ความสำคัญ

8.7

เขียนโดย รอยยิ้ม

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.29 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  8,608 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 13.30 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ร้านขายของชำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          บ้านไม้หลังเก่าคงอยู่ที่เดิม ไม่มีการรื้อถอนหรือย้ายบุคคลในครอบครัวไปไหน คงเป็นร้านขายของชำร้านเดียวในละแวกวัดไทรงาม นับแต่ย้ายครัวเรือนมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน มีเพียงบ้านเรือนไม่กี่หลังกระจายตัวอยู่แถบนี้ จนบัดนี้พื้นที่เคยเป็นป่ารก ถูกถาง กลบดินสร้างถิ่นอาศัยเพิ่ม ไม่ใช่เมื่อหลายสิบปีไม่มีร้านค้าอื่น หากกาลเวลาได้พากิจการเหล่านั้นเลือนไปจากความทรงจำของผู้คน เหลือเพียงบ้านไม้ของสองตายายหน้าปากซอยทางเข้าวัดเท่านั้น ยังคงยืนหยัดค้าขาย แม้ข้าวของจะวางขายไม่มากมายเช่นอดีต แต่ยังเป็นที่พึ่งพิงยามคับขันของชาวบ้านละแวกวัดไทรงาม 

          นับแต่ครอบครัวย้ายมาตั้งรกรากแถบนี้ ฉันเติบโตมาพร้อมร้านสองตายาย ฉันเป็นเด็กติดขนม น้ำอัดลม ของไม่มีประโยชน์พวกนี้แหละทำฉันวิ่งไปกลับระหว่างบ้านกับร้านขายของวันละสองสามรอบ ช่วงนั้นขนมมีมากหน้าหลายตาเหลือเกิน อยากจะกินเสียทุกอย่าง ซื้อไปก็ต้องซ่อนยายไว้ในกระเป๋า ถ้าแกรู้เมื่อไหร่ว่าฉันกินแต่อาหารขยะต้องโดนบ่นหูชาเป็นแน่ ถึงจะถูกบ่นสักสิบรอบก็ไม่อาจบังคับใจให้ถวิลความหอมหวาน กรุบกรอบลงได้---ผ่านมาสิบปีแล้ว ฉันยังคงวิ่งหาขนมถุงเหล่านั้นอยู่ เลิกลาไปก็คงเป็นน้ำอัดลม ยิ่งบริโภค ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนแดดแผดเผาภายใน ทั้งแสบ ทั้งร้อน ทรมานจนต้องหยุดไป

          ฉันเริ่มหายจากร้านประจำ รวมทั้งบ้าน เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เกือบสองปีที่ไม่ได้กลับบ้าน ฉันยังจดจำใบหน้าอิ่มเอิบและรอยยิ้มสดใสของสองตายายไม่เลือน แกใจดีกับฉัน ชอบให้ขนมกินฟรีอยู่เรื่อย กลับมาครั้งนี้ฉันยังเหมือนเดิม เป็นเด็กน้อยวิ่งหาขนมถุง แม้กิจการยังไม่ปิดตัว แต่สินค้าที่วางขายช่างต่างจากอดีตเหลือเกิน ไม่มีขนมมากมายให้ยืนเลือก มีเพียงอะไรก็ได้ที่พอทำให้ปรารถนาลดลง ตากับยายยังดูแลร้านของแก ตาไม่เปลี่ยนจากเดิม หยอกล้อฉันเช่นเด็กตัวเล็กๆที่เคยให้ขนมกิน ยายเปลี่ยนไปมาก กาลเวลาได้พาความสดใสไปจากหญิงชราผู้นี้ พบเพียงความร่วงโรย ยายนอนอยู่บนแคร่ในร้าน ลุกเดินไม่ได้ ต้องมีคนช่วยประคอง ถึงอย่างนั้นขาแข้งก็อ่อนล้าเกินกว่าจะทรงตัวไหว---เวลาหนึ่งปีกว่า เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก คนรอบกาย ถิ่นอาศัย แม้แต่ท้องฟ้าก็มองไม่สดใสเช่นเคย อย่างไรแล้ว ไม่ว่าการเติบโตในโลกแห่งความจริงจะพรากความสดใส ความเพ้อฝันไปจากเรามากน้อยเท่าใด ชีวิตที่มีข้าว น้ำ อากาศหล่อเลี้ยงลมหายใจ ต้องดำเนินต่อไปจวบจนวันสิ้นสุดของชีวิต

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา