ถ้าไม่เจอความมืด คงไม่รู้จักแสงสว่าง
เขียนโดย Salz
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 05.51 น.
แก้ไขเมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 06.31 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันใช้ถนนเส้นนี้ในช่วงค่ำของทุกวันเพื่อเดินกลับบ้าน ฉันเดินฝั่งขวาของถนนเหมือนปกติ สมองกำลังจดจ่ออยู่กับเสียงเพลงจากไอพอดเครื่องเดิม สักพักจึงเริ่มสังเกตุเห็นว่าถนนดูมืดกว่าทุกวัน ฉันรีบเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ มันเป็นช่วงเวลาประมาณทุ่มครึ่งเหมือนปกติ แต่ไฟบนถนนต่างหากที่หายไป ไม่มีแสงสว่างจากเสาไฟสองข้างทางเหมือนเคย เเสงสว่างที่พาชั้นกลับบ้านอย่างปลอดภัยและทำให้อุ่นใจในเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิทแบบนี้ ความกังวลทำให้ฉันก้าวเท้ายาวและเร็วขึ้น รู้สึกหวาดกลัวกับทางที่ไม่มีแสงไฟข้างหน้า สมองลืมไปชั่วขณะว่าเพลงโปรดกำลังเล่นวนผ่านหูฟัง เดินผ่านสองข้างทางที่เคยสังเกตุเเละให้ความสนใจไปอย่างไม่เหลือบตามองเสียด้วยซ้ำ
รอยยิ้มที่คุนเคยปรากฎขึ้นมาในสมองอย่างฉับพลันและทำให้ฉันมีสติอีกครั้ง ฉันเริ่มเดินช้าลง แต่ความคิดและความรู้สึกต่างๆกลับพรั่งพรูเข้ามาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในเวลาที่ชีวิตเริ่มเจอกับความลำบากหรือไม่สบายใจ คนเรามักจะคิดถึงคนที่เคยทำให้เรามีความสุขที่สุดเสมอ รอยยิ้มที่คุนเคยกลับมาในความทรงจำของฉันอย่างไม่บอกกล่าว ใช่ เขาคือช่วงเวลาที่ทำให้ชีวิตฉันมีเเสงสว่างส่องทาง เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกปลอดภัยเเละอบอุ่น ช่วงเวลาที่บนถนนมีเสียงเพลงคอยให้ความสุขอยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาที่เพลิดเพลินไปกับสิ่งที่น่าค้นหาสองข้างทาง ฉันเคยมีช่วงเวลาที่เคยมีเขาคอยเดินเคียงข้างไปบนถนนที่มืดมิดและเป็นแสงสว่างของฉันเสมอ
ระหว่างที่เท้าก้าวเดินต่อไป ความคิดถึงใครคนนั้นกลับเพิ่มมากขึ้นในทุกก้าวที่เดิน ฉันคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาของฉัน มันเป็นเพราะฉันเองสินะที่ไม่เคยดูแลเเสงสว่างที่อบอุ่นของฉัน จนทำให้มันหายไป ฉันไม่เคยรู้คณค่าของมันเลย เพราะฉันคิดว่าแสงสว่างจะอยู่ส่องทางให้ฉันตลอดไป แต่เเล้วพอมันหายไปความมืดมันเข้ามาแทนแสงสว่างอย่างรวดเร็ว ฉันถึงได้เข้าใจว่าแสงสว่างที่อบอุ่นของฉันมันมีค่าแค่ไหน
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ