เพื่อนผมเป็นหุ่นยนต์

9.0

เขียนโดย อชิรญาฯ

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.33 น.

  4 คาบเรียนที่
  4 วิจารณ์
  7,507 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 21.39 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

3) หุ่นยนต์คนนี้ก็มีหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แสงแดดอ่อนยามเช้าทอประกายวิตามินอีเบาบาง แม้ลอดผ่านต้นไม้สูงจากหน้าคฤหาสน์ใหญ่ แต่แสงแดดอ่อนๆก็เพียงพอที่จะขับประกายแสงสีฟ้าจางออกมาจากร่างกายของเด็กสาว ดวงตาสีอำพันกลอกไปมาระหว่างกำลังมองแสงอาทิตย์

หุ่นยนต์อย่างเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่ออกแบบการสร้างมาเป็นพิเศษ เพราะไม่มีไฟฟ้าคอยไปเลี้ยงเครื่องกล แต่จะใช้แสงอาทิตย์ที่สังเคราะห์มาเป็นพลังงานเลี้ยงเครื่องจักรภายในแทน ดังนั้นทุกๆเช้าแบบนี้มะลิจึงต้องออกมายืนรับแสงแดดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงแปดโมง ลำพังแค่ชั่วโมงเดียวก็เพียงพอที่จะนำพลังงานไปสะสมไว้ได้ส่วนนึงแล้ว 

เรื่องนี้แม้มีเพียงนักวิทยาศาสตร์กับผู้ซื้อที่รู้ แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่ามะลิจะออกอาการเมื่อยล้า สำหรับเหล่าคนใช้ที่ตื่นแต่เช้า พอพวกมันเห็นว่าเด็กผู้หญิงคนใหม่ออกมายืนอยู่กลางแดดเป็นชั่วโมงๆโดยสีหน้าไปเปลี่ยนไปก็พากันแปลกใจ แต่ด้วยด้อยความรู้และไม่กล้าถาม จึงได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจ

เช้าวันนี้เรวินออกจากบ้านเร็วเป็นพิเศษ เนื่องด้วยต้องใช้การโดยสารรถประจำทางแทนรถส่วนตัว เขาจึงต้องแข่งกับเวลาเพื่อให้ไปถึงโรงเรียนเร็วขึ้น กว่ารถจะซ่อมเสร็จก็คงกินเวลาไปราวเดือนกว่า กระบังหน้า ไฟหัว-ท้ายแตกละเอียด ขอบประตูบุบ เครื่องยนต์ส่วนหนึ่งมีปัญหา ทีแรกพ่อบอกให้ขายทิ้งแล้วซื้อคันใหม่ แต่รถคู่ใจคันนี้อยู่กับเขามานาน การจะตัดใจซื้อคันใหม่จึงเป็นเรื่องยาก เลยเอามันเข้าอู่ซ่อมไปซะเลย

คนในรถเมล์พอมีบ้างประบางตา แต่ยังไงประเทศไทยคนก็แข่งขันกันสูง รถเมล์ฟรีสามชาติครึ่งยังไม่มาสุดท้ายเรวินก็ต้องขึ้นรถสายอื่นแทน แม้จะต้องทนยืนหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าไปถึงโรงเรียนได้ ยังไงซะก่อนจะมีรถเขาก็เริ่มต้นจากรถเมล์มาก่อนอยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ซี ^^

"ทำไมรถของเจ้านายถึงมีคนเยอะจังคะ?"

เสียงไพเราะอ่อนนุ่มดังเจื้อยแจ้วอยู่ข้างตัวเรวิน แม่ดอกมะลิสาวกำลังยืนเกาะแขนเขาแน่นอย่างหวาดกลัว ใบหน้าของนางออกจะซีดเผือดเมื่อรถเมล์ออกอาการชักกระตุก "ระ..เราจะไปถึงโรงเรียนมั้ยคะ"

เรวินเลือกที่จะไม่ตอบแต่กลับอมยิ้มแทน มือเล็กๆที่พยายามเกะกุมแขนเสื้อเด็กหนุ่มเอาไว้บางครั้งก็เริ่มหลุดจนต้องเบียดตัวแทรกเข้ามา บ้างครั้งก็เหนี่ยวยึดแน่นจนเกรงว่าจะขาด อาการแบบนี้แม่นี่คงจะกลัวรถเมล์ไม่ใช่น้อย

คงถูกแล้วล่ะ ผิวพรรณดี การพูดจาเสียงไพเราะ นางคงจะเป็นพวกลูกผู้ดีที่ไหนสักที่หนึ่ง 

"เราว่าเจ้านายลงจากรถคันนี้เถอะ เจ้านายเหงื่อแตกแล้วนะ" มะลิว่า มือไม้พยายามกระตุกแขนเสื้อเรวินถี่ยิบ 

ใช่! ..ใบหน้าของเขาแดง แต่ว่าแดงเพราะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมา 

"เจ้านายๆๆๆ รถจอดแล้วเราลงกันเถอะนะ"

มะลิยิ้มแป้นดีใจเมื่อรถเมล์จอดตรงป้าย แต่นั่นยังไม่ใช่ที่ที่เรียกว่าโรงเรียนอยู่ดี แม้จะดีใจที่รถจอด นางน่ะคือหุ่นยนต์ ย่อมต้องได้รับการป้อนข้อมูลก่อนจะมีคำสั่ง แต่เมื่อข้อมูลที่นอกเหนือความจำปรากฎออกมา หุ่นยนต์ก็เริ่มที่จะมีปฏิกิริยาต่อต้าน

เช่นเดียวกับตอนนี้ มะลิได้รับแค่ข้อมูลเส้นทางไป-กลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนด้วยรถยนต์เท่านั้น แต่เมื่ออยู่นอกเหนือความทรงจำ อาการต่อต้านจึงถือกำเนิดขึ้น

เด็กสาวกระตุกแขนเสื้อเรวินแรงขึ้นกว่าเดิม น้ำกลั่นหอมภายในชั้นซิลิโคนเริ่มแตกตัวออกมาเป็นเหมือนเหงื่อ แต่ต่างตรงที่ว่ามีความหอมหวาน

"ป... ไปจากที่นี่เถอะค่ะ ไปเถอะนะ" มะลิพูดด้วยความร้อนรน ตอนนี้เครื่องยนต์ภายในเริ่มติดขัด การเผาผลาญพลังงานในร่างกายค่อยๆหยุดช้าลง

ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ความถี่ของการกระตุกแขนเสื้อยิ่งเร็วมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นอีกหลายระดังยังผลให้แขนเสื้อเริ่มมีเสียงร้องประท้วง

เรวินดึงมือที่สั่นเงินงกของมะลิถอยออกห่างตัว ก่อนจะเดินไปกดกริ่งรถเมล์อย่างสบายอารมณ์

นี่ไม่ใช่ว่าเขาสงสารหรืออะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่า ป้ายที่กำลังจะถึงข้างหน้าคือโรงเรียนของเขาพอดี

"จะลงแล้วใช่ไหมคะเจ้านาย" มะลิยิ้มแป้นแม้เหงื่อเม็ดเป้งจะผุดขึ้นเต็มใบหน้า

"เออ!"

เรวินตัดบทห้วยแล้วเดินลงจากรถไปพร้อมโยนกระเป๋าสะพายใส่หน้าเพื่อนสาว "เอาไปถือซะ ...แล้วต่อจากนี้ไม่ต้องเรียนฉันว่าเจ้านายอีกนะ ขืนมีใครได้ยินคงเอาไปพูดกันว่าเทพบุตรอย่างฉันไปเป็นอะไรๆกับเด็กเกเรอย่างเธอ"

"แล้วจะให้เราเรียกว่าอะไรล่ะคะ เจ้านายก็ไม่เอา เรวินก็ไม่ชอบ?"

"กล้าเรียนฉันว่าที่รักมั้ยล่ะ"

เรวินหันมาฉีกยิ้มให้มะลิอย่างลวกๆก่อนจะเดินโบกมือนำหน้าไปโดยไม่แคร์อะไร "เอากระเป๋าฉันไปวางที่โต๊ะด้วยยัยโง่มะระ"

เด็กหนุ่มเดินจากไปด้วยท่าทางที่คิดว่าเทห์ที่สุด บรรดานักเรียนสาวต่างมองตามท้ายเรวินกันตาเป็นมัน บางส่วนที่เป็นส่วนน้อยก็หันมาส่งประกายวิบวับยากที่จะเดาใส่มะลิ เด็กสาวยังอ่อนนักที่จะไปรู้ว่าสายตาของคนพวกนี้คืออะไร แต่ที่แน่ๆเมื่อกี้เรวินยิ้มให้เธอด้วย ถึงจะไม่ได้ตั้งใจอะไร แต่ก็ยิ้มน่ะนะ

"งั้นเราจะเรียกเจ้านายว่าที่รักตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนะ"

 

 

"พลศึกษา ไม่ใช่วิชาที่ทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำให้คนเรามีประสิทธิภาพในการทำกิจวัตรประจำวันมากขึ้นอีกด้วย แม้คะแนนชี้วัดในวิชาพลของเราจะมีน้อย แต่ก็เป็นคะแนนช่วยที่จะฉุดให้วิชาอื่นๆดีขึ้นไปด้วย

ครูไม่ได้สอนวิชาการต่อสู้ให้เพื่อไปรบ แต่จะสอนวิชาการต่อสู้ให้พวกคุณได้ป้องกันตัวเองจากอันตรายที่คาดไม่ถึง เช่นการทะเลาะวิวาท อะไรประมาณนี้...."

อาจารย์หนุ่มแน่นวัยสามสิบปีกำลังอธิบายเรื่องราวเรื่อยเปื่อยตามสไตล์ 

วิชาพลศึกษาเป็นวิชาที่ออกจะไม่ค่อยทำอะไรมากนอกจากสอบและวิ่งเล่น วิชานี้สำหรับเรวิน เขาว่ามันเป็นคาบว่างซะมากกว่า เพราะเมื่ออาจารย์สอนเสร็จแล้วก็มักจะปล่อยให้พวกนักเรียนฝึกซ้อมกันเอง ดังนั้น...งีบ!!

เสื้อยืดแขนสั้นกับกางเกงเดฟยืดขายาว ถึงจะดูเกงก้างแต่เมื่อสวมทับลงบนร่างบางสมส่วนของมะลิก็ำให้ของดาษดื่นธรรมดาดูมีราคาขึ้นได้

แม้เป็นวันที่สองของการเข้าเรียน แต่เด็กสาวก็มีพัฒนการในการเรียนรู้ที่ก้าวกระโดด นางสามารถจดจำใบหน้าของเหล่าเพื่อนร่วมห้องได้มากขึ้น อีกทั้งการพูดจายังเป็นธรรมชาติลื่นไหลเหมือนคนปกติ แม้จะมีการถามอยู่บ้างถึงในสิ่งที่ไม่รู้ แต่ก็ไม่มีใครสงสัยกับคำพูดของเด็กสาว

มะลิเข้าร่วมกลุ่มกับพวกนักเรียนหญิงแล้วกระโดดโลดเต้นไปกับพวกนาง ดูแล้วมะลิก็ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา ไม่แน่ว่าการคลุกคลีอยู่กับมนุษย์ธรรมดาอาจทำให้นางลืมเลือนเรื่องที่ตนเองเป็นหุ่นยนต์ไปแล้วก็ได้

อาคารพลศึกษาเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยงคางหมู ถึงจะมีห้องหับไม่มาก แต่สนามอเนกประสงค์ติดแอร์ก็กว้างใหญ่พอสำหรับนักเรียนหลายห้องมาอยู่รวมกัน ไม่สิ จะบอกว่าทั้งสายชั้นมาร่วมเรียนด้วยก็ยังเหลือที่ว่างอีกมาก

เรวินนั่งเอนตัวอยู่บนอัฒจัณฑ์ยะระดับ ดวงหน้าเขาออกจะกระเดียดนิดหน่อยพอเห็นมะลิโบกมือมาทางนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามไม่ส่งนิ้วกลางออกไป แต่สุดท้ายก็โยนอะไรเล็กๆน้อยๆตอบโต้ลงไปบ้างอยู่ดี

"เห้ยเพื่อนนนนน!.." เด็กหนุ่มคนหนุ่งเดินขึ้นมาตบไหล่เรวินดังป้าบก่อนนั้งลงข้างๆเขา

เบราส์มีเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศษ แต่ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะได้แม่มาเยอะ ทำให้ไม่ว่าจะมองยังไงไอ้หนุ่มคนนี้ก็ไม่เหมือนคนฝรั่งเศษอยู่ดี

ด้วยความสูงถึงร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร บวกกับรอยยิ้มเจ้าชู้รักสนุกของเขา ทำให้เบราส์มีเป็นพ่อเสือหนุ่มคาสโนว่าประจำห้อง 4/5 

ถึงการดำรงตำแหน่งเลขานุการมิคาเอลแก๊งค์จะดูยิ่งใหญ่สำหรับใครๆ แต่การได้อยู่กับสาวสวยอย่างประธานลริลถือเป็นเรื่องกว่าสำหรับเขา

เบราส์มีมองลงไปที่สนามกีฬาพร้อมเอนตัวนอนเช่นเดียวกับเรวิน

"เด็กใหม่ห้องเราแจ่มเนาะว่ามั้ย ^^" เบราส์มีพูดพร้อมเลียริมฝีปาก

"ชอบรึไง มะลิอะไรนั่นน่ะ"

"อย่าบอกนะว่าเอ็งไม่ชอบน่ะ?" เบราส์มีเลิกคิ้วสูง เรสินแค่ยักไหล่ไม่ว่าอะไร "เหยดดดดดด! สวยขนาดนั้นเอ็งก็ไม่สนเหรอวะเพื่อน เห็นที่เค้าลือๆกันว่าเด็กใหม่กับเอ็งสนิทกันคงน่าจะจริงว่ะ ฮ่าๆ!" เด็กหนุ่มเสียงดังแล้วต่อยแขนเรวินไปสองสามที "ร้ายนะเนี่ยไอ้เสือ"

"เหอะ! ตรงไหนวะ สวยก็งั้นๆ ขาวก็งั้นๆ ถึงจะสนิทกันแต่ก็ยัยนั่นคนเดียวนั่นแหล่ะ ใช่ว่าฉันจะอยากสนิทด้วยซะที่ไหน"

"อั๊ยยะ! มีเขินด้วย" เบราส์มีกระเซ้า "รู้น่า คนอย่างเอ็งน่ะ พอเจอคนสวยๆเข้าหน่อยก็อ่อนไปทั้งตัวแล้ว ยิ่งคนสวยๆแบบเด็กใหม่คนนั้นมาสนิทด้วย ข้ารู้...ในใจเอ็งน่ะคิดลึกนะ"

เลขานุการหนุ่มใช้ศอกกระทุ้งสีข้างเพื่อนพร้อมทำท่า 18+ ใส่ เล่นเอาเรวินต้องยันโครมเพื่อนสนิทแทบตกอัฒจัณฑ์ในข้อหารู้มาก

"เก็บมันไว้เข้าห้องน้ำเถอะไอ้เบราส์มี"

เรวินตัดบทแล้วเดินกลับลงไปสมทบกับเพื่อนๆในสนามกีฬา

มะลิยิ้มร่าไม่ยอมหยุดเลย ตั้งแต่เจอนางก็ยิ้มแป้นตลอดเวลา เหล็กดัดในปากไม่พังไม่หมดแล้วรึไงวะ?

"ไปอู้มาเป็นยังไงบ้างที่รัก ^^"

"เหอะ! เริ่มลามปามแล้วนะ ใครบอกว่าฉันอู้วะ" เรวินทำหน้าไม่สบอารมณ์

"เพื่อนในห้องน่ะ ^^ ว่าแต่คาบนี้ใกล้จะหมดเวลาแล้วนะ ที่รักจะกลับบ้านเลยมั้ย เราจะไปเอากระเป๋ามาให้"

"ไม่ล่ะ เธอกลับไปก่อนเลยดีกว่า ฉันกะว่าจะไปเซ็คความเรียบร้อยที่ร้านสักหน่อย"

"ร้าน? ร้านขนมเมื่อวานเหรอคะ? เราไปด้วยนะ ครั้งนั้นมีขนมเค้กที่อร่อยด้วย เราอยากไปกิน ^^"

มะลิกระโดดเข้ามาเกาะแขนเรวินไว้แน่น บรรดาเพื่อนๆทั้งในห้องและต่างห้องพากันมองมาที่สองหนุ่มสาวกันตาเป็นมัน หลายคนมีแววตาสงสัย แต่หลายคนที่ตั้งกระแสคู่รักคู่จิ้นในโรงเรียนก็พากันถ่ายรูปไปซะยกใหญ่

ถึงจะค่อนข้างเอิกเกริกไปบ้าง แต่เรวินก็ไม่ได้คิดค้านอะไร เขาแกะมือของมะลิออกลวกๆก่อนจะเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดด้านในสุดของสนามกีฬา

"ฉันให้เวลาแค่สิบนาที ถ้าอยากไปก็ไปเปลี่ยนชุดซะแล้วไปเจอฉันที่หน้าโรงเรียน"

เรวินเดินล้วงกระเป๋าจากไปอย่างกับบอยแบนด์ สาวๆบางคนที่อดใจไม่ไหวกับความหล่อเหลาขั้นเทพถึงกับลมแทบจับ แม่เจ้า! ทำไมผู้ชายคนนี้น่ารักน่าฟัดขนาดนี้นะ

อีกด้านหนึ่ง เรวินเข้ามาในห้องแต่งตัวแล้วก็รีบเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลอวทันที

ใบหน้าหล่อเหล่าขาวตี๋แปรเปลี่ยนเป็นซาตานร้ายชั่วครู่

...ยัยโง่เอ๊ยยยย! ขึ้นปล่อยให้ไปด้วยก็ซวยนะสิครับ โดนหลอกไปซะมรึง!..

เรวินล้วงโทรศัพท์ออกมาก่อนดึงซิมภายในตัวเครื่องออกมาหักทิ้ง "พ่อคิดเหรอว่าผมจะมีซิมการ์ดแค่เครื่องเดียว ฮ่าๆๆๆ"

เด็กหนุ่มจัดแจงยัดซิมเบอร์ใหม่ที่แอบฅื้อเอาไว้ใส่ในโทรศัพท์ โอ้....ทำไม่พระเจ้าถึงกลั่นแกล้งเราด้วยนะ คนอะไรนอกจากจะหล่อโคตรๆแล้วยังฉลาดเป็นปรดอีก อาาาไอโฟนพ่อ ทีนี้ลูกก็ไม่ต้องถูกตามแล้วนะจ๊ะ

เป็นไทยแล้วเว้ยยยยยยย!!

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา