กลางคืน

-

เขียนโดย Khingolo

วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.14 น.

  1 ตอน
  2 วิจารณ์
  3,535 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2558 13.28 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ชายคนหนึ่งออกไปปั่นจักรยานช้ากว่าปกติ ทำให้เขาต้องพบกับเหตุการณ์บางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไป

ผมนั่งอยู่จุดนี้ได้สักนึงพักเเล้ว โซ่จักรยานของผมมันดันหลุดตอนที่ปั่นข้ามถนน ผมใช้เวลานานกว่าจะจัดมันเข้าที่ได้ สำหรับมือใหม่นี่เป็นเรื่องยากมาก ผมนั่งมองบรรยากาศรอบตัวอย่างสุนทรีย์ ยามเย็นลมเย็นๆโชยมา ทำให้สบายตัวขึ้นหลังจากปั่นออกมาไกล ตลาดเริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้งถึงเเม้จะไม่มีชีวิตชีวาเท่าตอนเช้า ชายสองคนยืนคุยกันข้างๆผม เสียงดังจนผมได้ยิน

"เมื่อวานผมโดนด้วยเเหละพี่"ชายคนที่ดูเป็นรุ่นน้องพูด

"โดนอะไรวะ"ชายอีกคนถาม

"ก็พวกจักรยานอะพี่"

"เออ กูได้ยินมานานเเล้ว เรื่องมันเป็นไงมาไง"

ชายรุ่นน้องชวนให้นั่งเเล้วเริ่มเล่า "มันเคยมีชาวบ้านคนนึง น่าจะเป็นป้าเเม้นที่ขายผลไม้นั่นแหละที่โดนก่อน คืนนั้นเเต่อยู่ดึกเพราะรอลูกชายเเกกลับมาจากต่างจังหวัด เเกก็นั่งดูโทรทัศน์ของเเกอยู่ เเก่ก็ได้ยินเสียงคนปั่นจักรยานปั่นผ่านไป ตอนเเรกเเกก็ไม่ได้สนใจอะไร เเต่พอสักพักก็ได้ยินเสียงอีก จากหนึ่งคัน ก็เป็นสอง เป็นสาม เเล้วก็มาหลายๆคันเลย เยอะมาก เเกก็สงสัยว่าดึกขนาดนี้จะปั่นกันไปไหนเยอะเเยะ เเกก็เเง้มหน้าต่างออกไปดู เเต่ก็ไม่เห็นอะไร เเต่เเกบอกว่าเเกได้ยินเสียงอยู่เเกก็มองหา สักพักก็ได้ยินเสียงจักรยานเบรก เเล้วก็เบรกกันหลายเสียงเลย มันมาเบรกกันตรงถนนฝั่งตรงข้ามบ้านเเก เเกก็กลัว เเกมองไม่เห็นมีใคร เเกได้ยินเเต่เสียง เเกรีบไปคุมโปงหลับตาปี๋เลย"

ผมเริ่มสนใจขึ้นมา

"เเล้วชาวบ้านก็เริ่มเจอเรื่องเเบบนี้กันเยอะขึ้น บางคนเห็นคนปั่นเเต่คนปั่นดันไม่มีหัว ก็หัวโกร๋นกันไป ชาวบ้านเริ่มกลัวกัน เจอกันทุกคน เจอกันทุกคืน มืดก็เข้าบ้านปิดไฟกันเงียบ เขาว่ากันว่าเป็นพวกกลุ่มนักปั่นที่โดนรถพ่วงขับกวาดชนตายกันตรงถนนใหญ่นั่นเเหละ"

"เเล้วที่บอกมึงโดนนี่คือโดนยังไงวะ"ชายรุ่นพี่ถาม

"เมื่อวานผมไปกินเหล้ากับเพื่อนมา พอเริ่มจะเมาผมก็ขอมันกลับก่อน ระหว่างขับมอไซต์กลับผมปวดเยี่ยวเลยเเวะเยี่ยวข้างทาง ตอนผมยืนเยี่ยวอยู่อะ ผมก็ได้ยินเสียงรถจักรยาวิ่งผ่านหลังผม ลมมันพัดจนผมรู้สึกได้เลย หลายคันมากผมกลัวจนเยี่ยวหดเลย หันไปก็ไม่มีอะไร ผมรีบขับรถกลับบ้าน ขนผมนี่ลุกซู่มาก พูดเเล้วก็นึกเสียวขึ้นมาเลย" ชายรุ่นน้องตัวสั่น

"น่ากลัวหวะ กูชักเริ่มไม่กล้าออกไปไหนคนเดียวเเล้วเหมือนกัน"ชายรุ่นพี่ทำหน้าสยดสยอง

ผมลุกออกจากตรงนั้น ขึ้นคร่อมจักรยานเเล้วบึ่งออกไป ผมเริ่มออกปั่นจักรยานมาได้ไม่กี่วันเเล้ว เส้นทางที่ผมใช้ปั่นเริ่มจากบ้านเเล้ววิ่งเข้าตลาดเเล้ววนเข้าถนนใหญ่ตรงเข้าเมืองเเล้ววนกลับมาเข้าตลาดอีกครั้งเเล้วกลับบ้าน ปั่นเป็นระยะทางราวสิบกิโลเมตรได้ เเต่วันนี้ผมออกช้ากว่าปกติครึ่งชั้วโมง ต้องปั่นให้เร็วขึ้น เพราะผมไม่อยากกลับมืดไปกว่านี้เนื่องจากถนมเเถวบ้านเปลี่ยวเเละมืด

ผมปั่นออกจากตลาดเข้าสู่ถนนใหญ่ท้องฟ้าสีส้มอมน้ำเงินม่วงดูสวยงาน การปั่นบนถนนใหญ่เป็นเรื่องน่ากลัว รถใหญ่วิ่งกันรวดเร็วราวกับอยู่บนสนามเเข่งยังไงยังงั้น ผมพยายามปั่นชิดริมให้มากที่สุด วันนี้รถวิ่งกันน่ากลัว บางคันเเทบเบียดผมล้มคว่ำทำเอาใจคอไม่ค่อยดี ระหว่างข้ามถนนผมนึกถึงตอนข้ามถนนที่ตลาด โซ่จักรยานดันหลุด ผมใจหายมากรถวิ่งกันขวักไขว่มาหลุดอะไรตอนนี้ ยิ่งตอนนี้ข้ามถนนใหญ่ในเมืองอีกผมยิ่งระวังเป็นพิเศษ เเล้วก็ผ่านไปได้ หัวใจผมเต้นเร็วจนรู้สึกได้

ผมขับเข้าไปในเมืองปั่นเข้าช่องต่างๆดูบรรยากาศเมืองตอนค่ำ รถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหารผู้คนนั่งกันเเน่นร้าน ผ่านสนามฟุตบอลเห็นเด็กวัยรุ่นเล่นกันสนุกสนาน ผมอยากจะเข้าไปขอเล่นด้วยเเต่ฟ้ามืดเเล้ว คงต้องอดไป ผมควักโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าจะดูเวลา มันเเตก! หน้าจอมันเเตกตั้งเเต่ตอนไหนกัน ผมพยายามลองกดปุ่มเปิดเครื่องเเต่ไม่มีอะรเกิดขึ้น มีเเต่หน้าจอดำๆกับรอยเเตกบนหน้าจอ ผมงงมากว่ามันเเตกตอนไหน คราวนี้ผมก็ไม่รู้เวลาเเล้ว-ช่างมัน รีบๆปั่นกลับจะได้ถึงไวๆ

ปั่นออกมาจากเมืองได้สักพักผมรู้สึกกระหายน้ำเเต่ดันลืมหยิบเงินมาอีก ทำให้ผมหัวเสียเข้าไปใหญ่ จึงออกเเรกปั่นมากขึ้น

คราวนี้ต้องเข้าเส้นตลาดเเล้ว ผมไม่เคยมามืดขนาดนี้ บ้านเรือนก็ปิดเข้านอนกันหมดเเล้ว ถนมเหลือเเต่เขา มันเปลี่ยวเงียบเชียบวังเวง ความมืดข้างทางทำให้จินตนาการเตลิดไปไกล จนผมมานึกถึงเรื่องที่ชายสองคนนั้นพูดกันตอนเย็น สำหรับผมเเล้วผมไม่เชื่อเลยสำหรับเรื่องผี เพราะเกิดมายังไม่เคยเจอมาก่อนเลย หรืออาจจะเป็นเพราะผมจิตเเข็ง เเต่เรื่องที่ได้ฟังมาก็ชวนเสียวสันหลังวาบว่าจะมีใครปั่นจักรยานตามหลังหรือเปล่า เเล้วถ้าเกิดหันไปไม่เจอใครหรืออะไรหละ ถึงเเม้จพไม่เชื่อผมก็ไม่กล้าพูดเต็มร้อยว่าไม่กลัว ผมไม่กล้าที่จะหันหลังไปมองเลย สิ่งที่คิดคือปั่นให้เร็วที่สุด

เเถวนี้มีหมาเยอะยัง บางตัวนอนบนถนน บางตัวเห่าเสียงดัง ทำให้ผมนึกถึงหมาเเถวบ้านที่เจ้าของไม่ดูเเลปล่อยให้มันวิ่งไล่คนขับรถไปมา ผมมักเจอมันเป็นประจำทั้งขาไปเเละกลับ มันชอบมากันหลายตัวจนผมต้องรีบโกยให้ไว ดีที่หมาเเถวนี้มารยาทดี หรือไม่ก็หมดเวลาทำการวิ่งไล่ของพวกมันเเล้ว

ถนนสายนี้มันไกลเหลือเกิน ผมปั่นมานานเเล้ว มันจะดีมากถ้ามีไฟส่องทางให้สักหน่อย ผมอาศัยไฟฉายหน้ารถช่วยส่องทางข้างหน้า

ผมปั่นมานานจนหูของผมเริ่มได้ยินเสียงบางอย่าง ผมได้ยินมานานเเล้วเเต่ยังไม่เเต่ใจว่าเป็นเสียงอะไร จนมันใกล้เข้ามา เรื่องราวที่ผมได้ยินจากชายทั้งสองเเล่นเข้ามาในสมอง เสียงมันเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา ตัวเกร็งเเล้วเริ่มปั่นสุดเเรงเกิด เพื่อหลุดจากถนนสายนี้ให้เร็วที่สุด

เหมือนยิ่งออกเเรงมันยิ่งเข้ามาใกล้มาขึ้น หัวใจผมเต้นรัวเเละเเรง เสียงหายใจของผมดังขึ้น ฟันขบกันเเน่นเมื่อรู้สึกว่ามันปั่นมาอยู่ข้างๆผมเเล้ว ผมเเทบจะหลับตาปี๋ในตอนนั้น ผมกลัวไปหมด รู้ว่าตัวเองเจอดีเข้าให้เเล้ว

"ขอโทษครับ" มันพูดกับผมเสียงนุ่มนวล

ไม่ใช่ผี เขาไม่ใช่ผี ชายคนนั้นปั่นจักรยานเเซงเขาไป ชายคนนั้นก็เเค่นักปั่นเหมือนกับเขาเเค่อุปกรณ์การเเต่งตัวดูเป็นมืออาชีพมากกว่า ผมหันไปเห็นขบวนรถจักรยานหลายคันปั่นตามมาเเล้วเเซงหน้าผมไปทีละคันๆ ผมรู้สึกโล่งใจที่ไม่เจออะไรอย่างที่ได้ยินมา

ในที่สุดผมก็ออกมาสู่ตลาด ร้านค้าตอนกลางคืนยังเปิดอยู่ มีรถวิ่งเเล่นอยู่ ผมรอไปเเดงเพื่อจะกลับบ้าน มืดมากเเล้ว เมื่อไฟเขียวผมออกเเรงปั่น รถยนต์ข้างหลังผมพุ่งเเซงผมไปอย่างเร็วยังกะไม่เห็นผม ผมเอนหลบเเทบไม่ทัน

"ไอ้ระยำเอ้ย!"ผมสบถ

มาถึงจุดที่ผมต้องข้ามถนนเเล้ว รถยังวิ่งกันขวักไขว่เหมือนตอนเย็น ผมรอจังหวะรถน้อยเเล้วปั่นข้ามไป ผมออกเเรงปั่นสุดเเรงจะได้ข้ามไปเร็วๆ

บัดชบ! โซ่จักรยานผมหลุด เเสงไฟรถพุ่งสาดเข้าหน้าผม! โชคดีที่ผมออกเเรงปั่นมากทำให้รถพุ่งตัวไปได้อีก เเต่ก็เฉียดฉิวไป ผมลงจากจักรยานมาจัดมันเข้าที่อีกครั้ง ผมหันหลังกลับไปมองเห็นกลุ่มคนปั่นจักรยานที่ผมเจอตรงถนนสายเข้าตลาด พวกเขายืนจ้องอะไรบางอย่าง เเล้วชี้ให้ผมดู

นั่นมันผมนี่ ผมไปนอนตรงนั้นได้ยังไงกัน! เดี๋ยวๆ ไม่ใช่หรอกคงเป็นพวกของเขาที่ปั่นตามหลังผมมา เขาถูกรถชนหรือ

เเต่ไม่สิ นั่นมันเสื้อผ้าเดียวกันกับของผม! หมวกเเบบนั้น เเล้วโทรศัพท์นั่น มันเเตก! หน้าจอมันเเตก!

ผมทรุดลงกับพื้น น้ำตาคลอ ตัวสั้นสะท้าน เหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าเเละฝ่ามือ ผมนั่งร้องไห้สับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง พยายามตั้งสติ เเล้วมองดูอีกที มันยังคงนอนอยู่ตรงนั้น จักรยาน เสื้อผ้า ทุกอย่างมันเหมือนกับผม ทีนี้ผมก็รู้เเล้วว่าโทรศัพท์ผมเเตกตั้งเเต่ตอนไหน

ใครบางคนในกลุ่มมายืนข้างหลังผม

"ไปกับพวกเรามั๊ย"

ผมนิ่งไปสักพัก

"ผมต้องกลับบ้านเเล้ว"

ผมปั่นจักรยานกลับบ้าน ซอยเปลี่ยวมืด มันดูน่ากลัวมากสำหรับการปั่นคนเดียว มันเงียบยิ่งกว่าวันไหนๆ มันมืดยิ่งกว่าที่ผมเคยผ่านมา ผมผ่านบ้านที่ไอ้พวกหมาบ้าที่ชอบวิ่งไล่ผม พวกมันนอนกันนิ่งเมื่อผมปั่นผ่านพวกมัน พวกมันคงไม่วิ่งไล่ผมอีกต่อไปเเล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา