Got7 พาหลอน

10.0

เขียนโดย ใจจ้าว

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.32 น.

  6 ตอน
  4 วิจารณ์
  11.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.36 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) หัว ( จูเนียร์ ) จบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               

          

  

อ่า...ในที่สุดก็ครบทีม GOT7 แล้วนะครับ ผมหันไปมองหน้าสมาชิกแต่ละคนที่ตอนนี้จัดเตรียมผ้าห่ม หมอน หรือแม้แต่กระทั่ง เทียนไข ไฟฉายที่แบมแบมไปหยิบมาจากในห้อง อะไรมันจะเตรียมพร้อมขนาดนั่นครับ หนูแบม

 

           " เอาหล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและอารมณ์ ใครจะเป็นคนเล่าต่อจากยองแจ " เจบีที่นั่งข้างๆผมพูดขึ้น หมอนี่ไม่สังเกตรึไงวะ ผมออกจะหน้าตาดี ยกมือให้เห็นเต็มลูกกะตาอันน้อยนิดของเค้าเนี่ย 

 

         " อ๋อ.. เจบีฮยองฮะ " แบมแบมพูดขึ้น เรียกจุดสนใจจากพวกผมได้มากโข

 

         " ว่าไง แบมแบม นายจะเป็นคนเล่าคนต่อไปหรอ " เจบีฮยองบ้านี่ก็ไม่ดูคนข้างๆสักที เมื่อยแขนแล้วนะครับ 

 

         " ไม่ใช่ฮะ แต่ว่า จูเนียร์ฮยองยกมือค้างไว้ตั้งแต่ เจบีฮยองเอ่ยแล้วนะครับ " ให้มันได้อย่างนี้สิ ตาหนูของป๋า ไหนมาจุ๊บแหม่งที่สิ 

 

         " อ้าว หรอ โทษทีไม่เห็นว่ะ " ผมรู้ว่าคุณแกล้งเหอะ ไอ้คุณลีดเดอร์ฟันเยอะ

 

        " เรื่องที่จะเล่า เรื่องอะไรฮะ จูเนียร์ฮยอง " ยองแจทำท่าทางลุ้นเต็มที โดยอิตาแจ็คสันมันเริ่มนั่งเบียดเกือบจะอยู่บนตักของยองแจอยุ่แล้ว เกือบขำทีแรกที่แจ้คสันมันจะไปนั่งข้างตาหนูแบม แต่โดย สองหน่อ ผมสีที่นั่งข้างๆอยู่แล้วสกัดดาวรุ่ง ยูคยอมพี่นี่ไม่ค่อยคิดอะไร เพราะเป็นรูทเมทกัน แต่มาร์คฮยองนี่สิคับ ทำหน้ามึนตีเนียนน้องได้เนียนจริงๆ ข้าพเจ้าขอคาระวะ

 

        " เรื่อง หัว น่ะ " ผมเอ่ยขึ้น พร้อมนึกถึงตอนยังเด็กๆ ที่คุณแม่เล่าเรื่องของเพื่อนสาว ของท่าน ให้ผมฟัง 

 

        " เดี๋ยว!!! " แจ็คสันพูดขึ้น หน้าตาแกซีดได้อีกนะ แจ็คเอ้ย!!! 

 

        " นี่พวกนายทำอะไรกัน " 

 

        " พวกเรากำลังจับกลุ่มเล่าเรื่องผีกัน น่ะ " เจบีพูด พร้อมแอบขำหน้าตาที่ซีดแล้วซีดอีกของแจ็คสัน อะไรมันจะกลัวขนาดนั่น ทั้งๆที่ผ้าห่มคุมจนจะมิดหัวอยู่แล้ว แถมยังนั่งตรงกลางระหว่างสาวสวยกับยองแจ อีก ผมนี่ยังอฉิฉาเลย

 

       " นี่ทุกคนไม่ดูบรรยกาศกันบ้างเลยหร๊อ " 

 

      " ไม่มีอะไรหรอกน่า " มาร์คฮยองที่ดูเหมือนจะเริ่มรำคาญแล้ว พูดขึ้นพร้อมเหลือบมองแจ็คสัน

 

     " แต่ผมว่าบรรยกาศมันเย็นแปลกๆนะ ฮยอง มันเป็นบรรยกาศที่คนรุ่นก่อนเตือนว่าอย่า เล่าเรื่องพวกนี้ ในบรรยกาศแบบนี้ "

 

       ดูสิครับ ผมว่าหมอนี่ มันเริ่มระแวงหนักล่ะ อยู่ในห้องพักของตัวเองแท้ๆ มันคงไม่มีอะไรกล้ามาแหย่หรอก แล้วเรามีตั้ง 8 คน ถ้ากล้ามานี่ ผมว่าผีคงหน้าด้านมากแน่ ในขณะที่ผมคิดในใจ สายตาผมก็ไปหยุดกึก กับหญิงสาวสวยข้างแจ็คสัน ผมว่าผมยังไม่ได้มีโอกาสถามชื่อเธอเลยนะครับเนี่ย แต่ทำไม ไอ้พวกคุณลีดเดอร์ ถึงได้ทำเป็นไม่สนใจหญิงสาวน่าตาสวยงามคนนี้ก็ไม่รู้ หรือว่ามันเก็ก อย่างเหมือน! แต่ผมก็รู้ทันเว๊ยครับ เพราะผมฉลาดไง กินปลาเยอะนะครับจะได้ฉลาดเหมือนผม ฮุฮุ

 

       " เล่าเถอะ อยากฟังแล้วล่ะ ฮยอง " ยุคยอมพูดขึ้น พร้อมกระชับผ้าห่มผืนโตที่คุมทั้งสามเกลอไว้ได้แก่ มาร์คฮยอง แบมแบม และตัวยูคเอง ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเขาไม่ไปเอามาคนละผืนครับ มานั่งเบียดกันอยู่ได้ 

 

       "เรื่องนี้มันเกิดขึ้น เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เป็นข่าวดังที่เกาหลีเลยก็ว่าได้ .... "

 

       "เรื่องมีอยู่ว่า ... มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ทั้งสองพึ่งจะแต่งกันงานกันได้ ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ วันหนึ่งสามีของเธอได้บอกว่า อยากจะย้ายที่อยู่ ไปอยุ่ในอพาร์ทเม้นท์ ที่ใกล้ที่ทำงานของเขา 

 

       " ซูจิจ้ะ ผมว่าเราย้ายที่อยู่กันเถอะ ผมอยากย้ายไปใกล้กับที่ทำงานของผม เวลาเดินทางจะได้สะดวก "

       ฝ่ายภรรยา เธอก็ได้เห็นด้วยกับสามีของเธอ ทั้งคู่ตกลงออกหาอพาร์ทเม้นท์ ที่มีขนาดพอเหมาะ และอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ จนในที่สุดทั้งสองก็หาเจอ ตัวอาคารเป็นโทนสีครีมอ่อน ราคาถูก แต่ภายในห้องกลับกว้างขวาง ทำให้ทั้งสองคน ดีใจ และพึงพอใจ จึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ แต่แล้ว ก็เกิดเหตุการประหลาดเกิดขึ้นกับสามีองเธอ ทุกคืน สามีหนุ่มมักจะฝัน เห็นชายรุปร่างสูงใหญ่ ปกปิดใหม่หน้าด้วยหน้ากากสีดำ นัยน์ตาที่มองเข้าไปลึกลับหน้ากลัว ในฝันชายคนดังกล่าวได้เข้ามาถามถึง หัวของเขาที่หายไป แล้วจบด้วยการตัดหัวสามีไปแทนหัวตัวเองทุกคืน

 

      เวลาผ่านไป ร่างกายของสามีก็เริ่มโทรดผอม เพราะการอดนอน กังวลเกี่ยวกับความฝัน เค้าไม่กล้าเล่าให้ภรรยาฟัง กลัวว่าเธอจะกลัว แต่ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว เพราะความฝันเริ่มเหมือนจริงเข้าไปทุกวัน ทุกๆตอนเช้ารอบคอของเค้าจะเกิดรอยแดง ที่มันเริ่มชัดขึ้น จนน่ากลัว ....... 

 

      วันหนึ่งในขณะที่ชายหนุ่มเดินกลับอพาร์ทเม้นท์ปกติ สิ่งที่ไม่ปกติคือ กระดาษโน๊ตสีขาวที่เปาะอยู่ตรงหน้าประตู ตัวหนังสีที่เขารับรู้ได้เลยว่าเขียนด้วยเลือดสดๆ "

 

      ผมเว้นจังหวะการพูด พร้อมเริ่มรวบรวมข้อมูลในหัวใหม่อีกครั้ง หลังจากเห็นหน้าตาที่ลุ้นโก่งของแต่ละคน

 

     " แล้วเป็นยังต่อ " เจบีที่นั่งอยู่ข้างๆผมพูดขึ้น พร้อมเบียดตัวเข้ามาใกล้ ฉันรู้โว๊ย ว่านายกลัว 

 

    "  ประโยคที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้น " หัวฉันอยู่ไหน...."                    

 

      เอื้อก!! เสียงกลืนน้ำลายของแต่ละคน ทำให้บรรยกาศที่ดุวังเวง คลังขึ้น อย่างไม่น่าเชื่อ

 

     " ชายหนุ่มเมื่อได้อ่านกระดาษโน๊ต แผ่นนั่น เค้าจงตัดสินใจบอกภรรยาของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาฝัน และเรื่องกระดาษโน๊ต ตอนแรกภรรยาของเขาไม่ค่อยจะเชื่อ เธอคิดว่า สามีของเธออาจเห็นภาพหลอน แล้วเขียนขึ้นมาเอง เธอพาสามีของเธอไปหาจิตแพทย์ แต่กลับพบว่า สามีเธอปกติทุกอย่าง แต่สิ่งที่ไม่ปกติสำหรับครอบครัวของเธอ คือกระดาษโน๊ตสีเลือด หรือบางครั้งเป็นจดหมาย ที่มีเส้นผมอยู่ มันทำให้เธอเริ่มแวดระแวง

 

        สามีของเธอจึงได้กำชับเธอทุกครั้งว่า หากมีใครมาเคาะประตู เธอต้องดูที่ตาแมวก่อนทุกครั้ง เป็นคนแปลกหน้าอย่าเปิดรับ ถึงแม้เป็นตัวสามีเอง ก็ต้องมีรหัสผ่าน 

 

       เธอพยักหน้ารับ พร้อมทำความเข้าใจในรหัสรับของสามีเธอ วันหนึ่งเป็นวันที่แม่บ้านทุกคนต้องออกไปจ่ายตลอด เอาของเข้าบ้าน โดยเธอล็อกประตูอย่างแน่นหนา แต่แล้ว ในขณะที่เธอเดินเพื่อจะไปซุเปอร์มาเก็ตอยู่นั่น เธอได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ข้างหลังเธอ 

 

       ตึก ตึก ตึก เสียงนั่นยืนยันเป็นอย่างดี ว่ามีคนตามเธอและเขาเป็นผู้ชาย หญิงสาวตัดสินใจวิ่งกลับไปยั้งอพาร์ทเม้นท์ของเธอ พร้อมล็อกประตูแน่นหนา 

 

     ปังๆๆๆๆๆ เสียงทุบประตูดังขึ้น จนเธอหวาดหลัว เริ่มโทรหาสามีหนุ่ม สามีเธอจึงบอกว่าหากเค้าเลิกงานแล้ว เค้าจะรีบกลับทันที ขอให้เธออยู่ในบ้านเธอจะปลอดภัย หากเธอไม่เปิดประตูนั่น

 

      หญิงสาวทำตามสามี เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เปิดทีวีเสียงดัง เพื่อกลบเสียงทุบประตูนั่น เวลาผ่านเลยจนเธอเผลอหลับ พร้อมกับเสียงทุบประตูที่หยุดไป

 

      ในตอนนั่นเป็เวลา 17.00 น เป็นเวลาที่สามีเธอเลิกงาน แต่จนแล้วจนรอด สามีของเธอก็ยังไม่กลับมา เธอรอแล้วรออีก จนเผลอหลับไปอีกครั้ง จนเช้าของอีกวัน มีคนมาเคาะประตูเธออีกครั้ง ความกังวลของเธอหาย เมื่อเสียงนั่นคือสามีของเธอ

   

     " ที่รัก เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อย " นั่นเสียงสามีเธอ หญิงสาวคิด แต่เธอฉุดใจคิดขึ้นได้ เธอจึงถามรหัสที่เธอได้ให้ไว้กับสามี ก่อนที่เค้าจะไปทำงาน 

 

     " ที่รักคะ ของที่ฉันฝากซื้อ คุณได้ซื้อมาให้ฉันไมค่ะ " เธอกลั้นใจรอคำตอบ พร้อมกับเสียงสามีที่ดังมาจากอีกด้านของประตู

 

     " โทษที ที่รัก คือผมรีบกลับมาหาคุณ ผมเลยลืมซื้อนะ ว่าแต่ก่อนที่คุณจะถามผมเรื่องนี้ คูณเปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยเถอะ " เสียงที่เอ่ยออกมา ทำให้เธอน้ำตาไหล รับรู้ได้ในทันทีว่า เขาไม่ใช่สามีเธอ เธอจึงส่องช่องแมว และไม่เห็น คนที่ยืนคุย ด้วยมันทำให้เธอยิ่งกลัว

 

     " แกไม่ใช่สามีฉัน " เธอตระโกนกลับไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอยากห้ามไม่ได้ เธอหวาดกลัว อยากจะพลักประตูออกไป แต่เสียงสามีก่อนไปทำงานที่คอยบอกเธอเสมอ ทำให้เธออดทน 

 

      ปังๆๆๆๆๆ!!! จากเสียงที่พุดเริ่มเงียบ กลับกลายมาเป็นทุบแทน เธอจึงโทรแจ้งตำรวจ พร้อมกับรอคอยการมาของเจ้าหน้าที่

 

      เสียงทุบหายไป พร้อมกับเสียงรถตำรวจที่วิ่งมาจอดหน้าอพาร์ทเม้นท์ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงรวมทั้งตัวเธอคือ คราบเลือดที่ยังไม่แห้ง ส่งกลิ่นชวนอ้วก ที่เลอะเต็มหน้าประตูของเธอ เธอเล่าเหตุการต่างๆให้เจ้าหน้าที่ฟังโดยมีพยานที่ยืนยันว่าได้ยินเสียงทุบประตู แต่ไม่มีใครกล้าออกไป เพราะคิดว่าเป็นเรื่องทะเลาะกันของสามีภรรยา

 

      หลังจากนั่น ... สามีของเธอก็หายตัวไป และเสียงทุบประตูก็มักจะดังขึ้นในเวลาที่สามีของเธอเลิกงาน จนกระทั่งตำรวจได้ตรวจพบ รถเก๋งเก่า ในรถพบศพของชายที่เป็นสามีของเธอ ลักษณะการนั่งมือเกร็ง และสิ่งที่น่ากลัว ที่ทำให้ตำรวจบางนายต้องหันหน้าหนีคือ หัวของชายหนุ่มสามีของเธอหายไป รอยแผลถูกตัดด้วยของมีคม ตำรวจพบมีดในมือผู้ตาย แต่ไม่มีใครระบุแน่ชัดว่า เขาฆ่าตัวตาย หรือเป็นฆาตกรรม เพราะ มีดที่อยู่ในมือของผู้ตาย มีแต่รอยนิ้วมือของเขานั่นเอง.... สิ่งสำคัญที่สุดคือ เวลาตายของชายหนุ่ม เขาตายก่อนหน้าที่ภรรยาสาวของเขา โทรแจ้งกับตำรวจ ประมาณ 3 ชั่วโมง นั่นคือเวลาที่หญิงสาวโทรไปหาเค้าในขณะที่มีคนทุบประตูอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หัวของเขาหายไปไหน หญิงสาวตัดสินใจย้ายออกจากอพาร์ทเม้นท์นั่น แต่ทุกวันเวลา 17.00 น. ผู้คนที่พักอาศัยมักจะได้ยินเสียงทุบประตูห้องนั่นเสมอ..... "

 

       " จบครับ " ผมพูดขึ้น ในขณะที่ทุกคนหน้าตาซีดเซียว จนไก่ต้มเรียกพี่อยู่แล้ว

 

       " เอาไป 7 กระโหลกเลย " ยูคยอมพูดขึ้น

 

       " แล้วตกลงมันมีผี หรือไม่มีฟะครับ " คุณลีดเดอร์ผู้น่าถีบ พูดขึ้น 

 

       " แล้วแต่จะคิดครับ " ผมจึงกวนกลับไป

 

       " อย่างเจ๋งอ่ะ จูเนียร์ฮยอง " แบมแบมพูด พร้อมยกนิ้วนิ้วโป้งให้ผม ของมันแน่อยู่แล้ว 55555

 

        " ใช้ได้ " มาร์คฮยองพูด พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย 

 

        " ......" ทุกคนหันไปมองหน้าแจ็คสัน ทั้งๆที่ปกติ หมอนั่นเป็นพูดมากที่สุดในวงแท้ๆ วันนี้มาแปลก เก็บปากเก็บคำเหลือเกิน

 

       "มองอะไรกันละครับ " แจ็คสันโวย บอกใบ้ว่า ไม่กลัวสักนิด แต่ตัวนี่เบียดยองแจจนจะสิงอยู่แล้วครับ คุณแจ็คสัน

 

       " อ้าวๆๆๆ คนต่อไป ฉันขอเป็นคนเล่าเอง "  ต่อไป ลีดเดอร์ออกโรงแล้วค้าบบบบบบบบ 

 

 

                              ขอบคุณที่แวะมาอ่านคะ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

      

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา