ไม่นะ ไม่ ไม่...”เขาเกลือกกลิ้งลนลาน เพราะความตกใจอย่างสุดขีด
ทันใดนั้นเองมือเขาก็พลันป่ายไปคว้ามีดเล่มหนึ่งได้ มีดเล่มนี้มาจากไหน? ในห้องหอจะมีมีดได้อย่างไร?
แต่เขาก็ไม่สนใจแล้ว เขากระซวกแทงผีอดีตคนรักที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุดชีวิต หยาดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งห้อง เสียงกรีดร้องโหยหวนเยือกเย็นตัดค่ำคืนอันเป็นมงคลอย่างน่าหวั่นสยองเป็นที่สุด
เขาแทงๆๆๆ ไม่ยั้ง จนร่างนั้นทรุดลง ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดผ่านมาจากนอกหน้าต่าง เขาเห็นใบหน้าที่ชัด ๆ อีกครั้ง
พระเจ้าช่วย มันเป็นใบหน้าของเจ้าสาวคนใหม่ของเขานั่นเอง!!!!
“พี่จ๋า พี่ฆ่าหนูทำไม?”เสียงพึมพัมเยือกเย็นนั้นยังคงก้องอยู่ในหัว ผีเสื้อสีดำตัวหนึ่งกำลังบินมาเกาะที่ซากศพนั้น
“ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ฆ่าเธอนะ”เขากรีดร้องเสียงดังสุดขีด พร้อมวิ่งออกมาจากงานแต่งนั้นอย่างสุดชีวิต
ท่ามกลางผู้คนที่ตกตะลึงทั้งเมื่อเห็นเจ้าบ่าวถือมีดเลือดชุ่มวิ่งออกมา
“ไม่นะที่รัก ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” เขาตะโกนก้องพร้อมวิ่งหนีสุดชีวิต ผีเสื้อสีดำสนิทตัวหนึ่งมันกำลังบินตามเขาอยู่ ผีเสื้อตัวใหญ่สีดำ แต่มีใบหน้าที่ขาวซีดของอดีตภรรยาที่เขาเคยฆ่า
“พี่จ๋า พี่ฆ่าหนูทำไม?” เสียงพึมพัมนั้นก้องไปมา ไม่ว่าเขาจะวิ่งไปทางไหน ผีเสื้อสีดำตัวนั้นก็จะบินตามไปตลอด
ก่อนที่เขาจะไปจนมุมที่เนินเขาแห่งหนึ่ง
ที่เนินเขาแห่งนั้นเองที่เขาเคยให้คำสัญญากับคนบางคนเอาไว้
“พี่จะรักเธอ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไงก็ตาม เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
“พี่จ๋า พี่ฆ่าหนูทำไม?”เสียงพึมพัมนั้นดังก้องอยู่ในหัว
ชายหนุ่มใช้มีดเล่มเดียวกับที่เคยฆ่าหญิงสาวนั้น ปักไปที่อกซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาจากไปพร้อมด้วยเสียงอันพึมพัมเป็นครั้งสุดท้าย
“...เราจะอยู่...ด้วยกัน...ตลอดไป...อย่าแค้นฉันอีกเลยนะ...อิ..นา..ริ”
ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1636 ที่ประเทศญี่ปุ่น “โออิวะ อินาริ” หญิงสาวคนหนึ่งได้ถูก “อิเอมอน” สามีฆ่าตาย เพราะเขาวางแผนจะแต่งงานใหม่ แต่เหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวหลังจากนั้นกลับมีมากกว่า ในคืนที่ “อิเอม่อน” แต่งงานใหม่นั้นเอง เขาก็คลุ้มคลั่ง ฆ่าเจ้าสาวของตน ก่อนจะวิ่งหนีอย่างคนเสียสติและฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา
ปัจจุบันมีวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ในเกียวโต เขตชินจูกุ ในวัดจะมีที่ตั้งของศาลเจ้าทะมิยะ โออิวะ อินานิ จินจะ ซึ่งเป็นที่อัญเชิญดวงวิญญาณของโออิวะ มาอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพรกัน และเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวนี้เองได้ถูกนำมาเขียนเป็นบทละคร บทภาพยนต์และนิยายมากมาย จนกลายเป็นตำนานสยองขวัญอีกเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่นยาวนานมาจนถึงบัดนี้
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ