แค่ปล่อยมือ ก็เท่านั้น
เขียนโดย กวนมึนตึบ
วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.
แก้ไขเมื่อ 10 กันยายน พ.ศ. 2558 23.58 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1) ไม่เคยรู้เลย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ไม่เคยรู้เลย
เรื่องมันงี่เง่าสิ้นดี แต่ก็อยากเล่า
เคยเป็นกันไหม ไม่สนใจแต่พอหายไปก็มีบางครั้งที่มองหา ปากบอกไม่ชอบ แต่สายตาคอยมองว่าเค้าทำอะไร ทั้งที่ตั้งสถานะซะสวยหรู มองข้ามเค้าตลอด แต่ตอนนี้กลับมานั่งคิดเรื่องบ้าบอไม่ยอมหยุด
เรื่องมันเพราะได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง มันก็หน้าตาธรรมดาชาวโลกตัวสูงหน่อย แต่เราก็เฉยๆ แต่ที่ไม่ชอบเลยคือสายตาและปากหวานๆของมัน ไม่ใช่อะไรหรอกถ้ามันไม่ชอบเอาคำหวานๆมาใช้กับเรา
จนวันหนึ่งมันเริ่มมีคนเข้ามาคุย เราก็เฉยๆ ดีซะอีกที่มันไปพ้นๆ แต่ก็มีบ้างที่มองหาคนที่ชอบมาป้วนเปี้ยนรอบๆ ตัว และวันต่อมามันก็ควงอีกคนเสนอหน้ามาป้วนเปี้ยนให้เราเห็น เราก็ได้แค่คิด แม่ง เจ้าชู้ชัวร์ไอ้หอกนี่
มันก็คบๆ เลิกๆจนมันมาคบกับเพื่อนของเรา คนใกล้ตัวซะด้วย ตอนแรกเราก็แปลกใจ แต่ก็รอดูว่ามันจะจริงจังกับเพื่อนเราแค่ไหน ระหว่างที่คบกันมันก็แวะเวียนมาห้องเราบ่อยๆ เอาจริงๆตอบแบบไม่รักษามารยาท รำคาญเหมือนกัน มาห้องเราบางทีก็มานั่งเล่นแฟนมันไม่มา แต่แม่งก็บอกว่ามารอแฟนมัน
บางวันก็มาชวนเราไปกินข้าว คิดว่าไงล่ะ แฟนเพื่อนแถมเหม็นขี้หน้ามันด้วย บอกปัดๆไปเลย
"จะไปกินข้าวกับแฟน " โกหกหน้าตายทั้งที่ตูโสดสนิท แล้วพอหลังๆ เพื่อนเรามีอาการแปลกๆ มันมองเราบ่อยๆ พูดประชดบ่อยๆ อย่างเช่น
"อยู่ห้องเดียวกันเจอกันที่ห้องเรียนไม่พอ มึงต้องไปเจอกันที่ห้องอีกเหรอ " ยอมรับว่า งง แต่คิดว่ามันคงคิดมาก เลยพูดกับมันให้เคลียร์
"เฮ้ย เรากับนายนั้น เป็นเพื่อนกัน เค้าบอกว่าไปรอเธอที่นั้น เพราะเธอบอก " พูดไปตามตรง แต่ผมที่ได้คือแววตาโกรธเคืองแล้วเดินหนีไปอย่างฉุนเฉียว
แล้วไม่รู้มันโกรธอะไรกัน ไอ้นั้นก็โทรมาบอกให้มารับเพื่อนที่หน้าหอหน่อย อ้อ ปกติหอเราจะล็อคประตูแต่จะมีกุญแจสำรองไว้ให้เปิดปิดได้ เราก็งง ว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกัน แต่ก็ไม่ได้ถามไป เดินออกไปเปิดประตู แล้วไอ้นั้นก็เอารถเข้ามาจอดหน้าห้อง แล้วอุ้มแฟนที่เป็นเพื่อนเราลงมา เราก็เปิดประตูห้องให้ มันก็พาแฟนมันไปนอนที่เตียง
"ไปทำอะไรมาเนี้ย ทำไมมันเมา " ปากก็ถามมือก็จัดท่านอนของเพื่อนไป ไอ้นั้นก็เงียบไม่ตอบ
"โกรธเหรอ ไม่ได้ทำอะไรเพื่อนเธอหรอก " จะโกรธก็ไอ้ตอนสายตากรุ่มกริ่มที่มันแสดงออกมาเนี้ยแหล่ะ
"เปล่า แล้วจะนอนไหน " ไม่ใช่จะนอนนี้นะ คิดว่ามันคงไม่กล้าหรอก
"นอนนี้แหล่ะ เฝ้าเค้าด้วย หรือไม่ได้ รังเกียจเหรอ " มันนั่งลงบนขอบเตียง แล้วมาสะกิดถาม อะไรมันจะกล้ามาแตะต้องตัวกันขนาดนี้ แต่เราก็เฉยๆ ไม่อยากจะมีมารยาทเท่าไหร่ แต่ก็นะ แฟนเพื่อนแถมเป็นเพื่อนในห้องอีก
"ก็เอาดิ นอนข้างล่างนะ เราจะนอนบนเตียงกับยัยนี่เอง " ว่าจบก็ขนที่นอนปิกนิก หมอนกับผ้าห่มผืนเล็กลงไปกองไว้ข้างเตียง แล้วไปอาบน้ำ พอออกมา ก็เจอมันยืนอยุ่ตรงตู้เสื้อผ้า แล้วก็ตกใจนิดๆ มันก็ยิ้มให้นิดหน่อยก่อนเดินออกจากตู้ให้เราเอาแป้งชุบหน้า ไม่เรียกว่าทาแล้ว ก็เล่นพอกจนหน้าขาววอกทุกวัน
"น่ารักดีนะ "อยุ่ๆมันก็กลายเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาซะงั้น เราไม่สนใจ พอกแป้งเสร็จก็กระโดดขึ้นเตียงนอน
"นอนแล้วเหรอเธอ ทำไมดูเธอไม่ชอบเราเลยล่ะ " เราเงียบ ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่อะไรหลายๆอย่างในตัวของไอ้นั้นมันทำให้เราไม่อยากเข้าใกล้ แต่บางทีก็รู้สึก อยากรู้ว่าคนๆนี้ซ่อนอะไรไว้กันแน่
"ก็เปล่า " เปล่าไม่ชอบ แต่เหมือนเกลียดกลายๆ บอกเหตุผลไม่ถูกเท่าไหร่
"แล้วไม่คิดจะชอบเราบ้างเหรอ เฮ้ย แบบเพื่อนก็ยังดี "แวบแรกที่มันถามก็อดตกใจไม่ได้ ใจเต้นรัวๆไปพักหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะนิ่งเงียบกับคำพูดมันซะ
"พอกันได้รึยัง ไหนบอกว่าไม่สนใจไง แก ทำให้ฉันเสียใจว่ะ " และกลายเป็นเพื่อนที่นอนเหมือนเมาไม่ได้สติ ลุกพรวดขึ้นมาจ้องหน้าเรา แล้วบีบแขนเราแบบค่อยๆลงน้ำหนักตามความโกรธที่เริ่มเพิ่มขึ้น
"ใจเย็นดิ เธอจะอะไรหนักหนา เรากับเพื่อนเธอเป็นเพื่อนห้องเดียวกันนะ " เราได้แต่เงียบ ปล่อยให้เพื่อนบีบแขนอยุ่อย่างนั้น ก็เข้าใจล่ะนะว่าเพื่อนโกรธ แต่ก้อดน้อยใจไม่ได้ ว่าเพื่อนเห้นผู้ชายคนนั้นสำคัญกว่าเรา
แล้วพวกเค้าก็พาก็ลากกันออกจากห้องไป ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป โทรศัพท์มือถือเราก็ดั่ง เป็นชื่อเพื่อนเราโทรมา เราก็รับ
"ไหนบอกว่าเพื่อนกันไง แล้วทำไมเวลาอยุ่กับกู มันถึงเพ้อหาแต่มึงห้ะ " เราเงียบ ตั้งแต่รู้จักผุ้ชายคนนี้ ไม่เคยมีเรื่องดีๆเข้ามา มีแต่เรื่องวุ่นวาย ทั้งโดนแฟนนายนั้นแต่ละคน ด่าทั้งๆที่ไม่รู้เรืองและมาวันนี้เพื่อนก็ดันมาด่าเรื่องเดิมๆ
"ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่มันไม่มีอะไรจริงๆ " พยายามใจเย็น ก็คิดว่าเธอคือเพื่อนนั้นแหล่ะ
"ไม่รู้หรอ ท่าทีเป็นห่วงนั้นมันอะไร แล้วไอ้การที่แฟนตัวเองบอกว่าผู้หญิงคนอื่นน่ารัก แปลว่านังคนนั้น ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่รู้เรื่องเลย งั้นเหรอ " ยอมรับว่าโกรธ และเริ่มเกลียดนิสัยของผู้ชายคนนี้ และเริ่มไม่รู้ว่าเพื่อนเรานั้น เคยใช่คนที่เราสนิทอยู่ไหม
"พอที เลิกกันเลยไหม ทำไมไม่เคยโทษตัวเอง " เสียงไอ้คนนั้นดังรอดสายมาให้ได้ยิน
"แล้วทำไมต้องโทษตัวเอง ก็คนมันทำให้เห็นเต็มตา ได้ยินกับหู รักมันมากใช่ไหม " ไม่รู้อะไร ท้งที่ใจอยากวาง แต่ร่างกายมันชาๆ นี่คือคำพูดของเพื่อนเหรอ ฟังแล้วซึ้งชะมัด
แล้ววันต่อมา ไอ้คนนั้นก็มาหาที่หอ บอกว่าเอากระเป๋าตังค์มาคืน เราก็ชั่งใจไม่อยากเปิด แต่ก็กลั้นใจลุกไปเปิดเอากระเป๋าตังค์ แล้วรีบปิดประตูทันที
"เธอ เดี๋ยว ฟังเราก่อน เธอเปิดประตูมาฟังที่เราพูดก่อน " เราเลือกที่จะเงียบ ไม่ตอบอะไร ยอมรับเราโกรธหน้ามันเรายังไม่อยากมอง มันจะทำอะไรรักกับใครทำไมเราต้องมีส่วนไปยุ่งกับเรื่องของมันทั้งที่เราไม่ได้ก่ออะไรเลย
แล้วก็เป็นไปตามคาด พอเลิกกับเพื่อนเราไม่ถึงเดือนมันก็ควงคนใหม่ และยิ้มเหมือนไม่มีอะไเกิดขึ้น ทั้งที่เรากับเพื่อนก็ คุยกันไม่ได้ เห็นหน้าเรามันก็มองผ่านๆเหมือนไม่มีตัวตน ตอนนั้นเราเลยปล่อยมันไปซะ เพื่อนแบบนี้ แล้วก็ไปสนิทกับเพื่อนผู้ชายแทน ก็ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกปลอดภัยที่มีพวกมันอยู่ มันไม่เคยทำอะไรลุ่มล่าม และมันก็รักแฟนมาก กับเรามีเล่นหัวกันบ้าง แต่พวกแฟนมันก็เข้าใจ ถึงตอนแรกจะมีการเข้าใจผิดกันไป แต่เราก็แสดงความจริงใจสุดๆ โดยการบอกเราชอบผู้หญิง ไปเลย เอารูปน้องสาวโชว์บอกว่าแฟนอีกต่างหาก
แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ไอ้นั้นมันจะเข้ามาตีสนิท แต่โดนเพื่อนเราสกัดไว้ด้วยรู้ว่าเราไม่ชอบ แต่จู่ๆ เย็นวันหนึ่งมันก็มาหาเราที่หอ เราก็ทำเป็นไม่เห็น แล้วมันก็สวมกอดเราจากด้านหลัง วินาทีนั้น เราตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาป ให้กลายเป็นหิน
"เฮ้ย ทำไรว่ะ " มันผละออกแล้วหมุนตัวเราไปเผชิญหน้ากับมัน
"ทำไมต้องค่อยไล่เราด้วยนะ มองเห็นเรามีตัวตนบ้างก็ได้นะ " ไม่เข้าใจ คำเดียวที่วนไปมาในใจ
"อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะเว้ย " แล้วรีบเปิดประตุปิดปัง ไม่สนใจคนที่อยู่อีกฝั่งของประตู ยอมรับใจมันเต้นแปลกขึ้นมาดื้อๆ
และหลังจากวันนั้น ก็ไม่ได้เห็นหน้ามันอีกจริงๆ ขนาดเรียนห้องเดียวกันยังเลือกที่จะหลบหน้ามันเลย แต่ก็แอบเห็นบ้าง ว่ามันก็จีบ หว่านเสน่ห์สาวไปทั่ว เห็นวันนี้ควงคนหนึ่งพรุ่งนี้อีกคน แต่ก็ช่างสิ จะไปสนใจอะไรมัน ตาเนี้ยก็ชอบมองไปเห็นพอดีตลอด
จนเพื่อนแก๊งค์ผู้ชาย คือจำเป็นแหล่ะ จับกลุ่มแล้วมีมันอยู่ด้วยเลยยกขโยงมาทำรายงานที่ห้อง แล้วรู้ไหม ว่าใครมาถึงก่อนเพื่อน ไอ้นั้นแหล่ะ ก็จำใจเปิดประตูกว้างๆ ให้มันเข้ามาด้วยความอึดอัดใจ อยู่สองต่อสอง โดยเปิดประตูให้กว้างที่สุดเอาคนเดินผ่านมามองเหมือนเข้ามาชมในห้องได้เลย
"เธอ สบายดีไหม " เงียบ โว้ย แค่ได้ยินเสียงก็รำคาญหูแล้ว
"ไอ้พวกนั้นโทรมาบอกว่า ให้เราทำกันไปก่อน มันมีธุระกับแฟนมัน " โถ ไอ้เพื่อนเวรก็รู้ว่าตูไม่ชอบมัน พวกเอ็งนี่ช่างรู้ใจตูจริงๆ
"อือ " รับคำไป แล้วไม่สนใจ เดินไปหยิบหนังสือ กับโน๊ตบุ๊คมาไว้ใกล้ประตูที่สุด
แต่เวรกำมีจริง ฝนตกก็เลยต้องย้ายของเข้ามาในห้อง ปิดประตู อีเพื่อนตัวดีบอกมาไม่ได้ติดฝน แล้วตูล่ะ ต้องมาอยู่สองต่อสอง ห้องก็ปิดซะมิด ฝนก็ตกเป็นใจ เอาว่ะท่าไม่ดี หลบในห้องน้ำก็ได้
"เรายิ่งเข้าใกล้ เค้ายิ่งอยากออกไปไกลๆ มองเค้าจากที่ไกลๆยังอิจฉาเลย " มาแต่งกลอนหรือเพ้ออะไรอีก ยิ่งเกร็งเข้าไปใหญ่
"หิวไหม หิวพอดี กินมาม่าผัดได้ไหม " เอาเถะมารยาท และหนีเรื่องปัญหาชวนอ้วกที่มันกำลังจะเริ่ม
"ก็เอาสิ นึกว่าจะไม่ห่วง ใจดีกว่าที่คิดซะอีก " เลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำ แล้วเดินไปหลังห้อง ทำมาม่าผัดที่ใส่ไข่และผักบุ้ง
"นี่ เธอเรื่องเพื่อนเธอ เราขอโทษด้วยนะ ที่ดูแลเค้าได้ไม่ดี " ใบหน้าที่เหมือนสำนึกผิด ก้มต่ำ เห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง บอกได้แค่อึดอัดขึ้นมาทันที
"ก็ไม่รู้สิ คนไม่ใช่ก็คงไม่ใช่มั้ง " ปรายตามองมันนิดนึ่งก่อนจะก้มหน้ากินมาม่าผัดต่อ
"เรานอนได้ไหม เมื่อคืนเตรียมข้อมูลดึก " มันถามเราก็พยักหน้า รับไป แล้วจ้องหน้าจอคอมไปกินไป จนอิ่มสักพักก็ง่วง จะว่าไปมันก็หลับไปแล้ว หน้ามันตอนหลับก็ดูเหมือนคนเรียบร้อยดี เหมือนไม่ใช่คนปากหวานเจ้าชู้ ที่เจอมันควงสาวไม่ซ้ำหน้า เราเลยเก็บพวกถ้วยจานไปเก็บล้าง แล้วมานั่งตรวจงาน เฮ้อ แต่พอกินอิ่มมันก็ง่วงเหมือนกัน เราก็ปีนขึ้นเตียง นอนเอาหูฟังใส่หู แล้วก็หลับสิค้าาาา
ตื่นมาอีกทีก็ตอนรู้สึกเหมือนมีอะไรเขี่ยป้อยผมบนหัวเนี้ยแหล่ะ พอตื่นขึ้นมาหน้าไอ้นั้นยิ้มรอยเข้ามาเลย
"เฮ้ยยยยย ทำไรว่ะ " มือมันชะงัก แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังไม่จาง แต่เราไม่น่าเผลอหลับไปเลย แล้วมือ นี่มันเล่นนั่งจับมือจ้องหน้าเลยสินะ หน้าเราก็ดันรุ้สึกร้อนขึ้นมา โมโหแน่เลยเรา
"ก็เปล่า ก็แค่จะปลุก แล้วเธอดึงมือเราไปกุมแค่นั้น " ใจก็ไม่เชื่อหรอก แต่ดูสภาพตัวเองก็คิดเลยว่าไม่มีใครอยากลวนลามมึงหรอก ขี้เหร่ติดอันดับโลกเลยนะ เราเนี้ย
"แล้วปล่อยได้ยัง " ได้ข่าวว่าเราเป็นคนจับ แต่เรารู้สึกว่ามือเราโดนกุมนะ ไอ้นั้นมันโม้รึเปล่า
"เธอ บอกจริงๆ เราไม่อยากปล่อยมือนี้เลย " โหย ถ้าเป็นคนอื่นพูดด้วย แววตาจริงจังแบบนี้ เชื่อไปล่ะ แต่กับไอ้นี่ ควงผู้หญิง เหมือนเสื้อผ้า เปลี่ยนทุกวันขนาดนี้ หมามันยังไม่คบเลย
"แต่ เราไม่อยากจะแตะมือนายด้วยซ้ำ " มือที่จับแล้วก็ปล่อยง่ายๆเมื่อมีคนที่ถูกใจกว่าเข้ามา
"ทำไมต้องทำเหมือนเกลียดกันด้วยว่ะ "
"ก็เพราะเกลียดไง ไม่ได้ทำเหมือนเกลียด เลิกมายุ่งสักทีสิวะ " เราสะบัดมือที่มันจับจนหลุด
"เกลียดก็ได้ แต่น้อยลงได้ไหม มองมาทางนี้บ้างก็ได้ " มันกระชากแขนเราเข้าไปหาลำตัว แล้วสวมกอดเราไว้ พร้อมเสียงหัวใจที่เราได้ยินมันชัดเจน
"อย่าทำอย่างงี้เลยวะ เราไม่ใช่คนที่นายควรมาทำอย่างงี้ ถ้ายังอยากเหลือคำว่าเพื่อนก็ อย่ามาทำกับเราเหมือนหญิงนายเลย ไม่มีใครดีใจหรอก " เราผลักมันออก แล้วเปิดประตู เชิญมันออกจากห้อง พอมันออกไป ก็ต้องมานั่งกุมหัวใจ ที่มันเริ่มเจ็บแปล๊บๆ ขึ้นมานิดๆ
แล้วมันก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง มันก็ยังเดินหน้าควงสาวที่เข้ามาติดกับมันต่อไป เจอหน้าเรามันก็ ทำเป็นไม่เห็น แต่ก็แอบมีสายตาช้ำเลืองเวลาเราเล่นกับเพื่อนผู้ชาย และมันก็ชอบมีขนมแปลกส่งมาให้เราในระยะหลังๆ แต่เราไม่สนใจ มันคงรวยมาก ซื้ออะไรให้สาวมันมากกว่านี้เป็นหลายเท่า เราก็เลือกที่จะรับและโยนให้เพื่อนๆจัดการ แต่ดูเหมือนเราคิดผิดคนที่ซื้อขนมให้ ไม่ใช่มัน แต่เป็นรุ่นพี่ ที่สนิทกัน บอกว่าอย่าคิดมากนะ กูไม่จีบมึงหรอก ตอนนี้ เดี๋ยวขอคิดดูก่อน ไอ้เราก็ฮา
เฮียแกเป็นพี่ที่วิ่งเล่นด้วยกันมา คงหาเรื่องแกล้งอะไรอีกตามเคย ตอนนั้นก็แกล้งบอกคนอื่นว่าเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน คนในคณะรุมด่าว่าเฮียไร้สาระ ก็ฮาๆดี
ตั้งแต่วันนั้นเฮียแกก็ไปรับไปส่ง ไม่ใช่พิศวาสนะ โดนพี่ชายเราสั่งมาเห็นช่วงนี้เราซึมๆ พี่เลยเป็นห่วง เลยสั่งเฮียผู้ที่ไม่เคยทำอะไรชนะพี่ชายเราสักอย่างมาดูแล แต่เฮียก็ช่วยได้มากนะ ถ้าลดการกวนโมโหและปากเสียของเฮีย
"เฮีย เห็นนะ มีเรื่องกับเพื่อนใช่ไหม หรือเหงา เพราะหาแฟนไม่ได้ เฮียบอกว่า เอาเฮียเนี้ย รักจริงนะเว้ย " ก็แอบยิ้มขำๆกับเฮียแก แกก้แบบนี้ตลอด พอสาวโดนใจก้ไปตามจีบ พอจีบไม่ติดก็มาล่อลวงเราตลอด แต่เฮียไม่ได้จริงจังหรอก
"เปล่าเฮีย กลับเหอะ รำคาญเฮียวะ " เฮียก็ไปส่งห้อง
พอไปส่งเฮียก็ ยึดโน๊ตบุ๊คไปครอง ไอ้เราก็นั่งกินขนมที่อาเฮียใจซื้อให้ สักพักก็มีคนมาเคาะประตู เฮียไปเปิด แล้วโทรศัพท์เฮียดังพอดี แกเลยคว้าไปแล้วพยักให้เหมือนบอกว่าเดี๋ยวมา แต่พอเราเห็นคนหน้าประตู ใจมันก็วูบไหวแปลกๆ ขาอยากจะก้าวไปปิดประตูแต่ไม่ทันแล้ว
"ยิ่งเราอยากเข้าใกล้เค้ามากเท่าไหร่ สิ่งที่เราต้องการยิ่งไกลห่างออกไปทุกที " มันเมา เพราะกลิ่นเหล้าหึ่ง
"ยิ่งทำไม่สนใจมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้ว่าเค้าก็ไม่ได้สนใจเราอย่างที่เรากำลังฝืนทำ " มันกำลังเพ้ออะไรที่ทำให้เราอึดอัด
"ยิ่งทำตัวเลวเท่าไหร่ ยิ่งเห็นแต่ความเกลียด " แววตามันกำลังตัดพ้อ
"เธอบอกหน่อยได้ไหม ทำไมเค้าใจแข็งจัง เค้าไม่ได้สวย แต่เค้าน่ารักมาก เค้าไม่ได้ยิ้มเก่ง แต่ก็ยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่เรา " มาเดินเข้ามาช้าๆ แล้วหยุดอยู่ที่หน้าเราที่กำลังยืนนิ่งอยู่
"เค้าไม่ค่อยพูด แต่เค้ากับสนิทกับคนอื่น เราชอบเค้า แต่เค้ารักคนอื่น " กำลังสับสน มันเมามากไปแล้วสินะ
"ก็ไปบอกเค้าสิเว้ย " มาบอกตู ยัยคนนั้นคงรู้มั้ง
"ก็กำลังบอกอยู่นี่ไง เคยฟังกันบ้างไหมว่ะ แสดงออกจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แม่งเอาแต่แสดงท่าทีรังเกียจ " มันขึ้นเสียง เราก็โมโหขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
"แล้วมึงจะเอาไง มึงจะให้กูไปบอกแทนไหม บอกมาใคร แม่ง " เอ้า ทุกที ตูไม่เห็นต้องไปบอกปสอน สงสัยเจอของจริงซะบ้างสมน้ำหน้า
"ก็เธอไง แต่บอกไปคงไม่เชื่อ บอกไปคงไม่มีประโยชน์ " ทำไมแทนที่จะเป้นความอึดอัด เรากลับ รู้สึกโล่งใจล่ะ เกิดคำถามในหัวที่ไม่คิดว่ามันจะเกิด แล้วมันก็รั้นเราเข้าไปในอ้อมกอด แล้วผละออก เดินออกไปช้าๆ ปล่อยให้หัวใจเราเต้นแข่งกับคำถามในหัวที่วนเวียนอยู่แค่ว่าเราเหรอ เป็นเราเหรอ
มันเป็นกึ่งเรื่องจริง สองตอนจบ ตอนนี้คนเขียนก็จิตตก สติเกือบหลุด55555 เพราะเจอเครือๆนี้ เออ ขอบคุณที่มาอ่านนะ อ่านไปอาจหมั่นใส้ ทำไมมึงไม่ตบมันเลยวะ เออ (กูมีเหตุผลของกู ขอโทษที่หยาบ )
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ